14 พ.ย. 2019 เวลา 13:10 • ท่องเที่ยว
เที่ยวคนเดียวที่"เชียงคาน" ตอนที่ 2
วันนี้เริ่มต้นกันในวันที่ 19/10/2019 เเผนการวันนี้คือ สำรวจบริเวณถนนคนเดินเชียงคานต่อ ตอนเที่ยงวันก็ไปเเวะฝั่งลาว เเละตอนบ่ายก็ไปเเก่งคุดคู้
ในซอย 19 ถัดจากซอยผมไปนิดเดียวก็จะเจอกับ สถานที่เก่าเเก่ ที่ยังคงอนุรักษ์เอาไว้ จนถึงปัจจุบัน
เฮือนตาสิงห์คำ หรือบ้านตาสิงห์คำ เป็นบ้านที่มีอายุ กว่า 120 ปี เป็นบ้านเเบบดั่งดิมของที่นี่ ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นเชียงคานไว้ได้อย่างดี
ภายในตัวเฮือนจะเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ หรือเป็นเเหล่งเรียนรู้ส่วนเจ้าของบ้านจะอยู่ด้านบนบ้านชั้นสอง เลยถือโอกาสนี้สำรวจเเละเรียนรู้ที่นี่เองซะเลย
รูปภาพเเสดงถึงวิถีชีวิตสมัยก่อน
หัวข้อสำคัญในการศึกษาที่นี่คือ
1. ทำไมเป็นบ้านตาสิงห์คำ
เพราะว่า...บ้านตาสิงห์คำเป็นบ้านรูปแบบดั่งเดิมของที่นี่สร้างโดยคนที่มีฐานะพอสมควร และผู้สืบทอดคือตาสิงห์คำ เรือนหลังนี้อายุ ร้อยกว่าปี และปัจจุบันยังคงรักษาเรือนหลังเดิมไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ยกเว้นเพียงแค่หลังคาที่สึกกร่อนไปตามอายุ จึงใช้วัสดุใหม่เข้าทดแทนคือเป็นสังกะสีแทนกระเบื้อง นอกจากนี้ยังเป็นที่รวบรวมความเป็นมาของรูปแบบบ้านในแถบเชียงคานอีกด้วย
2. ความพิเศษ...เรือนหลังนี้เก็บประวัติเรื่องราวดั่งเดิมอันน่าสนใจคือ การสร้างบ้านเรือนบริเวณนี้ไม่ได้สร้างตัวเรือนยกสูงเพื่อหนีน้ำอย่างเช่นภาคกลาง เพราะน้ำไม่สามารถท่วมขึ้นเกินริมตลิ่งได้ แต่เพราะว่าต้องการให้ไม้ที่สร้างเป็นบ้านไม่โดนความชื้น และหลีกหนีแมลงรวมถึงการถ่ายเทของอากาศให้ดีขึ้นด้วย
เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ทำให้วิถีชีวิตสุขสบายขึ้น
หลังจากนั้นก็ไปทำเรื่องผ่านเเดนที่อำเภอเชียงคาน ใช้เวลาไม่นาน เเละเสียค่าธรรมเนียมเพียง 40 บาทเท่านั้น
เเละก็ไปหาเรือข้ามฟาก ซึ่งก็เสียค่าโดยสายอีก 60 บาท
เเต่บอกเลย ค่าธรรมเนียมฝั่งลาวนี้เเพงกว่าฝั่งไทยมาก 5555 เป็นร้อยบาท
เเอบไปถ่ายบ้านเมืองเค้ามา ไม่รู้จะโดนข้อหาลิขสิทธิ์หรือเปล่านะ เเต่ก็ถ่ายมาเเล้ว ก็เอาลงละกัน
จากที่เห็น ก็พบว่าบ้านเมืองคล้ายกับไทยมาก ซึ่งจากการสำรวจครั้งนี้ผมได้ตอบคำถามสำคัญดังนี้
1. ความเหมือนระหว่างวัฒนธรรมไทยกับลาว
สิ่งที่ได้...ความจริงแล้วหากนำเฉพาะคนที่แต่งกายตามปกติ ผมก็แทบแยกไม่ออกด้วยซ้ำว่าบุคคลนั้นมาจากประเทศอะไร ทั้งรูปร่างหน้าตา ภาษาพูด เครื่องแต่งกายต่างได้รับอิทธิพลร่วมกันกันเสมอ ในครั้งแรกที่ขึ้นฝั่งที่ประเทศลาว ผมได้ยินดนตรีที่บรรเลงในงานสังสันต์ก็เป็นเพลงที่มาจากลูกทุ่งของไทยทั้งสิ้น นอกจากนี้เพลงบางเพลงยังเป็นภาษาไทย(กลาง)ด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร ด้วยสภาพทางพื้นที่ที่อยู่ชิดติดกัน แน่นอนว่าอิทธิพลต่างๆเหล่านี้ต้องหลอมรวมกันจนแทบแยกไม่ออกอยู่แล้ว
2. ความแตกต่างระหว่างไทยกับลาว
สิ่งที่ได้...อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าความแตกต่างระหว่างสองฟากไทยลาวนั้นมีน้อยมากแต่ก็เห็นความบ้างเช่น ที่ลาวมีการมีการประดับธงคอมนิสต์ไว้กับธงประจำชาติ ซึ่งบ่งชี้ว่า ยังมีการปกครองด้วยระบคอมมิวนิสต์ เเละก็สัญชาติละมั้งที่เเตกต่าง
3. เหตุใดพื้นที่ที่อยู่ติดกันถึงแตกต่างกัน ไทย/ลาว
ระบุสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น
สิ่งที่ได้...
จากการสำรวจพบว่า บริเวณฝั่งลาวและไทยค่อนข้างจะแตกต่างกันพอสมควร ด้วยที่ว่าฝั่งไทยจะมีเศรษฐกิจและความเจริญของบ้านเมืองที่มากกว่า ในขณะที่ฝั่งลาว มีความเจริญที่น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งระบบสาธารณูปโภคต่างๆ และเทคโนโลยี ผมจึงได้ระบุสาเหตุขั้นต้นมาคร่าวๆไว้ดังนี้
1. ด้านนโยบายของภาครัฐ
2. ด้านความตื่นตัวของประชาชน
3. ความสนใจของนักท่องเที่ยว
4. ความเป็นเเหล่งเศรษฐกิจ
จากนั้นตอนกลางวันก็ทานตัมซั่ว ราคา 40 บาท ถ้าเทียบกับปริมาณเเละความเเซ่บเเล้ว บอกเลยคุ้มมากๆ
จากนั้นมาต่อกันที่ เเก่งคุดคู้ครับ ซึ่งผมปั่นจักรยานมาจากที่พัก เพราะดูจากเเผนที่ ประกอบกับคำเเนะนำจากคนในพื้นที่บอกว่าห่างไปเพียงเเค่ 4.5 กิโลเท่านั้น
สถานที่นี้ฉากหลังสวยงามมาก ดั่งที่เห็นในภาพ เเละผู้คนก็เยอะจริงๆ มีกิจกรรมเศรษฐกิจให้พบเห็น เช่นการค้าขาย เเละบริการที่พักที่อาศัย
คำถามสำคัญดังนี้
1.อะไรคือแก่ง
ในส่วนนี้ผมจะขอบรรยายตามสิ่งที่เห็น คือบริเวณที่เป็นแก่งจะมีลักษณะของแท่งหินที่ขวางกั้นลำน้ำ ทำให้บริเวณนั้นเกิดความต่างของระดับน้ำ และส่งผลให้น้ำในแม่น้ำไหลแรงขึ้น
2.แก่งส่งผลอย่างไรต่อวิถีชีวิตผู้คน
จากการไปสัมผัสพบว่า บริเวณที่เป็นแก่งนั้นมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของผู้คน เป็นแบบตติยภูมิ ซึ่งเป็นการค้าขายและบริการ เพราะต้องตอบโจทย์ให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพัก
เเละเเล้วก็ได้เวลากลับ
ผมกลับมาที่พักเดิมอีกครั้ง เเละใช้เวลาส่วนใหญ่ทบทวนสิ่งที่ได้พบเจอมา เเละสรุปเป็นประเด็นสำคัญๆ ถึงเเม้จะไม่ใช้ทุกอย่าง เเต่ก็ทำได้เฉพาะที่เห็นซึ่งในส่วนนี้ ทุกคนต้องอ่าน เเละรับฟังด้วยวิจารณญาณของตนเอง
เเละขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการสนับสนุน
#สาธารณศึกษา #FeelTrip
#เรียนรู้อะไรก็ได้ #เรียนรู้ที่ไหนก็ได้
โฆษณา