14 พ.ย. 2019 เวลา 13:32 • บันเทิง
Review
จอมขมังเวทย์ 2020
ช่วงเวลาแห่งความน่าเบื่อ หงุดหงิด และกุมขมับไม่รู้กี่รอบ มันเกิดขึ้นกับตัวผมตลอดเวลา 120 นาที ที่ได้สดับรับชมหนังเรื่องนี้ เราชื่นชมในความกล้าคิดกล้าทำของทางผู้กำกับและสตูดิโอ ที่พุ่งไปในทางแฟนตาซีแบบเต็มตัว ความสมจริงโยนมันทิ้งไป และเล่าเรื่องโลกของไสยเวทย์ ยันต์ และมนต์ดำไปแบบสุดโต่ง บวกกับโทนสีของหนังที่มีความจัดจ้านสวยงาม คือคำชมสิ่งเดียวที่คุณจะได้เห็นจากรีวิวนี้ เพราะทั้งหมดที่เหลือมันคือความเละเทะที่หนังได้ฝากไว้กับตัวผม
การเล่าเรื่อง คือ สิ่งที่เป็นแผลใหญ่ที่สุดของหนังเรื่องนี้ หนังวางเส้นเรื่องของตัวละครไว้ค่อนข้างมากมาย และก็ไม่สามารถที่จะจัดการและควบคุมมันได้เลย ตัดต่อ สลับไปมามั่วซั่ว เดี๋ยวหน้าเดี๋ยวหลัง จัดเรียงลำดับภาพได้โครตมหาแย่ ทำให้เรางุนงงกับเนื้อเรื่องไปหมด ว่าตรงนี้เป็นมายังไง เห้ยมึงควรไปตรงนี้ก่อนไหม แล้วมึงจะรีบตัดไปไหน แล้วมึงคือใคร มึงไปรู้ได้ยังไง ไปฝึกไปทำมาตอนไหน คือมันเกิดคำถามขึ้นในหัวเต็มไปหมด บางส่วนก็ไม่เล่าไม่กล่าวถึง เล่นกระโดดข้ามไปดื้อๆ ประมาณว่ามึงอยากรู้ก็ไปคิดเอาเอง ยัดนู้นยัดนี้เข้ามาเต็มไปหมด ทั้งๆที่ความสามารถก็ไม่มี เล่าได้ก็ไม่ครบ ไม่อิน ไม่คล้อยตามไปกับหนังเลย แบนโครตๆ อย่างเรื่องยันต์ที่เป็นเหมือนดั่งธีมของหนัง หนังก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกมีความสนใจในเรื่องนี้เลยแม้เเต่น้อย ส่วนที่เป็นจุดพลิกก็รู้สึกเฉยอย่างมาก เพราะดันไปเล่นกับอะไรที่มันตลกและมักง่ายสุดๆ
ความตลกที่หนังพยายามจะยัดเข้ามาผ่านตัวละคร 2 ตัวที่เป็นเพื่อนของพระเอก เราก็เห็นว่ามึงไม่ต้องเอามาก็ได้ เอามาทำไม ไม่ได้มีส่วนอะไรเลย ไม่ได้ขำ ไม่ได้เพิ่มมิติอะไรเลยซักนิดเดียว ไม่ได้ผิดที่นักแสดงแต่ผิดที่บทที่ส่งกับการตัดต่อ การจัดลำดับอารมณ์ของหนังที่ไม่ดีพอ มันกระโดดเกินไป ประมาณว่ามึงอย่าพึ่งมาได้ไหม ไปไหนก็ไป ไปสัส
หนังมีความละครอยู่เต็มไปหมด เพราะตัวละครหลายๆตัว ถ้าคุณเข้าไปดูจะเข้าใจว่าหนังเรื่องนี้ทำไมมันละค๊อนนนละครเหลือเกิน คาเเรคเตอร์ ตัวละครต่างๆ คอสตูมแม่งโครตจะละครเลย แถมพล็อตของหนังก็โครตจะสุดแสนธรรมดาไม่ได้มีความหวือหวา คาดเดาได้ และก็ไม่น่าตื่นเต้นอะไรทั้งสิ้น ซึ่งจริงๆแล้วพล็อตก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างซักทีเดียว เพราะหนังที่มีพล็อตธรรมดาก็สามารถทำให้สนุกและดีได้ อย่างเช่น Crawl พล็อตหนังจระเข้ไล่ฆ่าคนที่ได้ยินกี่ทีก็เบือนหน้าหนี แต่ Crawl สามารถทำให้หนังที่พล็อตสุดแสนจะธรรมดากลายเป็นหนังสยองขวัญที่ลุ้นจนเยี่ยวจะแตกคาเบาะได้
Casting ที่เหมือนจับฉลากมาแสดง บอกตรงๆว่าเราไม่ได้มีความอินกับตัวละครที่นักแสดงแสดงเลยแม้แต่น้อย เว้นแค่ตัวละครจอมขมังเวทย์ในตำนานที่ได้อานก ฉัตรชัย เปล่งพาณิชย์ มาลงยันต์ โชว์ความขลังให้ได้ชม ยังคงดูน่าเกรงขามและดูเป็นรุ่นเก๋าของจริง แม้ว่าบทของหนังเรื่องทั้งเรื่องจะดูบ้าๆบอๆ ไร้ซึ่งความคม เกาหัวหยิกๆก็ตามแต่
สรุป แม้ว่าในปัจจุบันวงการภาพยนต์ไทย จะมีหนังไทยหลายๆเรื่องที่เริ่มมีแนวทางไปในทางที่ดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว แต่ จอมขมังเวทนา 2020 ก็ยังคงไม่ใช่หนังไทยที่อยู่ในจุดนั้นจริงๆ เรายังคงต้องพบเจอกับความจำเจ ซ้ำซากอย่างที่เคยได้เห็นผ่านๆมาโดยตลอด หนังเรื่องนี้ยังขาดส่วนผสมที่ดีไปมาก บัคยังเยอะ หวังว่าภาคต่อไปคงจะทำได้ดีกว่านี้ละกัน เห้อมมมม
โฆษณา