16 พ.ย. 2019 เวลา 03:48 • การศึกษา
eGFR อัตราการกรองของเสียของไต (Estimated glomerular filtration rate หรือเรียกย่อ ๆ ว่า “GFR”)
คือ การตรวจหาค่าอัตราการไหลของเลือดผ่านตัวกรองไตในหนึ่งนาที โดยเป็นค่าที่ได้จากการคำนวณ Creatinine เพศ อายุ และเชื้อชาติของผู้รับการตรวจแต่ละคน (ค่า Creatinine ยิ่งสูง จะยิ่งทำให้ GFR มีค่าต่ำ)
ปัจจุบันนี้วงการโรคไตทั่วโลกรวมทั้งสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ได้เปลี่ยนมาใช้ค่า GFR ในการบอกสถานะของโรคไตแทนค่า Creatinine แล้ว
ในคนปกตินั้นจะมีค่า GFR อยู่ที่ประมาณ 125 มล./นาที แต่ถ้าตรวจพบว่ามีค่าต่ำกว่า 90 ก็ถือว่าไตเริ่มเสื่อมแล้ว) เพราะค่านี้มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยแบ่งระดับความรุนแรงของผู้ที่มีระดับ Creatinine ผิดปกติว่ามีความรุนแรงของโรคไตเรื้อรังอยู่ในระยะใด ใน 5 ระยะ
กล่าวคือ ไตมี 5 ระยะ ได้แก่
ระยะที่ 1 ค่า GFR ≥ 90 มล./นาที (หรือ ml/min/1.73 m2) เป็นระยะที่ตรวจพบพยาธิสภาพที่ไตแล้ว (เช่น มีนิ่ว กรวยไตอักเสบ ไตบวม) แต่ไตยังทำงานปกติ
ระยะที่ 2 ค่า GFR = 60 - 89 มล./นาที เป็นระยะที่ไตเริ่มทำงานผิดปกติเล็กน้อย
ระยะที่ 3 ค่า GFR = 30 - 59 มล./นาที เป็นระยะที่ไตทำงานผิดปกติปานกลาง
1
ระยะที่ 4 ค่า GFR = 15 - 29 มล./นาที เป็นระยะที่ไตทำงานผิดปกติอย่างมาก
ระยะที่ 5 ค่า GFR < 15 มล./นาที เป็นระยะสุดท้ายที่ถือว่าไตพังไปแล้วเรียบร้อย (ต้องบำบัดทดแทนโดยใช้ไตเทียมหรือล้างไตทางหน้าทัองทดแทนจึงจะมีชีวิตอยู่ได้)
การดูแลตนเองหาก GFR มีค่าต่ำ
1.ควบคุมโรคที่เป็นสาเหตุทำให้ไตเสื่อมให้ดี โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
2.รับประทานอาหารสุขภาพ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอตามควรแก่สุขภาพ
3.ใช้ยาอย่างถูกต้อง เหมาะสม และภายใต้คำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร
4.ปรึกษาแพทย์และตรวจติดตามค่า GFR เป็นระยะตามที่แพทย์สั่ง
5. หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วย ผงชูรส คนอร์ อาหารแปรรูป
6. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
7. เลิกสูบบุหรี่
8. ไม่ใช้ยาหม้อ ยาต้ม ยาลูกกลอน
เพจพยาบาลอยากเล่า
## stage 3-5 CKD ประมาณ 2 ล้านคน
โฆษณา