17 พ.ย. 2019 เวลา 03:32 • ไลฟ์สไตล์
อย่าให้ประสบการณ์เป็นอุปสรรค!!
สมัยเสนองานวิจัยใน IEEE งานยากสำหรับนักศึกษาปริญญาโท อาจารย์ที่ปรึกษาที่เคารพสอนเสมอว่า “คุณคือคนทำ คุณเท่านั้นที่รู้” เค้าถึงเรียกว่า “เจ้าของผลงาน”
หลักการนี้ยังใช้ได้ดีเสมอมาในการทำงานปัจจุบัน ทำมากเท่าไหร่ การคาดคะเนก็แม่นเท่านั้น ประสบการณ์ก็เช่นกัน มันไม่ได้มาจากกระดาษ มันมาจากการลงมือทำ!!
การทำงานในทุกองค์กรให้ค่าคนมีประสบการณ์เสมอ ค่าตัวแพงค่าแรงดี มันเป็นเรื่องปกติ แต่ก็เพราะประสบการณ์อันมั่นใจนี่แหละ บางครั้งก็ทำให้เกิดอุปสรรคในการทำงาน
เพราะจงอย่าลืมว่า ประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา หลักการมันอาจจะใช้ได้ แต่วิธีการมันอาจต้องเปลี่ยน เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนแปลงเสมอ
เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ประสบการณ์ก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน การค้าปัจจุบันเป็นเทรนของคนยุคใหม่ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเรื่องวิธีการและหลักการคิด
ในองค์กรที่มีความผสมผสานระหว่างคนหลายยุค ในฐานะคนรุ่นเก่าต้องปรับตัว ฟังคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น เพราะวันนี้ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด มีแต่ภารกิจ ที่ต้องนำพารายได้เพื่อองค์กร
หากคุณเคยดูหนังเรืองทีใครทีมัน เรื่องราวของโปรกอฟล์ที่มีพ่อเป็นแคดดี้ มีฉากหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนแคดดี้ใหม่ แทนพ่อที่เคยเป็นแดดดี้ในการแข่งทุกรอบ
ทางทีมผู้บริหารตัดสินใจว่า ต้องเปลี่ยนเพราะต้องการให้โปรได้ไปต่อยังสนามใหญ่ในการแข่งขันต่างประเทศ ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนระหว่างพ่อและโปรกอฟล์
พ่อผู้เคยเคียงข้างลูกตลอดเวลาก็ไม่พอใจในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพราะเป็นการลดบทบาทลงอย่างสิ่นเชิง แต่เมื่อเขาได้พบแคดดี้คนใหม่ เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่เข้าใจในสนามแค่เพียงเดินตามรอบเดียว
ทำให้เข้ารู้ว่า แม้ประสบการณ์เขาจะพาลูกชายก้าวมาเป็นโปรได้ แต่มันยังไม่พอที่จะให้ลูกชายได้โตไปกว่านี้ได้ เพราะแคดดี้มืออาชีพกับอาชีพแคดดี้มันต่างกัน เขาจึงถอยเพื่อให้ลูกชายได้ไปต่อ
เล่ามาตั้งนานก็เพื่อจะบอกว่า ประสบการณ์ที่มีมันดีอยู่แล้ว แต่มันอาจจะดีไม่พอ ใน พ.ศ. ที่เปลี่ยนไป การฟังจะปรับทัศนคติตรงนี้ลงได้ เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็น
จงฟังเขาแม้เราจะอายุมากกว่า เพราะการพัฒนามันยังคงต้องพึ่งพาเด็กรุ่นใหม่ ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด มีแต่เติบโตไปด้วยกันในวันที่ต่างวัย
#วิถีเซลบ้านนอก
#iampatthanid

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา