17 พ.ย. 2019 เวลา 12:33 • ธุรกิจ
สิ่งที่คุณชอบ เป็นสิ่งที่ตลาดต้องการหรือเปล่า?
Image : BP Guide India
Brand Positioning หรือจุดยืนในการทำธุรกิจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากจะเป็นอะไรอย่างเดียว แต่ต้องมาดูด้วยว่า สิ่งที่เราอยากเป็น มันสอดคล้องกับความต้องการของตลาดด้วยหรือเปล่า ต้องเอาสองเรื่องมาผสานกัน เช่น ฉันชอบอาหารทำรูปแบบนี้ อันนี้เป็นจุดยืนของฉัน แต่ขณะเดียวกันฉันก็มีตลาดที่จะซื้อฉันด้วย
Image : Ocnnannies
ฉะนั้น ก่อนที่จะลุกขึ้นมาสร้าง Brand Awareness มาป่าวประกาศโฆษณาออกไปว่า ฉันเป็นใคร ฉันเก่งตรงไหน หาตัวเองให้เจอก่อน หาจุดยืนตัวเองให้เจอก่อน ไม่งั้นก็ได้แต่พูดว่า “มาช่วยซื้อสินค้าของฉันหน่อย แต่ก็จะมีคนถามว่า “จะเอาไปเพื่ออะไร พี่เก่งตรงไหนเหรอ”
ถ้าเราเก่ง แต่มีคนอื่นเก่งกว่า ก็แปลว่า เวลาเราสร้างแบรนด์ เราต้องหาคำว่า “กว่า” หรือคำว่า “พิเศษ” เพราะมันมีสิ่งที่เรียกว่า Basic Requirement มันเป็น Point of Parity เป็นความต้องการของตลาด หมายถึง คนกินข้าว ก็ต้องกินข้าวที่มันอร่อย ไม่อย่างนั้นจะไม่เอาเข้าปาก เราเรียกว่า Basic Requirement (ความต้องการขั้นพื้นฐาน)
Image : FoodFusion
แต่ถ้าคุณจะหาจุดที่แตกต่าง ก็ต้องบอกว่า อาหารอร่อยที่ว่าเนี่ย ฉันทำได้ “เร็วกว่า” ฉันทำได้ “ดีกว่า” ฉันทำได้ “ถูกกว่า” ฉันทำได้ “คุณภาพมากกว่า” วัตถุดิบฉันมีความ “พิเศษมากกว่า” ฉันวิจัย และใส่ใจใน “รายละเอียดมากกว่า” ฉันแตกต่างจากคนอื่นยังไง ฉันให้อะไรที่ดีกว่า ฉันทำอะไรก็ได้ที่ตอบโจทย์พื้นฐานทางสังคมมากกว่า
ต้องหาอะไรที่มัน On Top คำว่า “อร่อย” เพื่อให้มีสิ่งที่เรียกว่า Point of Difference พูดอะไรก็ได้ แต่มัน “มากกว่า” อย่างที่เราพูดหรือเปล่า แต่พูดแล้วต้องทำจริง!
Image : SlideShare
ฉะนั้น Point Of Parity (POP) คือ สิ่งที่ตลาดต้องการ และ Point Of Difference (POD) เป็นที่มาของ Brand Positiong หรือจุดยืนในการทำธุรกิจ ที่มีคุณค่า ที่แตกต่างและพิเศษกว่าคนอื่น
คุณจะดำรงอยู่ในธุรกิจได้ยังไง ถ้าไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มันผิดวิสัยนักธุรกิจ!
Create : NokCB
Credit : ดร.ศิริกุล เลากัยกุล
Blockdit : BirdBrand & Nok Creative Branding
โฆษณา