27 พ.ย. 2019 เวลา 23:00 • ไลฟ์สไตล์
🌟 กลอนแปด / แสงดาว
ชื่อบทร่างเดิม / ดวงดาว
💡แรงบันดาลใจ / นึกถึงที่เที่ยวหน้าหนาวที่เคยไปนอนดูดาว เห็นชัดมากๆคือที่ดอยเสมอดาว
📷 ภาพประกอบ / เป็นภาพแสงกระจายจากสปอร์ตไลท์ ตอนผมฝ่ารถติดอยู่บนสะพานหน้าเมกาบางนา
ภาพดาวพร่างพราว โดย @45
🎈 นภากาศวาดแต้มแซมจุดขาว
1
✨ ส่องสกาวพราวแสงแปลงอับสร
✨ อัจจิมาฉายแล้วแซ่วลงนอน
✨ มิขอจรจากไกลไปไหนเลย
🎈 ค่ำลมพรมจมสุขสมคะนึง
✨ โอบรัดรึงตรึงจิตคิดเฉลย
✨ โอ้ละหนอออเจ้าเฝ้าทรามเชย
1
✨ รักจริงเอยเปรยชมสมอุรา
🎈 สำเภาโล้โต้คลื่นกลืนนที
✨ ตรมสุขขีปรีดิ์เปรมสิเน่หา
✨ โตรกไศลลัดเลี้ยวเกี้ยวสัญญา
✨ แดนสุขาวดีที่รัญจวน
📝 วันนี้ตั้งใจฝึกแต่งกลอนแปดให้ได้ซักเรื่อง ก็นึกถึงบทร่างกลอนเรื่องดวงดาว ที่ตั้งชื่อคาไว้ในบทร่างนานหลายวันแล้ว ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นแสงดาว
✏ เหมือนเคยครับ ผมตั้งใจจะแต่งแค่สามบท โดย..
📍บทแรกพูดเรื่องคู่รักนอนดูดาวบนท้องฟ้า
📍บทสองเป็นฉากเข้าพระเข้านางใต้แสงดาวนั้น
📍บทสามเป็นฉากโล้สำเภาสู่ปลายทางแดนสุขาวดี
📢 ผมมีความหมายของคำที่เราไม่ค่อยได้ใช้และเสริมบรรยายความหมายตามเจตนาของผู้แต่งไว้ดังนี้
นภากาศ = ท้องฟ้า
อัปสร = นางฟ้า
อัจจิมา = แสง
ตรมสุข = สุขที่อยู่ในทุกข์
โตรก = ช่องเขา
ไศล = เขาหิน
เกี้ยว = พูดให้อีกฝ่ายรัก
สุขาวดี = ชื่อสวรรค์
รัญจวน = ปั่นป่วนใจ
🔭 เวลานอนดูดาวในที่ฟ้ามืดๆ เราจะเห็นดาวชัดมากๆ นั่นทำให้จินตนาการลอยออกไปได้ไกลจนสุดขอบดาวดวงสุดท้ายเลยทีเดียว
📝 ตั้งใจว่าจะแต่งบทสุดท้ายให้สื่อถึงตอนที่เราลอยไปยังจุดสูงสุดของขอบจักรวาลดาวดวงสุดท้ายแล้วตกลงมาที่เดิม เหมือนดาวตกส่องแสงสว่างลุกโชติช่วงเป็นครั้งสุดท้าย แล้วที่เหลือเป็นเพียงท้องฟ้ามืดมิดที่สงบเงียบ
😓 แต่พยายามแล้วก็ไม่สามารถที่จะแต่งออกมาได้ดีอย่างที่อยากให้เป็น
💌 จึงขอจบกลอนแปดสามบทนี้ฝากเอาไว้ให้ระลึกถึงยามนอนดูดาวใต้แผ่นฟ้าสีดำที่มืดสนิท ณ แห่งนั้น
แถมภาพต้นฉบับปิดท้ายให้ครับ
ภาพโดย @45
📣 แนะนำติชมกันได้ครับ
วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีครับ 🙏
อ่านกลอนอื่นเพิ่มเติมได้ที่ซีรีส์ " โคลงฉันท์กาพย์กลอน "

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา