21 พ.ย. 2019 เวลา 12:02 • ธุรกิจ
🔆 แนวความคิดธุรกิจของ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" สานต่อธุรกิจของครอบครัวจนประสบความสำเร็จ 🔆
วันนี้นักการเมืองไทยที่คนพูดถึงเยอะที่สุดคงหนีไม่พ้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตผู้บริหาร Thai summit ผู้ที่พาบริษัทเบาะรถยนต์สัญชาติไทย ขยายรายได้และจนเติบโตไปสู่ต่างประเทศ
บทความนี้เราจะพูดถึงแนวทางทำธุรกิจแบบเลนด่วน
ของคุณธนาธรกัน ว่าเค้ามีวิธีคิดอย่างไร ที่เป็นประโยชน์กับคนอย่างเราบ้าง ตามไปเซอร์เวย์กันครับ
⭐ Background :
"เอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เป็นลูกเจ้าของบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ Thai summit อย่าง พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ
คุณเอกได้รับอิทธิพลความชอบรถยนต์จากธุรกิจที่บ้าน จึงศึกษา ป.ตรี ด้านวิศวกรรมเครื่องกล และไปต่อ ป.โท ที่มหาลัย Nothingham ประเทศอังกฤษ
ด้วยความเป็นคนไม่ศรัทธาระบบการศึกษาเท่าไหร่ และเข้าร่วมแต่กิจกรรม เกรดจึงแย่มาก ถึงขั้นเกือบรีไทร์ แต่มีคอนเนคชันจากกิจกรรมเยอะแยะมาก
ในช่วงเรียนต่อที่อังกฤษ ก็ดรอปเรียนโดยทางบ้านไม่รู้ ไปร่วมงามกับ NGO ด้านเยาวชนที่ไนจีเรีย
⭐ Starting point :
จุดเริ่มต้นในการกลับมาบริหารธุรกิจครอบครัวต่อคือ "การเสียชีวิต" ของคุณพ่อ พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ
ในวัย 23 ปี เอก ธนาธร ต้องรับบทเป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัท Thai summit อย่างไม่ทันตั้งตัว
บริษัทแห่งนี้บริหารด้วยระบบเถ้าแก่มาก่อน เรียกว่าไม่มีความเป็นมาตรฐาน คล้ายๆระบบกงสีสมัยก่อน
⭐ Problem and Turning point :
ถึงจะบอกว่าไม่ต้องสร้างธุรกิจเอง มีคนทำมาให้แล้วมันจะง่าย แต่ด้วยความที่ไม่ได้สนใจการเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่แรก พอได้เข้ามาบริหารจริงก็เข้ามาอยู่ในตำแหน่งสูงเลย แน่นอนว่า งง และทำตัวไม่ถูก
ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ จึงเปลี่ยนแปลงระบบแบบเดิมๆ โดยสร้างระบบและใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย
มีการเปลี่ยนความคิดพนักงานจากมา"ขายแรงงาน" ให้คิดนวัตกรรมที่ดีเพื่อลูกค้า เพื่อผู้อื่น
แน่นอนว่าคนที่อยู่หน้างานย่อมรู้ดีกว่าผู้บริหารอย่างเขาอยู่แล้ว คุณเอกมีหน้าที่แค่กระตุ้นให้ลูกน้องคิด สิ่งที่ช่วยประหยัดเวลา และให้ไปทำสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า
ถึงระบบจะเปลี่ยนแปลงทันสมัยขึ้น แต่รายได้บริษัทก็ไม่ก้าวหน้าไปไหน เนื่องจากตลาดเริ่มอิ่มตัว มีแต่ลูกค้าเดิมๆ
คุณเอก จึงขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศ โดยไปตั้งโรงงานไว้ หวังว่ายอดขายจะเพิ่มมหาศาล แต่‼กลับขาดทุนหนัก เพราะไม่เข้าใจวัฒนธรรมของแต่ละที่
จึงได้มีการจ้างผู้บริหารที่เป็นคนประเทศนั้นๆมาบริหารเพื่อที่จะเข้าใจตลาด ลูกค้า พนักงาน และวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ
จุดเปลี่ยนสำคัญคือ การได้รับงานจาก Tesla motor ของ Elon Musk
ในช่วงวิกฤต 2008-2011 หลายโรงงานปิดตัว แต่ Thai summit เป็นบริษัทใหญ่เดียว ที่ยังยืนหยัด ยอมถอนโรงงานที่อังกฤษแล้วนำทุนไปลงโรงงานที่อเมริกาเพียงโรงงานเดียวที่เหลืออยู่
เมื่อคู่แข่งหายหมด เเละเรายังยืนอยู่ได้โดดเด่น พอดีกับที่ Tesla มีโปรเจ็กต์ทำให้เป็นเราที่ได้รับงานไป
จุดนี้ทำให้มีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ และรายได้เติบโตจาก 12,000 ล้าน เป็น 80,000 ล้านได้‼
⭐ Key success :
1. ตัดสิ่งไม่จำเป็น เสริมจุดแข็งและคุณค่าหลักขององค์กร อะไรที่คนอื่นทำได้ดีกว่าก็ใช้ supplier
2. พัฒนาสินค้าด้วยตัวเอง
ทำให้สินค้ามีจุดเด่น และสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง ลงทุนในระบบ R&D จากเดิมพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ
3. บริหารคนเป็น
มีการให้ KPI และกำหนดวิสัยทัศน์ให้ทั้งลูกน้องและหัวหน้ามีทิศทางที่ชัดเจน กล้าตัดสินใจ โดยยึดคนเป็นหัวใจหลัก
"หัวใจสำคัญของการบริหารคนคือการทำให้พนักงานมีความสุข ผมว่าปัจจัยที่ทำให้คนลาออก บางครั้งไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เป็นเพราะเขาไม่มีความสุข ฉะนั้นทำให้พนักงานรู้สึกว่างานที่ตัวเองมีความหมาย และทุกคนมีคุณค่า อย่าลืมให้ความสำคัญตรงนี้" ธนาธร กล่าว
จริงที่ว่าแต่ละคนมีพื้นฐานที่ไม่เท่ากัน มีต้นทุนมาไม่เหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีการเรียนรู้ ผมคิดว่าต่อให้มีเป็นพันล้านมันก็หมดลงได้ 🤔
1
สิ่งที่สำคัญคือการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง วิสัยทัศน์ mindset และการลงมือทำ ที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ
เมื่อมีมากพอแล้ว ก็ถึงเวลาทำตาม passion อย่างคุณธนาธร ที่สละตำแหน่งประธานบริษัท มาลงเล่นการเมืองเต็มตัว
ซึ่งไม่ว่าความต้องการของเค้าจะคือ อยากให้ประเทศดีขึ้น อยากมีชื่อเสียง หรืออยากจะทำอะไรก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือ เค้าได้ทำสิ่งที่อยากทำ ได้อย่างเต็มที่ ✅
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ 😊
Je' taime❤
โฆษณา