“มารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) ราชินีองค์สุดท้ายแห่งฝรั่งเศส” ตอนที่ 6 (ตอนจบ)
อวสานราชินี
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และครอบครัว ต้องเสด็จไปประทับที่พระราชวังตุยเลอรี
ทุกพระองค์ยังคงดำเนินพระจริยวัตรตามเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนในเมืองนั้น ม๊อบกำลังประชุมเรื่องการจัดตั้งพระประมุขที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ กษัตริย์ต้องแบ่งอำนาจกับผู้แทน ประชาชนมีสิทธิออกเสียงเลือกตัวแทนได้
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เมื่อสูญเสียพระราชอำนาจก็ทรงตรอมพระทัย ไม่ต่างจากพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ที่ก็ทรงตรอมพระทัยเมื่อพระราชสวามีต้องเสียอำนาจปกครอง
ถึงแม้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อ็องตัวแน็ตจะถูกควบคุมองค์ แต่พระองค์ก็ยังคงได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ต่างจากเดิม
แต่ลึกลงในพระทัย ทุกพระองค์ต่างกังวลว่าความสุขสบายนี้จะอยู่ต่อไปได้อีกนานแค่ไหน ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากต่างต่อต้านพระองค์
ในที่สุด พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ก็ทรงตัดสินพระทัยจะทำบางอย่าง และสิ่งที่จะทำนี้ทั้งเสี่ยงและอันตราย
นั่นคือการหนี
ทุกพระองค์ต้องทรงปลอมพระองค์และหลบหนีในเวลากลางคืน
20 มิถุนายน ค.ศ.1791 (พ.ศ.2334) ทุกพระองค์ทรงทำทุกอย่างตามปกติ ในช่วงเย็น พระนางมารี อ็องตัวแน็ตและนางข้าหลวงได้นำเหล่าพระราชบุตรมายังรถม้าที่จอดคอยอยู่
พระนางมารี อ็องตัวแน็ตได้เสวยพระกระยาหารเย็นให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อที่จะได้ดูไม่น่าสงสัย จากนั้นพระองค์และเหล่าพระราชวงศ์ก็เสด็จขึ้นรถม้า
พระนางมารี อ็องตัวแน็ตและพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้ทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์เป็นเสื้อผ้าคนรับใช้และหนีออกจากวังทางรถม้า
นอกเมืองปารีส ทุกพระองค์ได้เปลี่ยนรถม้า ในรถม้าคันใหม่นี้มีทั้งอาหารและครัวขนาดเล็ก โดยนางข้าหลวงนั้นได้ปลอมตัวเป็นหญิงชั้นสูง ส่วนเหล่าพระราชวงศ์ทรงปลอมองค์เป็นคนรับใช้
ทุกพระองค์ต่างรีบเสด็จไปยังชายแดน และทรงหวังว่าจะมีผู้ที่สนับสนุนราชวงศ์ถวายความช่วยเหลือ
แต่รถม้านั้นไปได้ช้ามาก รถม้าต้องคอยหยุดทุกๆ 15 ไมล์ (24 กิโลเมตร) เพื่อเปลี่ยนม้า แต่ทุกพระองค์ก็ยังทรงเบาพระทัย ดูเหมือนจะไม่มีใครตามมา
แต่แล้ว ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ดูเหมือนจะมีคนจำเหล่าพระราชวงศ์ได้ ดังนั้นเมื่อรถม้ามาหยุดพักยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พระราชวงศ์จึงถูกควบคุมองค์
วันต่อมา ได้มีคนของกลุ่มม๊อบได้มารับเหล่าพระราชวงศ์และพากลับพระราชวัง
ขากลับนั้นแย่กว่าขามามาก อากาศนั้นร้อน การเดินทางก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า และมีประชาชนตะโกนก่นด่าทุกพระองค์ไปตลอดทาง
เมื่อกลับถึงพระราชวัง ทุกพระองค์ถูกจับตามองทุกฝีก้าว
14 กันยายน ค.ศ.1791 (พ.ศ.2334) พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้รับรัฐธรรมนูญที่ร่างโดยรัฐบาลใหม่ โดยรัฐธรรมนูญนี้ได้ระบุให้มีการเลือกผู้แทน รวมถึงมีการจำกัดพระราชอำนาจขององค์กษัตริย์
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ต้องทรงเซ็นรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
พระองค์ทรงพระกรรแสงขณะเซ็นพระปรมาภิไธยลงในรัฐธรรมนูญ
ในขณะเดียวกัน พระนางมารี อ็องตัวแน็ตยังไม่ทรงยอมแพ้ พระองค์ทรงทำทุกวิถีทางที่จะฟื้นฟูอำนาจ พระองค์ทรงส่งจดหมายหลายฉบับให้เหล่าพระราชวงศ์ต่างๆ ในยุโรป โดยเขียนด้วยหมึกล่องหนบ้าง และยังซ่อนจดหมายไว้ในหมวกหรือกล่องช็อกโกแลต
พระองค์ทรงส่งจดหมายถึงพระประมุขหลายพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นปรัสเซีย สเปน สวีเดน
ในที่สุด ออสเตรียและปรัสเซียก็ประกาศสงครามต่อฝรั่งเศส โดยมีจุดประสงค์เพื่อฟื้นฟูพระราชอำนาจของกษัตริย์และโค่นสภาใหม่
แต่ชาวฝรั่งเศสก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะล้มอำนาจของราชวงศ์
10 สิงหาคม ค.ศ.1792 (พ.ศ.2335) กลุ่มม๊อบได้ทำการโจมตีพระราชวังตุยเลอรี
พวกเขาได้ฆ่าเหล่ามหาดเล็กและองครักษ์ จากนั้นก็บุกเข้าไปยังห้องบรรทมของแต่ละพระองค์ และเก็บเครื่องเพชร ของมีค่าต่างๆ รวมถึงฉลองพระองค์ของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต
เหล่าพระราชวงศ์ได้ถูกย้ายไปประทับยังอาคารชุมนุม ตอนนี้ทุกพระองค์ได้เป็นนักโทษทางการเมือง
ทุกพระองค์ต้องประทับในคุกที่ถูกจัดไว้
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และครอบครัวมีชีวิตอย่างยากลำบากในคุก แต่ถึงอย่างนั้น ผู้คุมก็ยังให้เกียรติทุกพระองค์และดูแลอย่างดี
ในขณะเดียวกัน ที่ประชุมแห่งชาติได้ประกาศให้ฝรั่งเศสเป็นสาธารณรัฐ จะไม่มีราชวงศ์อีกต่อไป
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไม่เหลือพระราชอำนาจอะไรอีกต่อไป พระองค์ทรงถูกสอบสวนและถูกตัดสินให้ประหารด้วยกิโยติน
20 มกราคม ค.ศ.1793 (พ.ศ.2336) พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ได้ตรัสลาครอบครัวของพระองค์ และพระองค์ได้พระราชทานคำสัญญาว่าจะมาพบทุกพระองค์ในเช้าวันต่อไป
แต่พระองค์ไม่สามารถทำได้
วันต่อมา 21 มกราคม ค.ศ.1793 (พ.ศ.2336) พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ถูกประหาร
เดือนกรกฎาคมของปีนั้น ทางการได้แยกพระนางมารี อ็องตัวแน็ตกับพระราชโอรส และในเดือนสิงหาคม พระนางมารี อ็องตัวแน็ตก็ได้ถูกย้ายไปประทับยังคุกแห่งใหม่
พระนางมารี อ็องตัวแน็ตถูกนำองค์ขึ้นสอบสวนในเดือนตุลาคม ค.ศ.1793 (พ.ศ.2336)
พระองค์ทรงเปลี่ยนไปมาก ฉลองพระองค์นั้นดูเก่า ไม่สวยงามเหมือนแต่ก่อน พระวรกายทรุดโทรม พระเกษาเปลี่ยนเป็นสีขาวจนพระองค์ดูมีพระชนม์มากกว่าความเป็นจริงทั้งๆ ที่พระองค์เพิ่งจะมีพระชนมายุยังไม่ถึง 40 พรรษา
พระองค์ทรงถูกตัดสินว่ามีความผิดหลายข้อหา มีการกล่าวหาว่าพระองค์ทรงวางแผนจะหักหลังฝรั่งเศสตั้งแต่เสด็จมาประทับยังฝรั่งเศสตั้งแต่ช่วงแรกๆ นอกจากนั้น ยังมีการกล่าวหาว่าพระองค์เป็นสายลับ และยังส่งทองคำกลับไปยังออสเตรีย อีกทั้งยังทำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ทรงตัดสินพระทัยผิดพลาดหลายครั้ง
หลายข้อหาที่กล่าวนั้นไม่มีหลักฐานเพียงพอ แต่ในเวลานี้พระนางมารี อ็องตัวแน็ตก็ไม่เหลืออำนาจที่จะโต้ตอบอะไรได้อีกต่อไป
พระนางมารี อ็องตัวแน็ตถูกตัดสินให้ประหารด้วยกิโยตินเช่นเดียวกับพระราชสวามี
16 ตุลาคม ค.ศ.1793 (พ.ศ.2336) พระนางมารี อ็องตัวแน็ตกำลังทรงสวดมนต์ และอยู่ๆ ก็ได้มีทหารมารับพระองค์ออกจากคุก
ทหารได้ทำการมัดพระหัตถ์ของพระองค์และตัดพระเกษาของพระองค์
ทหารทำการผูกเชือกและจูงพระองค์ไปยังเกวียนที่ถูกเตรียมไว้
พระองค์ถูกนำไปยังลานประหารบนเกวียนซึ่งล้อมรอบด้วยทหารหลายนาย
เกวียนของพระนางมารี อ็องตัวแน็ตได้เคลื่อนไปตามถนน ซึ่งตลอดทางนั้น ประชาชนต่างตะโกนด่าพระองค์
ณ ลานประหาร ผู้คนต่างมาออกันเต็มลานที่จะใช้ประหาร
พระนางมารี อ็องตัวแน็ตเสด็จลงจากเกวียนและก้าวขึ้นไปสู่ลานประหาร
เพชฌฆาตได้จับพระองค์เข้าไปในกิโยตินและปล่อยใบมีดลงมา
พระเศียรของพระองค์หล่นลงตะกร้าที่เตรียมไว้
เมื่อเพชฌฆาตชูพระเศียรของพระองค์ขึ้นมา ฝูงชนก็ตะโกนก้อง
“สาธารณรัฐจงเจริญ”
ภายหลังจากพระนางมารี อ็องตัวแน็ตสวรรคต ฝรั่งเศสก็ยังไม่เรียบร้อยซะทีเดียว
ได้มีการประหารผู้คนและมีเหตุวุ่นวายต่างๆ ตามมาอีกมากมาย และฝรั่งเศสก็ยังต้องผ่านร้อนผ่านหนาวอีกมากมาจนถึงทุกวันนี้
จบลงแล้วสำหรับซีรีย์ชุดนี้ สำหรับเรื่องต่อไปที่จะมาต่อคือ
“ยุคตื่นทองในสหรัฐอเมริกา (Gold Rush) ยุคแห่งทองคำในแคลิฟอร์เนีย”
ฝากติดตามด้วยนะครับ
- 36
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
