ทำไม ยูเซน โบลต์ ถึงโดนยึดเหรียญทองโอลิมปิก?
เมื่อพูดถึงเจ้าลมกรดหรือสุดยอดนักวิ่งมืออาชีพในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกๆคนคงรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อของ ยูเซน โบลต์ (Usain Bolt) นักวิ่งชาวจาไมก้าอย่างแน่นอน
ยูเซน โบลต์แจ้งเกิดจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อปี 2008 โดยการคว้าเหรียญทองถึง3เหรียญ ประกอบด้วย 100เมตรชาย 200เมตรชาย และ วิ่งผลัด4X100เมตรประเภททีมชาย
ในการแข่งขัน4X100เมตรประเภททีมชาย ทีมของโบลต์ประกอบไปด้วยนักวิ่งเจ้าลมกรด 4 คนคือ ไมเคิล เฟรเตอร์ อซาฟา พาว เนสต้า คาร์เตอร์และตัวเขาเอง โดยทั้ง4คนคว้าเหรียญทองในรายการนี้กลับบ้านประเทศจาไมก้าอย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้โบลต์ยังสร้างสถิติโลกในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตรชายในโอลิมปิก 2008 อีกด้วย ซึ่งภายหลังเขาได้มาทำลายสถิติของตัวเองในการแข่งขันวิ่งชิงแชมป์โลกที่เยอรมันในปี 2009 ซึ่งก็คือ 100 เมตรชาย 9.58 วินาที และ 200 เมตรชาย 19.19 วินาที โดยสถิติดังกล่าวยังไม่มีใครสามารถทำลายได้มาจนถึงปัจจุบัน
เข้าสู่โอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ โบลต์กลับมาด้วยความพร้อมมากๆ เขาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้ถึงสามเหรียญเช่นเคย โดยเป็นรายการเดิมกับที่เขาทำได้เมื่อปี 2008 ทั้งหมด (100 เมตรชาย 200 เมตรชาย และ วิ่งผลัด 4X100 เมตรประเภททีมชาย)
โบลต์มาพร้อมตำแหน่งแชมป์เก่าที่คว้าเหรียญทองเมื่อโอลิมปิกครั้งก่อนเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทีมประกอบไปด้วย ยูเซน โบลต์ ไมเคิล เฟรเตอร์ เนสต้า คาร์เตอร์ และ โยฮัน เบลค ที่มาแทนอซาฟา พาว เมื่อ 4 ปีก่อนว่าเก่งแล้วแต่ทีมปีนี้แข็งแกร่งกว่าเดิม นั่นจึงทำให้พวกเขาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ทั้ง 4 คนสร้างสถิติที่ไม่มีใครทำมาก่อนโดยการเข้าเส้นชัยในเวลาเพียงแค่ 36.84 วินาที เป็นสถิติโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ถึงตอนนี้ ยูเซนโบลต์ ทำสิ่งที่เรียกว่า ดับเบิล-ทริปเปิล ได้ ซึ่งหมายถึงการได้เหรียญทอง 3 เหรียญในการแข่งขันโอลิมปิก 2 ครั้งติดกัน
4 ปีผ่านไป ยูเซน โบลต์กลับมาสู้ศึกโอลิมปิกอีกครั้ง ครั้งนี้จัดขึ้นที่ ริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล แต่ปีนี้ฟอร์มของโบลต์ดูจะฝืดลงไปหน่อยเนื่องด้วยวัยที่มากขึ้น
โบลต์ ไม่ได้ทำลายสถิติอะไรในครั้งนี้เลย แต่เขาก็ยังคงสามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญในรายการเดิมเช่นเดียวกับปี 2008 และ 2012
แต่ครั้งนี้สมาชิกทีมในการแข่งขันวิ่งผลัด 4X100 เมตรทีมชายเปลี่ยนไป… ยูเซน โบลต์ และ โยฮัน เบลค ยังอยู่เหมือนเดิมโดยได้ อซาฟา พาวที่แข่งเมื่อโอลิมปิก 2008 เข้ามาแทนไมเคิล เฟรเตอร์ที่แข่งเมื่อปี 2012 และ นิคเคิล แอชเมด ลงแข่งแทน เนสต้า คาร์เตอร์
คาร์เตอร์ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยอ้างว่ามีอาการเจ็บเข่า อย่างไรก็ตาม แม้ทีมจะเปลี่ยนไปแต่จาไมก้าก็ยังคงคว้าเหรียญทองได้อยู่ดี
ถึงตอนนี้อาจกล่าวได้ว่าโบลต์ กลายเป็นนักกีฬาวิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ เขาสามารทำ ทริปเปิล-ทริปเปิล (Triple-Triple) หรือการเป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 3 เหรียญในรายการเดียวกันติดกันสามครั้ง ในกีฬาโอลิมปิก
อย่างไรก็ตาม ยูเซน โบลต์เป็นเจ้าของทริปเปิล-ทริปเปิลได้ไม่ถึงปี ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น…
25 มกราคม 2017 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลขอให้ ยูเซน โบลต์ ส่งเหรียญทองโอลิมปิกจากปี 2008 คืน 1 เหรียญ
โบลต์ซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรถึงกับงงว่า ทำไมต้องส่งคืน เขาทำอะไรผิด
เหรียญที่คณะกรรมการโอลิมปิกให้ส่งคืนไม่ใช่เหรียญการแข่งขันแบบเดี่ยว แต่เป็นเหรียญวิ่งผลัด 4X100 เมตรประเภททีมชาย โดย โบลต์ ช็อคกับเหตุผลในการยึดเหรียญโอลิมปิกคืน เพราะมันไม่ได้เป็นความผิดของเขา…
เหตุการณ์นี้ไม่รู้ว่าถูกไหมหากจะใช้คำว่า ”ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง”
นักกีฬาวิ่งผลัด 4X100 เมตรประเภททีมชายจากปี 2008 ทั้ง 4 คนคือ ยูเซน โบลต์ ไมเคิล เฟรเตอร์ โยฮัน เบลค และเนสต้า คาร์เตอร์ ต้องส่งเหรียญคืนเนื่องจากมีการตรวจพบว่า เนสต้า คาร์เตอร์ ใช้สารกระตุ้นที่เรียกว่า Methylhexaneamine ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อสารต้องห้ามขององค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) มาตั้งแต่ปี 2004
จริงๆ แล้วก่อนโอลิมปิก 2008 ก็ได้มีการตรวจการใช้สารกระตุ้นของ เนสต้า คาร์เตอร์ แล้ว แต่กลับไม่พบอะไร จนเรื่องมาแดงเอาในปี 2017 เนื่องจากทางโอลิมปิกดันมาตรวจสารกระตุ้นอันเดิมของนักกีฬา 454 คนจากเมื่อปี 2008 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึงของ คาร์เตอร์ ด้วย
หลังจากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้จาไมก้าถูกยึดเหรียญทองไป และประเทศที่ได้อันดับสองเมื่อปี 2008 อย่างตรินิแดดจึงคว้าเหรียญทองไปแทน แต่ก็เป็นการได้เหรียญให้หลังถึงเกือบ 9 ปีด้วยกัน
อันดับ 3 อย่างประเทศญี่ปุ่นจึงขึ้นมาได้เหรียญเงิน และอันดับ 4 บราซิลขึ้นมาได้เหรียญทองแดงแทน
“คุณฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลาหลายปีเพื่อจะคว้าเหรียญทองให้ได้เรื่อยๆ และเพื่อเป็นแชมป์ แต่มันดันมาเป็นเพราะเรื่องแบบนี้” โบลต์ให้สัมภาษณ์พร้อมกับบอกว่า เขาถึงกับใจสลายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และคงไม่มีวันได้เหรียญคืนมาอีกแล้ว
ท้ายบทสัมภาษณ์ ด้วยความรักเพื่อนของโบลต์ เขาไม่ได้ติติงคาร์เตอร์เลยแถมยังบอกว่าเขาเป็นห่วงคาร์เตอร์ และหวังว่าคาร์เตอร์จะผ่านเรื่องแย่ๆนี้ไปได้
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ยังคงจำภาพของยูเซน โบลต์ในฐานะนักกีฬาเจ้าลมกรดที่เก่งที่สุดในโลกคนนึงอยู่ดี แม้เขาจะไม่ได้ทริปเปิล-ทริปเปิลแล้วก็ตาม
การแข่งขันเป็นทีมก็แบบนี้ ชนะก็ชนะเป็นทีม แพ้ก็แพ้เป็นทีมและการโกง ถึงแม้จะมีคนโกงแค่คนเดียวในทีม ก็เท่ากับว่าทีมนั้นเป็นทีมที่โกงอยู่ดี
ปล. ภาพจากซ้าย อซาฟา พาว เนสต้า คาร์เตอร์ ยูเซน โบลต์และ ไมเคิล เฟรเตอร์ ระหว่างฉลองชัยชนะในโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่งก่อนที่ภายหลังเหรียญทองดังกล่าวจะถูกยึดกลับไป
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
