27 พ.ย. 2019 เวลา 07:00 • ประวัติศาสตร์
"นายกโจว 4"
หลังจากที่โจวเอินไหลได้พ้นจากการถูกจับกุมของทางการจีน เขาตัดสินใจเดินทางสู่ประเทศฝรั่งเศสภายใต้การช่วยเหลือทางด้านการเงินส่วนหนึ่งของ หยานซิว (Yan xiu) ผู้ก่อตั้งโรงเรียนและมหาลัยหนานไคที่เมืองเทียนจินที่ชื่นชมในความสามารถของโจวเอินไหล
นอกจากนั้นเขายังได้รับงานเป็นนักเขียนข่าวรายงานสถานการณ์ในยุโรปให้กับหนังสือพิมพ์ที่เทียนจิน
เดือนธันวาคม ค.ศ. 1920 โจวเอินไหลได้เดินทางมาถึงเมืองมาร์กเซย (Marseille) ในประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับนักเรียนจากจีนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับทุนเพื่อศึกษาพร้อมทำงานซึ่งแตกต่างจากโจวเอินไหลที่พึ่งรายได้ของตัวเองเป็นหลักจากงานหนังสือพิมพ์โดยที่ไม่ได้เข้าศึกษาในสถาบันใดในฝรั่งเศส
1
โจวเอินไหลที่ประเทศฝรั่งเศส ปี.ค.ศ.1920
ด้วยเหตุนี้ทำให้เขามีเวลามากพอที่จะศึกษาสภาพทางสังคมในต่างประเทศและวิธีการแก้ไขปัญหาสังคมเพื่อนำมาปรับใช้ในประเทศจีน
ขณะอยู่ที่นั้นเขาได้เขียนจดหมายถึงญาติเพื่อแสดงวิธีการที่เป็นไปได้ในการพัฒนาประเทศจีนซึ่งแบ่งออกเป็นสองทางคือ 1.ใช้การปฎิรูปอย่างค่อยเป็นค่อยไปเหมือนอย่างประเทศอังกฤษ และ 2.ใช้วิธีสร้างความรุนแรงเหมือนอย่างในรัสเซีย แต่อย่างไรก็ตามเขาเล่าต่อไปว่าเขาคิดว่าสิ่งที่เขาจะนำมาใช้คือบางส่วนจากทั้งสองวิธีนี้ ไม่ใช้วิธีใดวิธีหนึ่งที่สุดโต่ง
อย่างไรก็ตามโจวเอินไหลยังคงมีความสนใจที่จะศึกษาต่อ เขาได้เดินทางไปที่ประเทศอังกฤษในเดือน มกราคม ค.ศ.1921 เพื่อเยี่ยมชมมหาลัยเอดินบะระ(University of Edinburgh) แต่เนื่องด้วยเขามีเงินไม่พอที่จะศึกษาต่อและเรื่องความต้องการทางด้านภาษาของมหาลัย ทำให้เขาไม่ได้สมัครเข้าเรียน
หลังจากนั้นเมื่อโจวเอินไหลได้เดินทางกลับมาสู่ฝรั่งเศส เขาได้ถูกชักชวนโดย จางเซินฟู(Zhang Shenfu)และหลิวชิงหยาง(Liu Qingyang) ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มคอมมิวนิสต์จีน และเขาก็ตกลง และจากนั้นไม่นานได้รวมกลุ่มกับคนจีนที่มาจากหูหนานซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองมอนตาร์จิส(Montagis) ทางตอนใต้ของปารีสซึ่งต่อมาได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของพรรคหนึ่งในนั้นคือ เติ้งเสี่ยวผิง
เกิดเป็นกลุ่มคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในปารีสในเวลานั้น
จางเซินฟู (Zhang Shenfu)
จากนั้นเขาได้ย้ายไปทำงานที่กรุงเบอลินระยะหนึ่งซึ่งที่นั่นมีสำนักงานคอมมิวนิสต์สากลตั้งอยู่ ด้วยสภาพทางการเมืองที่ผ่อนปรน จึงเหมาะเป็นฐานขององค์กรคอมมิวนิสต์ในแถบยุโรป
เดือนมิถุนายน 1922 โจวเอินไหลได้กลับมาที่ปารีสอีกครั้งเพื่อมารับหน้าที่เป็นกรรมการบริหารของพรรคฝ่ายประชาสัมพันธ์และเป็นบรรณาธิการให้กับนิตยาสารของพรรค ซึ่งขณะที่เขาทำงานที่นี้ก็ได้พบกับเติ้งเสี่ยวผิงซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 17 ปี เป็นครั้งแรก โดยที่เติ้งเสี่ยวผิงมีหน้าที่ใช้งานเครื่องโรเนียวเพื่อตีพิมพ์สื่อสิ่งพิมพ์ให้กับโจว
เติ้งเสี่ยวผิงขณะศึกษาที่ปารีส(1921)
ในประเทศจีนช่วงนั้นยังเป็นยุคของความแตกแยกหลังสิ้นสุดระบบกษัตริย์ เกิดขุนศึกที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ปกครองกลุ่มของตนเองมากมาย
1
ในเดือนมิถุนายน 1923 ก็เป็นปีที่พรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศจีนได้มีการประชุมหารือกันและเห็นด้วยที่จะร่วมมือกับพรรคก๊กมินตั๋งภายใต้การนำของ ดร.ซุนยัดเซ็น ในประเทศจีน จากคำแนะนำของพรรคคอมมิวนิสต์สากลของรัสเซีย ด้วยวัตถุประสงค์ร่วมกันคือขจัดขุนศึกรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่น
1
ตอนต่อไปจะมาเล่าถึงบทบาทของโจวเอินไหลหลังจากที่ทั้งสองพรรคได้ร่วมมือกันแล้ว จะเป็นอย่างไรโปรดติดตามได้ในตอนถัดไปครับผม
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่ติดตามครับ/\
References:
4.ประวัติศาสตร์จีนสมัยใหม่ (History of Modern China), รศ.มาตยา อิงคนารถ, ภาควิชาประวัติศาสตร์
โฆษณา