ถ้าคุณกำลังเจอมรสุมชีวิต อยากให้คุณสละเวลาสัก 2 นาทีมาอ่านเรื่องนี้ครับ
.
ชีวิตมันก็คือสงคราม
มีผู้คนและสิ่งต่างๆมากมายที่พยายามทำให้คุณนั้นล้มลง
บางอย่างอาจจะผิดพลาด
และเมื่อสิ่งนั้นมันเกิดขึ้นมันง่ายมากเลยที่จะพูดว่าฉันพอแล้วฉันจะไม่สู้ต่อไปแล้ว…..
คุณจะทำอย่างนั้นก็ได้
แต่ผมคิดว่าผมคิดว่าไม่
ผมคิดว่าเราควรจะก้าวสู้มันต่อไป
เผชิญหน้ากับมัน
.
ไม่ว่ายังไงก็ตามคุณห้ามล้มเลิกเป็นอันขาด
แล้วถ้าคุณรู้สึกว่าชีวิตของคุณอยู่ในที่ต่ำไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว
แล้วคุณรู้สึกเหมือนกับว่าหาทางออกไม่เจอแล้ว
มันจะเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมมาก
.
เพราะเมื่อคุณอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดของคุณ
ทางเดียวที่คุณจะไปได้คือการปีนกลับขึ้นไป
และนั่นก็หมายความว่ามันจะต้องยากลำบากอย่างแน่นอน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณกำลังจะเผชิญต่อไปมันจะลำบากยากเย็นมากกว่าในสิ่งที่คุณจะสามารถจินตนาการไว้ได้
แต่ว่าพายุที่คุณกำลังเผชิญนั้นมันมาจากแค่มุมมองของคุณ
ซึ่งมันเหมือนกับว่าพายุนั้นกำลังทำลายล้างทั้งโลก
ซึ่งมันไม่จริง…
.
ความจริงที่คุณกำลังเผชิญนั้นมันปิดบังวิสัยทัศน์การมองของคุณออกไป
มันยากที่จะมองผ่านมันจนคุณรู้สึกเหมือนกับว่าพายุนั้นคือทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณจะต้องเจอ
.
แต่มันไม่ใช่ทั้งหมด
พายุต่อให้แรงแค่ไหนมันจะไม่คงอยู่ตลอดกาล
เพราะสักวันตัวคุณเองก็จะออกมาจากพายุนั้นได้
แล้วคุณก็จะเห็นแสงสว่างของดวงตะวันอีกครั้งหนึ่ง
.
แต่ตอนนี้ วินาทีนี้คุณกำลังพยายามอยู่ คุณกำลังต่อสู้ คุณกำลังทุกข์จากความเจ็บปวดและประสบการณ์ทั้งหมดมันคือบททดสอบ
ขอแค่อย่ายอมแพ้ ขอแค่อย่าล้มเลิก
ต้องกัดฟันและต่อสู้กับพายุกำลังพัดเข้ามา
จงต่อสู้กับความเจ็บปวดทั้งหมดที่ต้องเจอ
เพื่อที่คุณจะสามารถแข็งแกร่งขึ้น เป็นตัวคุณในแบบที่ดีขึ้นเป็นนักสู้ เป็นผู้รอดชีวิต เป็นผู้พิชิตเป็นอิสระจากพายุนั้น เป็นอิสระจากความมืด เป็นอิสระในชีวิต
.
ดังนั้นจงใช้ชีวิตในแบบที่ตอนสุดท้ายของคุณจะสามารถมองย้อนกลับไปได้และสามารถพูดอย่างภูมิใจกับตัวเองได้ว่านี่แหละคือชีวิตที่เราก้าวผ่านมันมา
.
อย่ายอมแพ้ให้กับโชคชะตา และช่วงเวลาบ้าๆที่พยายามจะหยุดคุณ