29 พ.ย. 2019 เวลา 00:15
มนตราธวัช...ธงอธิษฐานแห่งเนปาล
ความเชื่อของชาวพุทธในเนปาลและรวมไปถึงในประเทศทิเบต ภูฏาน และสิกขิม จะนิยมเขียนหรือพิมพ์บทสวดมนต์ภาวนาที่ตนศรัทธา ลงบนผืนผ้าต่างสี จากนั้นจะอธิษฐานจิตขอพร แล้วจึงนำมนตราธวัชนั้นไปถวายเป็นพุทธบูชา โดยจะแขวนโยงจากศาสนสถานเป็นหลัก หากไม่มีพื้นที่เหลือหรือสุดกำลังความสามารถที่จะปีนป่ายขึ้นไปแขวนเองได้ จึงจะนำไปผูกโยงไว้ในบริเวณรอบๆ ใกล้เคียงหรือหลังคาบ้าน ช่องเขา หน้าผา และทางเดินที่เป็นช่องทางที่ลมพัดผ่านได้โดยสะดวกตามความเชื่อที่ตกทอดมาแต่โบราณ ถือกันว่าสายลมที่โบกพัดอยู่ทุกวี่วันจะเป็นผู้นำคำอธิษฐานทั้งปวงรวมทั้งบทสวดที่ได้ตั้งจิตถวายเป็นพุทธบูชาแล้วนั้น พลิ้วปลิวขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์ การที่มนตราธวัชโบกปลิวหนึ่งครั้งนั้นเทียบเท่ากับการสวดมนต์ถึงหนึ่งพันจบเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วกระแสลมยังจะช่วยพัดพาให้มนตราและคำอธิษฐานขอพรต่างๆ ในตัวของธงเองได้ล่องลอยไปตามสายลม และไปอำนวยอวยพรและบันดาลความมีโชคมีชัยให้กับบุคคลอื่นๆ ที่เดินทางผ่านไปมาอีกด้วย
การที่มนตราธวัชปรากฏในสีที่แตกต่างกันนั้น สืบเนื่องจากความหมายที่มีหลากหลายประการ ความหมายแรกคือสีประจำธาตุเกิดของตนเอง คือ
สีแดง เป็นตัวแทนของธาตุไฟ
สีน้ำเงิน เป็นตัวแทนของธาตุน้ำ
สีเขียว เป็นตัวแทนของธาตุลม
สีขาว เป็นตัวแทนของโลหะ
สีเหลือง เป็นตัวแทนของธาตุดิน
ส่วนอีกความหมายหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมและยอมรับกันทั่วไป คือ ความหมายถึงสีผิวของพระวรกาย และรัศมีที่ทรงเปล่งออกมาของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์พระองค์ต่างๆ ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากมายตามความเชื่อของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ดังนั้นสีของธงที่แตกต่างกัน ก็จะหมายถึงตัวแทนขององค์เทพที่บูชาที่แตกต่างกันไป
โฆษณา