Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประวัติศาสตร์ สถาบันกษัตริย์
•
ติดตาม
2 ธ.ค. 2019 เวลา 07:35 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตของเจ้าหญิงผู้อื้อฉาว : เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอน
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตในปี 1951
วันนี้เรามาทำรู้จักกับเรื่องราวของเชื้อพระวงศ์อังกฤษพระองค์หนึ่งนะครับ พระองค์คือ เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอน (Princess Margaret, Countess of Snowdon) พระขนิษฐาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พระองค์ประสูติปีค.ศ. 1930 และสิ้นพระชนม์ค.ศ. 2002 สิริพระชนมายุ 71 พรรษา ถึงแม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่เรื่องราวของพระองค์เป็นที่สนใจในสายตาของสาธารณชนก่อนที่เจ้าชายแฮร์รี่ (Prince Harry) จะเข้ามาแทนที่ ในแง่ที่ว่าทรงเป็นพระราชวงศ์ที่ทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดพระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ราชวงศ์อังกฤษ
ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงมีพระอุปนิสัยที่แตกต่างจากเจ้าหญิงเอลิซาเบธ พระเชษฐภคินี เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงเป็นผู้ที่จริงจังและรู้หน้าที่ ส่วนเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงขี้เล่นและรักสนุก เจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงถูกอบรมเลี้ยงดูเพื่อการเป็นพระราชินีในอนาคต ส่วนเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงถูกให้ความสำคัญน้อยลง เมื่อทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พระเชษฐภคินีได้อภิเษกสมรสและมีโอรสธิดา เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตจึงทรงเหมือนเป็นอิสระเพราะไม่ต้องเตรียมพระองค์ในฐานะรัชทายาทอันดับสองอีกต่อไป พระนางทรงรักการเต้นรำและงานเลี้ยง ทรงใช้เวลาอย่างสนุกสนานในงานเลี้ยงต่างๆ และทรงโปรดเหล้าและบุหรี่
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตกับปีเตอร์ ทาวน์เซน
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงตกหลุมรักนักบินรบชนชั้นกลางที่มีชื่อว่า ปีเตอร์ ทาวน์เซน (Peter Townsend) ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นอย่างจริงจังหลังจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 (King George VI) สวรรคตในปีค.ศ. 1952 ทั้งคู่ต้องการที่จะเสกสมรสกัน แต่รัฐบาลเกรงว่าทาวน์เซนนั้นไม่เหมาะสมสำหรับพระขนิษฐาวัย 22 พรรษาของพระราชินี เพราะเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้วและศาสนจักรนิกายอังกฤษก็ไม่เห็นชอบที่จะให้เจ้าหญิงเสกสมรสกับชายผู้ผ่านการหย่าร้าง หนังสือพิมพ์ต่างประโคมข่าวนี้และมีข่าวลือว่ามีคนพบเห็นเจ้าหญิงทรงปัดเศษเส้นใยออกจากเสื้อนอกของทาวน์เซนในพระราชพิธีราชาภิเษก หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวว่า "นึกแทบไม่ออกเลยว่าเจ้าหญิงเชื้อพระวงศ์ที่มีสิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์เป็นอันดับที่สาม สมควรแม้แต่จะคิดที่จะสมรสกับชายซึ่งเคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว" รัฐบาลจึงพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน และในที่สุดพระนางทรงตัดสินพระทัยลิกกับทาวน์เซน พระนางทรงเคยตรัสว่า "หากฉันได้รับอนุญาตให้สมรสกับปีเตอร์ ฉันมั่นใจว่าเราจะมีความสุข และใครเล่าจะรู้ มันอาจยั่งยืนก็ได้"
4
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงฉายภาพที่กลายเป็นที่อื้อฉาว เนื่องจากเป็นภาพกึ่งเปลือย ด้วยสถานะทางราชวงศ์ของพระนาง ทำให้ทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถ่ายโดยลอร์ดสโนว์ดอน พระสวามีในอนาคตของพระนาง
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต ในวันเสกสมรสกับแอนโทนี อาร์มสตรอง-โจนส์ ปี 1960
ในปีค.ศ. 1960 ทรงตัดสินพระทัยเสกสมรสกับแอนโทนี อาร์มสตรอง-โจนส์ (Antony Armstrong-Jones) ช่างภาพในงานเลี้ยงที่พระนางเสด็จไปประจำ ซึ่งคราวนี้ทรงได้รับอนุญาตและได้จัดพิธีอย่างใหญ่โตในมหาวิหารเวสต์มินเตอร์ ทรงมีโอรสธิดาร่วมกัน 2 คน ช่วงนี้พระนางทรงปล่อยพระองค์อย่างสุดเหวี่ยง เที่ยวไนต์คลับ เต้นรำ ร้องเพลง ซึ่งชีวิตสมรสของทั้งคู่ก็เลวร้ายลง ปีค.ศ. 1973 ทั้งคู่ต่างมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แอนโทนี พระสวามีของพระนางก็ได้มีความสัมพันธ์กับผู้ช่วยของเขา ที่เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงเรียกว่า "สิ่งนั้น" ส่วนเจ้าหญิงก็มีความสัมพันธ์กับชายมากหน้าหลายตา และคนหนึ่งคือ ร็อดดี ลิวลิน (Roddy Llewellyn) นักดนตรีพังก์ร็อก ชนชั้นสูง ที่วัยอ่อนกว่าพระนาง 17 ปี ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงคบและแยกแล้วกลับมาคบกันใหม่ สำหรับพระสวามีทรงแยกกันอยู่อย่างสิ้นเชิง และทรงหย่ากันในปีค.ศ. 1978 ส่วนร็อดดีก็ทิ้งพระนางไปคบกับหญิงรุ่นคราวเดียวกัน
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต เคานท์เตสแห่งสโนว์ดอน กับ ร็อดดี ลิวลิน
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตไม่ได้สมรสใหม่ พระนางไม่มีความสุข ไร้เป้าหมาย ทรงดื่มเพื่อให้ผ่านชีวิตไปได้ สุขภาพของพระนางค่อยๆเสื่อมโทรมในช่วง 20 ปีสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระนางทรงเป็นโครตับอักเสบเนื่องจากติดเหล้า ปีค.ศ. 1985 ปอดส่วนหนึ่งของพระนางถูกผ่าออกแต่สถานี BBC ยังรายงานว่าพระนางยังทรงสูบบุหรี่ต่อไป ทรงมีอาการเส้นโลหิตในสมองแตกในปีค.ศ. 1994 และอีกครั้งในปีค.ศ. 2000 พระเนตรข้างหนึ่งสูญเสียการมองเห็นและต้องประทับบนรถเข็น พระนางสิ้นพระชนม์ในปี 2002 ตลอดพระชนม์ชีพช่วงหลังของพระนางทรงเป็นเป้าโจมตีของสื่อ ไพรเวทอายมักเรียกพระนางว่า "คนแคระราชนิกุล" เพราะทรงมีพระวรกายเล็ก แม้ขณะที่พระนางประชวรและใกล้สิ้นพระชนม์ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเขียนว่า "พระนางทรงถูกตามพระทัยจนเสียคนและทรงมีมารยาทแย่ และตลอดหลายปีมานี้ก็ทรงดื่มวิสกี้มากพอจะเปิดโรงกลั่นเหล้าได้"
1
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อขจัดทัศนคติด้านลบของสาธารณชนต่อพระนาง คนวงในพระราชวังคนหนึ่งกล่าวว่า "เรารู้สึกเสียใจแทนพระนางจริงๆ แต่พระนางแทบไม่ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือพระองค์เองเลย" ถึงกระนั้นเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตผู้อื้อฉาวทรงเป็นบุคคลสำคัญจากการที่ทรงสนพระทัยในพระกรณียกิจด้านสวัสดิการสังคม ทรงเป็นประธานองค์กรเพื่อสวัสดิการแก่เด็กและเยาวชน ทรงเป็นประธานโอลิมปิกในสหพันธรัฐอินดีสตะวันตก เป็นประธานอุปถัมภ์สมาคมเนตรนารี และทรงเป็นตัวแทนพระเชษฐภคินีในการเสด็จเยือนประเทศต่างๆ
จากเรื่องราวของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตนี้ทำให้สังเกตเห็นถึงชะตาชีวิตที่ต้องถูกจับจ้องโดยสังคม การวิพากษ์วิจารณ์เชื้อพระวงศ์ของสาธารณชนอังกฤษเป็นสิ่งที่เห็นอยู่เป็นประจำและวิพากษ์วิจารณ์ไม่ต่างกับการซุบซิบนินทาดารา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเป็นบุคคลสาธารณะที่สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่อย่างไรก็ตามก็ทรงเป็นเสมือนเหยื่อของสังคมที่ผ่านการปลุกปั่นผ่านสื่อ การรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของสื่อ กลายเป็นสิ่งที่พระราชวงศ์ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และการตอบโต้จึงกลายเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับราชวงศ์อังกฤษที่โดยธรรมชาติมักจะยึดมั่นในการวางเฉย และผ่านพ้นคำวิจารณ์ด้วยการนิ่งเฉย ไม่นำพระองค์เข้าไปเกี่ยวข้องและสร้างความขัดแย้ง แม้ว่าจะส่งผลลบต่อพระองค์ก็ตาม
เจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงประทับรถเข็นในพระราชพิธีเฉลิมฉลองสมเด็จพระราชชนนีมีพระชนมายุครบ 101 พรรษา ในปี 2001 ถึงอย่างไรก็ตามสื่อก็ไม่หยุดที่จะโจมตีพระองค์
อ้างอิง
- เจ้าหญิงนินทา เขียนโดย Linda Rodriguez McRobbie แปลไทยโดย อลิสา สันตสมบัติ
-
https://en.wikipedia.org/…/Princess_Margaret,_Countess_of_S…
8 บันทึก
2
1
1
8
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย