ทำไม 'ทักษิณ' จึงตัดสินใจขาย 'แมนเชสเตอร์ ซิตี้' ?
หลายปีมานี้ เหล่านักธุรกิจชื่อดังทั่วโลกต่างผันตัวมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษกันมากมาย ไม่เว้นแม้แต่นักธุรกิจจากประเทศไทย
นับตั้งแต่ เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท "คิง พาวเวอร์" ที่ซื้อสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2010 สมัยที่ยังเล่นอยู่ในลีกรอง อย่าง เดอะ แชมเปี้ยนชิพส์ ซึ่งคาดว่ามูลค่าทีมในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านปอนด์
หรือจะเป็น เดชพล จันศิริ ผู้ค้าประมงในกลุ่ม Thai Union Frozen ที่ซื้อสโมสร Sheffield Wednesday ในราคา 37.5 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2015 รวมไปถึง คุณหญิง ศศิมา ศรีวิกรม์ ที่ซื้อทีม Reading เมื่อปี 2014
เห็นได้ชัดว่า บรรดากลุ่มนายทุนใหญ่จากประเทศไทยต่างก็ต้องการผันตัวมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในอังกฤษกันเป็นอย่างมาก สาเหตุหลักๆ มาจากการที่ลีกอังกฤษนั้นเป็นลีกที่นิยมมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งลีกสูงสุดอย่าง “พรีเมียร์ลีกอังกฤษ”
ในปี 2016 นิตยสาร Forbes ได้เปิดเผยตัวเลขเงินค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดประจำฤดูกาล ซึ่ง พรีเมียร์ลีก ถือเป็นลีกที่ได้รับความนิยมและมั่งคั่งที่สุดในโลก ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 2,630 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามมาด้วย เซเรีย อา จากอิตาลี ที่มีมูลค่าเพียงแค่ 1,130 ล้านเหรีญสหรัฐเท่านั้น
แต่จากที่ได้จั่วหัวไป บุคคลที่ดูเหมือนจะเป็นผู้บุกเบิกรายแรกๆ ในการทำธุรกิจซื้อสโมสรในอังกฤษคงจะหนีไม่พ้น อดีตนายกรัฐมนรีอย่าง ทักษิณ ชินวัตร แต่คำถามคือ เหตุใดกันทำไมทักษิณจึงเป็นเจ้าของสโมสรได้เพียงแค่ 1 ปี เท่านั้น ทำไมเขาถึงตัดสินใจขายสโมสร และการเป็นเจ้าของสโมสรในลีกอังกฤษส่งผลอะไรต่อฟุตบอลไทยบ้าง
ทักษิณ ชินวัตร ซื้อหุ้นสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จำนวน 75% ในปี 2007 ด้วยจำนวนเงิน 81.6 ล้านปอนด์หรือประมาณเกือบ 5 พันล้านบาท
เขาเริ่มต้นโดยการดึง สเวน-โกรัน อีริคส์สัน อดีตผู้จัการทีมชาติอังกฤษเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ บวกกับซื้อนักเตะคนใหม่ๆ เข้ามาสู่ทีม นอกจากนี้ เขายังส่งเสริมวงการฟุตบอลไทยโดยการเซ็นสัญญากับนักเตะทีมชาติไทยให้มาฝึกซ้อมกับทางสโมสรถึงสามคน ประกอบไปด้วย ธีรศิลป์ แดงดา สุรีย์ สุขะ และเกียรติประวุฒิ สายแวว
ทุกๆ อย่างเหมือนจะเป็นไปได้สวย เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก้าวขึ้นมาจากอันดับที่ 14 เมื่อฤดูกาล2006-07 ขึ้นมาเป็นทีมอันดับ 9 เมื่อจบฤดูกาล 2007-08
แต่ทว่าทักษิณกลับต้องขายสโมสรหลังจบฤดูกาลทันทีด้วยเหตุบางประการ
จากเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ทำให้ คตส. หรือ คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ทำการอายัดทรัพย์ของเขาจำนวนกว่าหลายหมื่นล้านบาท จนทำให้ไม่สามารถบริหารทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ ท้ายที่สุดทักษิณจึงจำใจขายทีมให้กับ อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป จากยูเออี ของ ชีค มานซูร์ เป็นเงินถึง 210 ล้านปอนด์ หรือประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท
ภายหลัง ทักษิณได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อชั้นนำอย่าง บีบีซี ว่า สาเหตุที่เขาตัดสินใจซื้อทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้น เป็นเพราะว่าตอนนั้น สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเหมือนสโมสรยักษ์หลับอันเก่าแก่กว่า 100 ปี และยังมีสนามแข่งที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
มากกว่านั้น ทักษิณ ก็คิดว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตอนนั้นเป็นที่มีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาต่อได้ อีกทั้งยังเป็นทีมท้องถิ่นที่มีแฟนบอลสนับสนุนอยู่เยอะ บวกกับยังเป็นทีมหนีตกชั้นที่มีราคาไม่สูงมากอีกด้วย
ปัจจุบัน ชีค มานซูร์ ครอบครองสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเป็นเวลานานกว่า 10ปีแล้ว โดยภายใต้อำนาจเงินของชีค แมน ซิตี้ ก็สามารถคว้าแชมป์มาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ประกอบไปด้วย แชมป์ลีกถึง 4 สมัย เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ลีก คัพ 4 สมัย ขาดก็แต่เพียงถ้วยยุโรปอย่างเดียวเท่านั้น
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2019 มีข่าวว่า ทักษิณ ชินวัตร กำลังจะซื้อสโมสร คริสตัล เพเลซ จากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่เพียงไม่นาน ข่าวดังกล่าวก็เงียบหายไปอยู่นานสองนานแล้ว ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือจริงๆ หรือไม่
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
