Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
THE FACT
•
ติดตาม
4 ธ.ค. 2019 เวลา 07:15 • การศึกษา
การผจญภัยของเด็กน้อยวัย 12 ขวบ ในโรงเรียนที่มาเลเซีย ตอนที่ 3 : เดินทางยังงัยละ โทรนัดโรงเรียนเอาไว้แล้ว พ่อกับแม่ก็ไม่เคยไปและไม่เคยเห็นโรงเรียนจริง ๆ
จากตอนที่ 2 หลังจากที่เราได้โรงเรียนมาหลายระดับและหลายราคามีทั้งนานาชาติและโรงเรียนสองภาษาคือจีนและอังกฤษที่เป็นหลักสูตรของแคมบริดจ์ ซึ้งทั้งสองอย่างต้องขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของพ่อแม่อีกด้วย ตัวอย่างโรงเรียนในเปรัก เมืองอีโปห์ เช่น เทนบี้ อันนี้นานาชาติ แต่หอพักนอกโรงเรียนมีครูเฝ้า แต่ตอนกลับหอพักมีรถโรงเรียนรับส่งอันนี้กังวลเรื่องการเดินทางกลับรถตู้ถ้าลูกเลิกช้าหรือกลับไม่พร้อมเพื่อนและอีกอย่างรถต้องวิ่งข้ามถนนสายหลัก อันที่สองคือซันเวย์ ซึ่งมันแพงเกินไปคือเกินกำลังพ่อแม่ แต่หากเทียบกับโรงเรียนนานาชาติระดับเดียวกันผมกล้าพนันเลยว่าถูกกว่านานาชาติในไทยเยอะมาก และอันที่ 3 คือโรงเรียนสองหลักสูตร คือหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาจีนและหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษ และสนนราคารวม ๆ แล้วทั้งปีถูกกว่าลูกเรียนที่บ้านรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเสียอีก เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีอายุยาวนาน และลูกศิษย์ลูกหาเติมโตไปเป็นนักธุระกิจนักการเมือง ร่ำรวยและกลับมาบริจาคเงินและช่วยเหลือโรงเรียนรวมทั้งมีการจัดกิจกรรมงานเลี้ยงศิษย์เก่าอย่างใหญ่โต มีเด็กไทยจบไปแล้วไปเรียนต่อที่จีน อินเดีย ออสเตรเลีย และอีกหลาย ๆ ประเทศ ก็เลยตั้งใจว่าเอาที่นี่ละ หอพักก็อยู่ในโรงเรียนมีครูเฝ้าหลายคนทั้งกลางวันกลางคืน และออกจากโรงเรียนไม่ได้หากผู้ปกครองไม่ไปรับหรือไม่มีผู้ปกครอง ขออนุญาติไปทางอีเมล์เพื่อให้ออกไปกับรถตู้โรงเรียนโดยจะมีรถตู้พาเด็กไปในเมืองวันละสองรอบโดยประมาณเพื่อไปตัดผมหรือซื้อเครื่องใช้จำเป็นแต่อย่างที่บอกว่าจะต้องมีผู้ปกครองเมล์แจ้งไปเท่านั้นถึงจะออกไปได้
รถตู้ที่ครอบครัวเราเหมาไปอีโปห์
คราวนี้เหลือเรื่องการเดินทาง เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ในการขับรถเข้าไปในมาเลเซียเม้กรัทั้งไปเที่ยวยังไม่เคยไปเลย ก็มีทางเดียวคือเช่ารถตู้ไปจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี้ พอคิดได้เช่นนี้ผมก็เริ่มติดต่อรถตู้หลายเจ้ามาก เพราะหารถตู้ที่มีป้ายทะเบียนหรือประกันในมาเลย์ยากมาก แต่สุดท้ายได้ลุงคนหนึ่งที่ขับรถในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเมืองสุราษฎร์ แกรับงานแต่มีข้อแม้ว่าแกจะไปรับและไปส่งแค่ด่านสะเดา และจะมีรถคนไทยที่ด่านสะเดามารับเราต่อจากด่านไปส่งที่โรงเรียนและนอนหนึ่งคืนและหลักจากเสร็จธุระก็เดินทางกลับไทยโดยมีลุงท่านเดิมมารอรับเราที่ด่านสะเดามาส่งที่สุราษฎร์ธานี สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งไปและกลับรวมแล้ว 22,000 บาท โดยเรานัดลุงมารับหกโมงเช้าเพื่อไปถึงเมืองอีโปห์ก่อนค่ำ อืมม ผมลืมบอกไปว่ารัฐเปรัก เมืองอีโปห์ เคยเป็นจังหวัดปราการณ์ด่านสุดท้ายของไทยในอดีต หากท่านใดอยากทราบว่าในอดีตขอบเขตของเมืองไทยมันยาวไปถึงกัวลาลัมเปอร์เลยหรือ สามารถหาอ่านประวัติศาสตร์ตอนประเทศไทยต้องเสียเมืองในภาคใต้ตอนล่างได้ครับ
สภาพอาคารเรียน
เราเริ่มเดินทางด้วยรถตู้ตอนหกโมงเช้าโดยไปกันทั้งสี่คน พ่อ แม่ ลีออง และลูกสาวคนเล็ก เราเดินทางด้วยความตื่นเต้นโดยไม่รู้ว่าสถานที่ข้างหน้ามันเหมือนในรูปหรือเหมือน Google Earth มั้ย จนไปถึงเมืองอีโปห์น่าจะประมาณหนึ่งทุ่ม เราเสียเวลาในการแลกเงินริงกิต และรอรถตู้คันที่เราจะต่อเข้าไปในมาเลย์ ซึ่งจริง ๆ ควรจะถึงประมาณบ่ายสี่โมง เราไม่ได้แวะไปในโรงเรียนเพราะมันมืดแล้วและเรานักครูเป็นวันรุ่งขึัน แค่ไลน์ไปแจ้งว่าเราเดินทางมาถึงแล้วนะ คือผมไม่ได้ผ่าน Agent แต่อย่างใด เราไปกันเอง และคืนนั้นเราเลือกที่จะนอนโรงแรมที่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก โรงแรมมีชื่อว่า M Hotel ราคาไม่แพง ห้องนอนเล็กประมาณ 800 บาท นอน 4 คนก็ได้ ถ้ากว้างหน่อยก็ 1200 บาทต่อคืน ถือว่าค่าครองชีพถูกกว่าในเมืองไทยพอประมาณ ขนาดที่ว่าก๋วยเตียวใน Lotus ยังมีราคาชามละ 35 บาทเลย และเงินริงกิตจากที่เรทอยู่ที่ 10 กว่าบาท ปัจจุบันเงินบาทแข็งค่ามาอยู่ที่ 7.2 บาทต่อ 1 ริงกิต ทำให้ J2 ของปีหน้าผมจ่ายค่าเทอมถูกลงไปอีก...เอาละครับสุดท้ายก็มาถึงเมืองอีโปห์หนึ่งทุ่มกว่า ยังไม่เห็นบรรยากาศอะไรมาก มาติดตามกันต่อวันพรุ่งนี้ตอนที่ไปเจอ มาดาม ซึ่งเป็นคุณครูที่ดูแลนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะ และเราต้องเริ่มจากอะไรบ้างเมื่อไปถึงโรงเรียน...
โรงแรมที่เราไปพัก คืนละ 1200 บาท
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ เจอกันตอนต่อไปครับผม..
ขอบคุณครับ
#ตอนที่ 5 :
https://www.blockdit.com/following
1 บันทึก
2
4
1
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย