7 ธ.ค. 2019 เวลา 06:09 • ไลฟ์สไตล์
กว่าจะมาเป็นวิถีเซลบ้านนอก!!
จากมนุษย์ที่ชื่นชอบแสงสีเมืองกรุง ชนิดที่ว่าฉันจะไม่กลับบ้านนอกหรอกนะ (หลงแสงสีตัวจริง)
ด้วยความดันทุรังในทุกทางยังไงก็ไม่กลับ ตั้งแต่เรียนจบหางานทำในเมืองกรุงได้ทนทาน ผ่านไปหลายปีดีดัก เปลี่ยนบริษัทจนขี้เกียจนับ
กว่า 12 ปีที่ใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบในเมืองกรุง ชีวิตมันยังกับละคร จนในที่สุดชะตาฟ้าลิขิต ต้องเปลี่ยนงานมาเป็นเซลบ้านนอก
ชีวิตคนติดบ้านก็ต้องเปลี่ยนไลฟสไตล์ ค่ำไหนนอนนั่น เชื่อไหมว่า ครั้งหนึ่งอิช้านเคยดูลูกค้ามาแล้ว เกือบครึ่งประเทศ คนเดียว!!
มาคิดถึงตอนนั้นอิช้านทำไปได้ไงวะ เอาพลังงานที่ไหนมาทำ ชีวิตแทบจะกินนอนบนรถกระบะเก่าๆ สมบัติของพ่อที่ใช้ยันทุกวันนี้
เชื่อไหมว่า ตอนอยู่กรุงเทพฯ เป็นหนี้บานตะไท ก็มันใช้ไม่พอนี่หว่า หาได้มาเดินผ่านห้างเป็นช้อป เอ้ย คือลดราคาจ้า ใช้ไม่ใช้ตรูไม่รู้หรอก รู้ว่าของมันต้องมี!!
นี่แหละเป็นสาเหตุแห่งการเป็นหนี้!! จำได้ว่าหนี้ก้อนสุดท้ายพ่อต้องให้เงินมาปิดบัตรเครดิต เข็ดเลยจ้า แล้วพ่อก็บอกว่า “พ่อช่วยไม่ได้ทุกครั้งนะลูก”
จุดนี้แหละที่เป็นจุดหักเหทำให้ชีวิตได้คิดอะไรหลายอย่างมาก
ของไร้สาระ ที่ขนซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ พอต้องย้ายจากเมืองกรุงกลับบ้าน ของมันเยอะมาก นานๆ ไปมันกลายเป็นขยะกองโต
จนต้องมาขายของมือสองตลาดนัด มีลูกค้าคนหนึ่งมาต่อราคา แบบโหดมาก!! จำได้ว่าเสื้อเผื่อผอมตัวนั้นซื้อมา 690 บาท ยังอยู่ในถุงใหม่ๆ เลย นางต่อจาก 50 บาทเหลือ 20 บาท
น้ำตาจะไหล!! เอาวะกล้าต่อตรูก็กล้าให้ วันนั้นทำให้รู้ว่า ของที่เราคิดว่าดี แต่คนที่ไม่รู้จักเค้าก็ไม่เห็นค่ามันหรอก เรานี่แหละให้ราคาความเป็นแบรนด์เนมของมันเอง
พอได้กลับมาอยู่บ้านนอก ก็เลยได้รู้ว่าวิถีคนบ้านนอกมันดีมากเลยอ่ะ ของบางอย่างปลูกเองได้ก็ไม่ต้องซื้อ เชื่อไหมว่ากลับมาอยู่บ้านนอกสามารถผ่อนบ้านหมดในเวลาไม่นาน
ห้างก็ไม่มี จะไปทีก็ไกลเหลือเกิน กิเลสที่เคยมีถึงกับมอดไหม้ในหัวใจ อยู่บ้านนอกจะใส่ไปโชว์ใครวะ ไม่เหมือนตอนอยู่ในสังคมออฟฟิต
โรงหนังก็แทบไม่เคยได้เข้า เพราะขี้เกียจขับรถไปดู กว่าจะไปกว่าจะกลับเป็นวัน นอนอยู่บ้านดีกว่า
รถก็ไม่ติด ชีวิตแสน (สโลว์ไลฟ์) ของจริงเลยคุณๆ พอนานวันเข้าทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เมื่อสูงสุดกลับสู่สามัญมันเป็นแบบนี้นี่เอง!!
อากาศก็ดีกว่ามากมาย เช้าๆ ได้ยินเสียงนกร้อง มันช่างทำให้เช้าในบ้านนอกของฉัน มันดีต่อใจจริงๆ
หลายคนทีคิดว่าจะกลับมาทำอะไรบ้านนอก บอกเลยว่างานมีเยอะแยะมาก ไม่มีความวุ่นวาย ไม่มีสังคมไฮโซ แต่มีตังค์นะ
ตั้งแต่มาใช้ชีวิตบ้านนอก ของหลายอย่างถูกตัดออกไป ใช้แต่สิ่งจำเป็น รองเท้าที่มีเป็นตู้ก็เหลือไม่กี่คู่เพื่อใส่ทำงาน เสื้อผ้าอลังการก็เหลือเพียงเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์
หลายคนสงสัยในชีวิตแอดว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือนเที่ยวได้บ่อยมาก บอกเลยว่าสบายมาก ตั้งแต่มาอยู่บ้านนอก อิช้านสามารถเก็บเงิน 30% ของเงินเดือนใส่บัญชีที่ทำกำไรปีหนึ่งเยอะอยู่
เก็บแบงค์ 50 หยอดกระปุกไว้ เชื่อไหมว่าเก็บได้หลายหมื่นมาก เศษสตางค์เหรียญ 5 เหรียญ 10 ก็หยอดกระปุกไว้เช่นกัน เราให้น้ำหนักเงินออมมากหน่อย
เวลาว่างจากการทำงานก็ขายของออนไลน์ กำไรจากกองนี้เราเก็บไปเที่ยว เพราะส่วนนี้ถือเป็นการลงทุน และแน่นอนเซลอย่างเรา กำไรไม่เยอะไม่ทำนะคะ แค่นี้วิถีเซลบ้านนอกของเราก็อยู่สบายๆ แล้วล่ะ
จงใช้เท่าทีมี แล้วจะมีพอให้ใช้ การออมสำคัญมาก และมักจะบอกน้องๆ เสมอ ในช่วงชีวิตเด็กเราใช้จ่ายโดยไม่คิด
แต่พอเริ่มโตขึ้นเราต้องคิดที่จะจ่าย เพราะเวลาที่เราโตขึ้น เราอยากลงทุนในอะไรสักอย่าง เงินมันสร้างโอกาสให้เราได้ ใครบอกว่า “เงิน” ไม่สำคัญ
เงินมันสำคัญมาก แต่เราจะบริหารเงินที่มีให้มันงอกเงยยังไงนั่นมันสำคัญกว่า แต่ละคนมีวิธีการลงทุนที่ต่างกัน ลองศึกษามันดู
การลงทุนคือความเสี่ยง มันขึ้นอยู่กับว่าเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน
ท้ายที่สุดเราเป็นคนหนึ่งที่ภูมิใจในความเป็น “บ้านนอก” ของเรามาก ใครด่าว่าบ้านนอกนี่ไม่สะเทือนนะคะ บ้านนอกแล้วไงอ่ะ
นอกจะใช้ชีวิตบ้านนอก แล้วยังชอบเที่ยวบ้านนอกแบบบ้านๆ ด้วยนะ อย่าลืมติดตามเราล่ะ
จงใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
#วิถีเซลบ้านนอก
#iampatthanid

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา