ถ้าเป็นคนจนไม่เวิร์ค ลองเปลี่ยนมาเป็นคนรวยดีไหม?
เอาจริงๆแล้วการเป็นคนรวยบนเลนด่วนนั้นก็เหมือนกับเกมกีฬาอย่างนึง ยกตัวอย่างเช่นฟุตบอล
คุณคิดว่าแฟนบอลหรือนักบอลคนไหนสามารถทำรายได้มากกว่ากันใน stadium ฟุตบอล
แน่นอนคำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องเป็นฝั่งผู้สร้างสรรค์ลีลาอย่างนักฟุตบอล... ในขณะที่แฟนบอลเป็นเพียงผู้บริโภค คอยเสพความบันเทิง
มุมมองคนดูและผู้เล่น
- เปลี่ยนฝั่งจากคนดู มาเป็นผู้เล่น -
แผนในเลนด่วนนั้นแสนจะง่ายดาย คุณเพียงต้องย้ายตัวเอง...ปรับความสนใจจากผู้บริโภค มาเป็นผู้ผลิต
คนส่วนใหญ่อยู่ในฐานะผู้บริโภค "คนส่วนน้อย"อยู่ในฐานะผู้ผลิต ให้ทายว่าใครที่ประสบความสำเร็จมากกว่ากัน ... แน่นอนครับ "คนที่ให้ก่อนแล้วค่อยรับ"
ความคิดง่ายๆเลยคือ แทนที่จะซื้อเสื้อผ้า ก็ขายแทน แทนที่จะเรียนก็เป็นคนสอน แทนที่จะยืมเงินก็ให้ยืมซะ
ปลดปล่อยตัวเองจากการบริโภค...เข้าสู่โลกของผู้ผลิต
ผมรู้ครับว่ามันไม่ง่าย แต่จิตใจที่อยู่ในฐานะของผู้ให้ แข็งแกร่งและพร้อมกับความมั่งคั่งมากกว่าเยอะครับ
ผู้ผลิต - ผู้บริโภค
- ใส่จิตวิญญาณของผู้ผลิตลงไปในตัวเอง -
เช่นถ้าคุณเห็นข้อความการยิงแอดผ่านหน้า facebook ที่กระตุ้นให้คุณซื้ออะไรบางอย่าง
ลองใช้มุมมองผู้ผลิตวิเคราะห์ดูว่า จุดประสงค์โฆษณาคืออะไร ทำเงินอย่างไร แก้ปัญหาผู้คนตรงไหน มีกระบวนการอะไรบ้าง สินค้ามาจากไหน...
เมื่อคุณประสบความสำเร็จในฐานะผู้สร้าง คุณจะบริโภคอะไรก็ได้ตามต้องการ ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีก
แต่ก่อนจะบริโภคให้เต็มที่ ผลิตให้เต็มที่ซะก่อน แต่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่มักคิดตรงกันข้าม...
ลองมองในมุมว่าเค้าทำอย่างไรจึงขายดี
- คนรวยทำยังไงกัน? -
ถ้าคุณต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระจากเงินตั้งแต่อายุยังน้อย โดยที่ไม่ได้โด่งดัง หรือได้รับมรดก... คุณเป็นแค่คนธรรมดา ...ต้องเข้าใจสมการ"รวยเร็ว"ให้ถ่องแท้
✅ ความมั่งคั่ง = กำไรสุทธิ + มูลค่าทรัพย์สิน ✅
*️⃣ กำไรสุทธิ = กำไรต่อหน่วย × จำนวนหน่วย
*️⃣ มูลค่าทรัพย์สิน = กำไรสุทธิ × การเติบโต
เรียกง่ายๆคือ ทำเงินจำนวนหนึ่งที่มากพอ(จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตัวเอง) และนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และเติบโตได้
เช่นทำเงิน 20 ล้าน แล้วนำเงินไปลงทุนอสังหา, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ธุรกิจ sme เพื่อกินเงินปันผล... โดยปันผลที่ได้รับจะมากจะน้อยขึ้นกับเงินต้นที่คุณทำได้ในข้างต้น
เพราะฉะนั้น จะต้องทำกำไรเท่าไหร่ เราต้องเป็นคนกำหนดเอง ขึ้นกับ lifestyle ของแต่ละคน โดยสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงคือ risk management
ลงทุนคือการปลูกต้นไม้เพื่อรอกินผลในทุกๆปี
จะสังเกตุได้ว่า เศรษฐีแทบทุกคนสร้างและบริหารทรัพย์สิน ทำให้เงินงอกเงยมามหาศาล
"ไม่ใช่" การออมเดือนละ 10% ของเงินเดือนเป็นเวลานาน นานจนทำให้ท้อแท้กับเป้าหมาย
ลองเปลี่ยนมุมมองจากคนซื้อ มาเป็นคนขาย มันอาจจะเปิดวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจให้เราประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าที่คิดก็ได้นะครับ 😊
ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของทุกคนนะครับ
Jetaime ❤
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
