ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ุ ค.ศ. 1786 ที่งานประชุมประจำปีเกี่ยวกับเอเชียศึกษา หรือ Discourse to the Asiatic Society เซอร์โจนส์ก็บรรยายสิ่งที่เขาพบให้ที่ประชุมฟัง
3. เมื่อรู้จักภาษา PIE กันแล้ว ก็ถึงเวลามาคุยกันถึงคำว่า บิดา และ father
ในภาษาละตินคำว่า พ่อ ใช้คำว่า pater
ซึ่งคำว่า pater นี้ก็มีรากศัพท์จากคำในภาษา PIE ที่ออกเสียงคล้ายๆ กันคือ *pəter (ดอกจันบอกให้รู้ว่าคำนี้นักภาษาศาสตร์แกะหรือ reverse engineer คำนี้จากหลายๆภาษาที่มีคำพ้องเสียงกัน) และเป็นญาติกับคำว่า ปิตา ในภาษาสันสกฤตแบบพระเวท
1
ในเวลาต่อมาก็มีนักภาษาศาสตร์ ชาวเยอรมันชื่อ Jacob Grimm พบว่า คำที่ออกเสียง P ในภาษา PIE เมื่อวิวัฒนาการมาเป็นภาษาในตระกูลเยอรมันทั้งหลาย (เช่น ภาษาเยอรมัน ภาษาดัชต์ ภาษาอังกฤษ) จะเปลี่ยนเป็นเสียง f
ลักษณะนี้พบบ่อยจนเขาเรียกว่าเป็นกฎ ที่มีชื่อว่า Grimm’s Law
เขายังพบกฎอีกข้อว่าเสียง d ใน PIE จะกลายเป็นเสียง t และจากเสียง t ก็วิวัฒนาการกลายเป็นเสียง th ได้
และนั่นอธิบายว่าทำไมจาก pater จึงกลายมาเป็น vader ในภาษาดัตช์ fader ในภาษาเยอรมันโบราณ และ fæder ในภาษาอังกฤษโบราณ (Old English) ก่อนจะมาเป็น father ในปัจจุบัน (แถมสำหรับแฟนหนังสตาร์วอร์สที่กำลังจะเข้าในอีกไม่กี่วัน ชื่อ Darth Vader จึงมีความหมายว่า Dark Father)
และทั้งหมดนี้ก็คือ คำอธิบายแบบย่อๆว่า คำว่า บิดา และ คำว่า father มีรากศัพท์ร่วมกันมาได้อย่างไรครับ