6 ธ.ค. 2019 เวลา 09:30 • ธุรกิจ
ถ้าจีนเทขาย พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเกิดอะไรขึ้น?
ถ้าถามว่า เรื่องใดกำลังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สุดต่อภาวะเศรษฐกิจโลกตอนนี้
คำตอบของหลายๆคนคงจะเป็น
“สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกา-จีน”
สองประเทศ GDP ใหญ่สุดของโลก ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของอีกฝ่าย เป็นมูลค่าหลายล้านล้านบาท
และถึงแม้มีการเจรจาเพื่อยุติปัญหา
แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จได้เลย
การต่อสู้ครั้งนี้ ต่างฝ่ายต่างถือไพ่ตายไว้ในมือ เพื่อรอใช้ในเวลาที่เหมาะสม
ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึง หนึ่งในอาวุธที่น่ากลัวของฝั่งจีน
นั่นคือ การเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มากสุดในโลก
ถ้าวันหนึ่ง จีนตัดสินใจเทขาย พันธบัตรทั้งหมดออกมา
มันจะทำให้อเมริกาต้องพ่ายแพ้สงครามเลยหรือไม่
ก่อนอื่น มาสรุปสถานการณ์ Trade War กันก่อน..
สงครามการค้าครั้งนี้เกิดจากอะไร?
ประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาว่า
ตั้งแต่อดีต จีนทำข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมและเอาเปรียบประเทศคู่ค้า รวมทั้งขโมยข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาไปจำนวนมาก
Donald Trump - Cr. Reuters
จึงมีนโยบาย ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เพื่อให้สินค้าสหรัฐ มีราคาถูกกว่า
แล้วผู้บริโภคจะได้หันมาซื้อของที่ผลิตในประเทศ
ซึ่งจะส่งผลไปสู่การผลิต และจ้างงานที่ดีขึ้น
โดยสหรัฐได้ขึ้นภาษีสินค้าจีนไปแล้ว 4 ครั้ง
รวมเป็นมูลค่า 11 ล้านล้านบาท
ขณะที่ทางจีนก็บอกว่า การกระทำของอเมริกา เกิดจากความกลัวว่า ในสักวันหนึ่ง จีนจะก้าวขึ้นมามีอิทธิพลในเวทีระดับโลกมากกว่าตนเอง
1
ซึ่งจีนก็ได้มีการขึ้นภาษีสินค้าอเมริกาเพื่อตอบโต้
รวมเป็นมูลค่า 3 ล้านล้านบาท
Cr. BBC
แม้จะมีการเจรจาหาข้อยุติมาต่อเนื่อง
แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างผันผวน บางเดือนดี บางเดือนแย่
และทั้งสองฝ่าย ก็ยังคงขู่กันไปมา ว่าจะขึ้นภาษีเพิ่มเติมหากอีกฝ่ายไม่ยอมตกลงตามข้อเสนอ
ทีนี้ หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น เราคงได้เห็นการใช้มาตรการอื่นๆที่รุนแรงกว่าเดิม
และหนึ่งในไม้เด็ดที่จีนซ่อนไว้ อาจจะเป็น
สถานะประเทศเจ้าหนี้เงินกู้รายใหญ่สุดของสหรัฐ..
โดยปกติแล้ว แหล่งเงินทุนของรัฐบาล คือ ภาษี
แต่หากไม่เพียงพอ ก็ต้องออกพันธบัตรเพื่อกู้ยืม
2
ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐอเมริกา มีพันธบัตรที่รอไถ่ถอนคืนอยู่ 666 ล้านล้านบาท
ซึ่งประเทศที่ถือครองพันธบัตรดังกล่าว หรือเปรียบเสมือนเจ้าหนี้ ไว้มากที่สุด มีดังต่อไปนี้
1. จีน 34 ล้านล้านบาท
2. ญี่ปุ่น 33 ล้านล้านบาท
3. สหราชอาณาจักร 9.8 ล้านล้านบาท
4. บราซิล 9.2 ล้านล้านบาท
5. ไอร์แลนด์ 8.2 ล้านล้านบาท
1
จะเห็นได้ว่า จีนเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่สุดของสหรัฐ ถือครองพันธบัตรอยู่ถึง 5% ของหนี้ทั้งหมด
และถ้านับแค่เจ้าหนี้ต่างชาติ จีนจะมีสัดส่วนสูงถึง 18%
มูลค่าการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของจีน - Cr. Bloomberg
ในทางทฤษฎี การเทขายพันธบัตร ย่อมส่งผลให้ราคาลดลง และอัตราดอกเบี้ยตอบแทนสูงขึ้น (เพราะตามสัญญา ต้องจ่ายตัวเงินดอกเบี้ยเท่าเดิม)
ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่างๆเพิ่มขึ้น เนื่องจากพันธบัตรรัฐบาล เป็นตัวอ้างอิงการกู้ยืม
และเศรษฐกิจภาพใหญ่ ก็จะชะลอตัวลง
รวมทั้ง การหายไปของผู้ให้กู้รายใหญ่ จะทำให้รัฐบาลสหรัฐ ขาดเงินทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในงบประมาณประจำปีของประเทศ
ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจ คงยากลำบากขึ้น
2
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้..
เพราะความจริงแล้ว มันอาจเป็นผลประโยชน์ต่อสหรัฐมากกว่า ในสงครามการค้า
การเทขายของจีน จะสร้างความโกลาหลในตลาดการเงิน และนักลงทุนที่ขาดความเชื่อมั่นในสหรัฐ ก็จะแห่กันขายเงินดอลลาร์
6
Cr. China Daily
ซึ่งจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสุดท้ายสินค้าของสหรัฐ ก็จะราคาถูกลง เมื่อเทียบกับจีน โดยไม่ต้องขึ้นภาษีแต่อย่างใด
และหากจีนแค่ทยอยขายส่วนหนึ่งออกมา
ราคาที่ถูกลง ก็จะทำให้มูลค่าเงินลงทุนมหาศาลในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลงไปด้วย
นอกจากนี้ จีนคงไม่สามารถหาทรัพย์สินที่มีผลตอบแทนสูง และความเสี่ยงต่ำขนาดนี้ ได้ที่ไหนอีกแล้ว
เพราะทั้งในยุโรป หรือญี่ปุ่น ต่างมีดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ หรือติดลบ
2
ไพ่ตายใบนี้ อาจเป็นอาวุธที่ร้ายแรงมาก
แต่ถ้าในทางปฏิบัติ มันอาจใช้ไม่ได้เต็มที่
ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จีนทยอยขายพันธบัตรสหรัฐ จำนวนหนึ่งก็จริง แต่มูลค่าการถือครองลดลงมาแค่ 4%
แต่ทั้งนี้ จีนก็อาจใช้มันเป็นเครื่องมือในการเจรจาต่อรองข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐได้ เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียเปรียบจนเกินไป
ซึ่งนี่อาจเป็นคุณค่าที่แท้จริงของไพ่ใบนี้
เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า การต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงในทิศทางใด
แต่ถ้าจีนไม่สนใจ และเทขายพันธบัตรทั้งหมดจริงๆ
โลกในวันนั้น คงเป็นวันที่วุ่นวายมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์..
1
อ่านบทความเหตุการณ์สมมติต่างๆได้ที่เพจ What If
โฆษณา