7 ธ.ค. 2019 เวลา 08:33
หลายคนอาจจะคิดว่าจัดการเวลาเป็นเรื่องสำคัญแต่จริงๆแล้วการจัดการเวลาหรือไม่จัดการเวลานั้นแทบไม่มีความจำเป็นเลยถ้าคุณเข้าใจว่าเราจัดการเวลาไปทำไม!
เพราะยิ่งเราจัดเวลามากเท่าไหร่งานเราก็ยิ่งยุ่งขึ้นมากเท่านั้น โดยงานที่ทำส่วนใหญ่ยิ่งพาคุณออกห่างไกลจากความสำเร็จอีกต่างหาก
ในอดีตเรามีเครื่องมือในการจัดการเวลาที่แตกต่างกันไปตามยุคสมัย
ในช่วงแรกเราบริหารจัดการเวลาโดยการทำ"บัญชีบันทึกเวลาส่วนบุคคล"เรารู้เพียงว่าวันต่อไปเราจะทำอะไรบ้าง มีงานชิ้นไหน หรือเรื่องไหนที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้นบ้าง เป็นการจัดการเวลาแบบ "วันต่อวัน"
ต่อมาเราก็พัฒนามาการจัดการเวลาให้มีการมองอนาคตมากขึ้น เพราะมี"การใช้ปฏิทินนัดหมาย" เข้ามาช่วยในการจัดตารางนัดให้รู้ว่าเราจะทำอะไรตามวันปฏิทินที่เราตั้งไว้ ในแต่ละเดือนเป็นการจัดการเวลาแบบ "ตารางนัดหมาย" นยวีรจยน
และเราก็มีการจัดการเวลาแบบแบ่งเป็นช่วงๆ ทั้งระยะยาว(6-10ปี) ,ระยะปานกลาง(3-5ปี) และระยะสั้น(1-2ปี) เป็นการจัดการเวลาที่พยายามทำให้เรามองเห็นภาพได้ไกลขึ้นว่าเราจะทำอะไรในอนาคตในช่วงเวลาที่ไกลออกไป เป็นการจัดการแบบ "ตั้งเป้าหมาย"
ซึ่งการบริหารเวลาทั้งสามรูปแบบที่กล่าวมาแล้วอาจจะใช้ได้ผลเป็นอย่างดีในเรื่องของการจัดการเวลาว่าเราจะทำอะไรดีในเวลาที่เรากำหนดไว้ในตารางเวลาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายเดือน หรือรายปี
แต่การจัดตารางเวลาแบบนี้แทบไม่มีประโยชน์เลย เพราะมันไม่สามารถรับกันได้เลยว่าสิ่งที่เราจะทำนั้นมีผลต่อความเร็จของเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าเราไม่รู้จักการ...
"จัดลำดับความสำคัญ"
"การจัดลำดับความสำคัญ" ต่างหากที่เป็นหัวใจของการบริหารเวลาที่แท้จริง เพราะงานเพียง 20% ของงานที่คุณทำทั้งจะให้ผลงาน80% เลย
ดังนั้นมันไม่สำคัญหรอกว่าคุณทำงานเยอะแค่ไหน หรือตารางงานของคุณแต่ละวันแน่นแค่ไหน สำคัญที่ว่าคุณได้ใส่งานที่ "สำคัญและจำเป็น" ลงไปในตารางงานนั้นแล้วหรือไม่ต่างหาก
วิธีการคัดกรองที่สำคัญของเราที่ต้องจริงๆนั้นมีอะไรสามารถทำได้โดยการแบ่งเป็นตารางสี่ช่อง
ช่องแรก ใส่งานที่ "สำคัญและเร่งด่วน" งานที่มีความสำคัญและจำเป็น"ต้องทำให้เร็วที่สุด"ถ้าไม่ทำตอนนี้จะเกิดความเสียหายครั้งใหญ่แน่ๆ! เช่น การป่วยอย่างหนัก
ช่องที่สอง ใส่งาน "สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน"งานที่มีความสำคัญเช่นกันแต่อาจจะยังไม่เร่งด่วนเพราะยัง"ไม่ใกล้กำหนดเดทไลน์" แต่ถ้าปล่อยวันสักวันจะกลายเป็นงานที่เร่งด่วนเหมือนกัน! เช่น การดูแลสุขภาพ
ช่องที่สาม ใส่งาน "ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน" งานที่ไม่ได้ส่งผลกระบต่อเรามากมายนักแม้เราไม่ได้ทำมัน แต่ก็เป็น"งานที่แทรก"เข้ามาตลอดเพื่อให้เราคอยทำมัน เช่น งานของเพื่อนพี่โต๊ะข้างๆที่ฝากเราทำ
ช่องที่สี่ ใส่งานที่ "ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน" เป็นงานที่ไม่ส่งผลอะไรต่อเราเลยแม้ไม่ทำมัน และก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำก็ได้ แต่ก็เป็นงานที่ทำให้เราเพลิดเพลินและเผลอตัวมากที่สุด เช่น การเล่นโทรศัพท์มือถือ
คุณคิดว่าการบริหารเวลาช่องไหนที่คุณควรทำให้เยอะที่สุด?
คำตอบคือ "ช่องที่สอง" เพราะเป็นงานที่สำคัญที่คุณต้องทำอยู่แล้วและมันจะมีผลกระทบครั้งใหญ่กับคุณถ้าคุณทำมันให้สำเร็จ
และมันก็ยังทำให้คุณไม่ต้องมาคอยกังวลเหมือน "ช่องแรก" เพราะมีเดทไลน์มาคอยบีบให้คุณทำตามอยู่ตลอด เพราะตารางช่องที่สองนั้นยังมีเวลาก่อนที่จะเร่งด่วนให้คุณจัดการมันได้อยู่
ยิ่งคุณมีงานในช่องที่สองมากขึ้นเท่าไหล่นั้นแปลว่าคุณบริหารเวลาของตัวเองได้ดีขึ้นไปเท่านั้น แล้วคุณจะรู้สึกว่าการจัดการชีวิตของคุณนั้นง่ายขึ้นในทุกด้านเลยละ
ก่อนจะ"จัดการเวลา"กัน ลองมา"จัดลำดับความสำคัญ"ก่อนนะ เพื่อ"บริหารเวลา"ได้ง่ายขึ้น
โฆษณา