8 ธ.ค. 2019 เวลา 12:09 • บันเทิง
MovieTalk Special Series:
STAR WARS SAGA
Star Wars มหากาพย์แห่งกาแล็กซี่ Part II
(Episode I - III
A long time ago in a galaxy far, far away…
ในบทความนี้จะเล่าเรื่องราวของ Star Wars ทั้งสองไตรภาค (6 Episode) และ
1 ภาคแยก (Rogue One: A Star Wars Story) โดยจะเรียงตามลำดับ Timeline เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ไม่ได้เรียงตามปีที่ออกฉาย)
ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง โดยในจักรวาลสตาร์วอร์สถือว่าหนังทั้งสามไตรภาคนี้จัดให้อยู่ใน Star Wars SAGA โดยผมจะเล่าเรื่องย่อให้พอเข้าใจเรื่องราว ซึ่งอาจจะมีการสปอยล์เนื้อหาของหนัง ทั้งนี้ผมเชื่อว่าหลายท่านได้เคยดูผ่านตาไปแล้ว และก็ทราบเรื่องคร่าว ๆ ของแต่ละภาคอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการรีวิวเพื่อเก็บรายละเอียด พร้อมกันแนะนำฉากไฮไลท์ที่ต้องตั้งตาดู ส่วนท่านที่สนใจแนะนำให้ลองหาชมกันเองตามช่องทางต่าง ๆ ครับ
ทวนความจำ Star Wars ตาม Timline ดังต่อไปนี้
ไตรภาคที่ 1 ยุคแห่ง อนาคิน สกายวอล์คเกอร์
Episode I: The Phantom Mence ภัยซ่อนเร้น
Episode II: Attack of the Clones กองทัพโคลนโจมตี
Episode III: Revenge of the Sith ซิธ ชำระแค้น
เชื่อมต่อด้วย Rogue One: A Star Wars Story โร้ค วัน: ตำนาน สตาร์ วอร์ส
จากนั้นเข้าสู่ไตรภาคที่ 2 ยุคแห่ง ลุค สกายวอล์คเกอร์
Episode IV: A New Hope ความหวังใหม่
Episode V: The Empire Strikes Back จักรวรรดิเอ็มไพร์โต้กลับ
Episode VI: Return of the Jedi การกลับมาของเจได
และปิดท้ายเข้าสู่ไตรภาคที่ 3 ยุคแห่งเรย์ อุบัติการ์ณแห่งพลัง
Episode VII: The Force Awakens อุบัติการณ์แห่งพลัง
Episode VIII: The Last Jedi ปัจฉิมบทแห่งเจได
Episode IX: The Rise of Skywalker กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์
ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมตัวเข้าสู่ไฮเปอร์สเปซกันได้เลยครับ 5...4...3...2...1...Go!
STAR WARS SAGA Episode
คำเตือน!!! บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังในแต่ละ Episode
Star Wars Episode I: The Phantom Menace (1999) ภัยซ่อนเร้น
Directed: George Lucas/Starring: Liam Neeson, Ewan McGregor/Natalie Portman/Frank Oz/Running Time: 133 Mins.
เกิดความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับวาระซ่อนเร้นของสหพันธ์พาณิชย์ สองอัศวินเจได ไควกอน จินน์ และ โอบีวัน เคโนบี หนึ่งอาจารย์หนึ่งศิษย์ถูกส่งมาเพื่อสืบ พวกเขาเกือบติดกับดัก แต่หลบหนีออกมาที่ดาวนาบู ที่นั่นทั้งสองได้พบกับ จาร์จาร์บิงส์ ชาวกันแกน ซึ่งได้ติดสอยห้อยตามไปสู่ภารกิจช่วยเหลือเจ้าหญิงแพดเม่ อมิดาลา ทั้งหมดต้องหลบหนีการตามล่ามายังดาวทาทูอิน ที่นั่นไควกอนได้พบกับเด็กน้อย แอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ซึ่งเขาสามารถสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็กน้อย
ไควกอนช่วยเหลือจนแอนาคินชนะการแข่งขัน และพาเขาออกเดินทางกลับไปยังสภาเจไดเพื่อฝึกฝน ในขณะเดียวกับแพดเม่ได้กำลังสนับสนุนจากชาวกันแกน และเห็นชอบที่จะหนุนให้สมุหนายกพัลพาทีนขึ้นเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของสาธารณรัฐ เพื่อต่อสู้กับสหพันธ์พาณิชย์นักรบแห่งด้านมืด ดาร์ธโมลถูกส่งมาเพื่อกำจัดสองเจได ไควกอนต้องเสียชีวิตจากการต่อสู้ครั้งนี้ ในขณะที่ดาร์ธโมลก็ต้องพ่ายต่อโอบีวัน ก่อนตายเขาได้ฝากฝังให้โอบีวันทำหน้าที่อาจารย์แทนตนเอง
นี่คือปฐมบทเริ่มต้นเรื่องราวมหากพาย์ของสงครามดวงดาว โดยเรื่องราวตลอดทั้ง 9 ภาค เกี่ยวพันกับตระกูลสกายวอล์คเกอร์ที่ทำให้จักรวาลยุ่งเหยิงปั่นป่วนไปหมด และก็ดังคำทำนายที่ว่า “แอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ คือผู้นำสมดุลมาสู่จักรวาล เพราะแอนาคินเป็นทั้งผู้ทำลายและผู้กอบกู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเราจะมาวิเคราะห์กันอีกครั้งหลังจากจบไตรภาคที่ 2 (Episode VI) แล้ว
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากแข่งยานพอร์ตเรซซิ่งบนดาวทาทูอิน ที่เราจะได้เห็นความสามารถตั้งแต่ยังเด็กของแอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ว่ากันว่า จอร์จ ลูคัส ได้แรงบันดาลใจมาจากฉากแข่งรถม้าศึกใน Ben-Hur เวอร์ชั่นปี 1959 ซึ่งถ้าใครเคยดูจะรู้สึกเลยว่าฉากนี้มาด้วยอารมณ์คล้าย ๆ กัน
อีกหนึ่งฉากคือ การดวลไลท์เซเบอร์ระหว่าง สองอาจารย์ศิษย์ ไควกอนกับโอบีวัน ที่ต้องต่อสู้กับ ดาร์ธโมล ถือเป็นฉากที่โชว์แอ็คชั่นดวลดาบเลเซอร์ที่น่าจดจำฉากหนึ่งของซีรีย์ส Star Wars
Star Wars Episode II: Attack of the Clones (2000) กองทัพโคลนส์จู่โจม
Directed: George Lucas/Starring: Ewan McGregor, Natalie Portman, Hayden Christensen, Ian McDiarmid, Samuel L. Jackson/Running Time: 142 Mins.
สิบปีต่อมา ดวงดาวต่าง ๆ เริ่มมีท่าทีของแยกตัวออกจากสาธารณรัฐแกแล็กติก ผู้อยู่เบื้องหลังคือ เคาน์ดูกู อดีตเจไดที่หันสู่ด้านมืด องค์หญิงแพดเม่ถูกลอบสังหารแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด สมุหนายกพัลพาทีนของให้สภาเจไดจัดส่งอัศวินเจไดมาอารักขาหน้าที่ดังกล่าวจึงตกเป็นของ โอบีวัน และ แอนาคิน ที่ตอนนี้กลายเป็นเจไดหนุ่มผู้เก่งกาจ และเลือดร้อน
1
โอบีวันสืบพบร่องรอยว่ามือสังหารคือจังโก้เฟ็ทท์ จึงเดินทางตามไปสุดขอบกาแล็กซี่ ดาวคามิโน ที่นั่นมีการลอบสร้างกองทัพโคลนส์จำนวนมหาศาล โดยมีต้นแบบคือจังโก้เฟ็ทท์ โอบีวันต่อสู้กับจังโก้ ฝ่ายหลังหลบหนีมายังดาวจีโอโนซีส แต่เขาก็พลาดท่าถูกเคาน์ดูกูจับตัวไว้ อีกด้านหนึ่งความรักต้องห้ามระหว่างแอนาคินกับแพดเม่เริ่มก่อตัวขึ้น แอนาคินฝันร้ายเกี่ยวกับแม่ เขาและแพดเม่จึงเดินทางไปดาวทาทูอีอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าแม่ของตนถูกพวกทะเลทรายจับตัวไปทรมานจนตาย ความแค้นทำให้แอนาคินสังหารทุกคนจนไม่เหลือ ก่อนจะรีบเดินทางไปช่วยโอบีวัน แต่ก็พลาดท่าถูกจับไปด้วย
ภายหลังเหล่าเจไดภายใต้การนำของ เมซ วินดู ได้มาช่วยเหลือทันท่วงที ขณะจะหลบหนีเคาน์ดูกูก็ต้องต่อสู้กับแอนาคินและโอบีวัน แต่ทั้งสองพ่ายแพ้ แอนาคินถูกตัดมือขวาขาด ขณะจวนเจียนจะตาย ปรมาจารย์โยดาได้มาช่วยไว้ทันท่วงทีหลังจากดวลกัน เคาน์ดูกูอาศัยความชุลมุนหลบหนีไปได้อีกครั้ง หลังเหตุการณ์สงบ แอนาคินกับแพดเม่ได้แอบแต่งงานกันอย่างลับ ๆ
แม้ว่าธีมหลักจะเป็นเรื่องสงครามระหว่างดวงดาว การต่อสู้ระหว่างอัศวินแห่งแสงสว่าง กับลอร์ดแห่งความมืด แต่ที่จอร์จ ลูคัสซุกซ่อนอยู่ใน Star Wars แทบจะทุกภาคคือ นัยยะทางการเมือง ซึ่งปรากฏให้เห็นผ่านบรรดาตัวละครบางตัว ตลอดจนวิธีการต่อสู้กันทางการทูต, การค้า หรือกระทั่งสงคราม ซึ่งต้องมีกองกำลังไว้เพื่อป้องกัน หรือรุกรานก็ตาม
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากแรกเป็นฉากปะทะกันของ รวมพลอัศวินเจได พร้อมกองทัพโคลนส์ ปะทะกับกองทัพดรอยด์ เป็นฉากที่เต็มไปด้วยซีจีเพียบ เราจะได้เห็นบรรดาเจไดควงไลท์เซเบอร์เข้าห้ำหั่นกับกองทัพดรอยด์ ต่อเนื่องด้วยฉากทำสงครามของทั้งสองฝ่าย
ฉากที่สองคือ อาจารย์โยดาปล่อยของ เป็นฉากที่จะได้เห็นอาจารย์โยดา ใช้พลังและไลท์เซเบอร์เข้าต่อสู้กับเคาน์ดูกู อดีตเจไดผู้หันเข้าสู่ด้านมืด แม้ว่าเราจะรู้จักอาจารย์โยดามาตั้งแต่ Episode V แต่เราก็ไม่เคยเห็นอาจารย์โยดาต่อสู้เลย นี่จึงนับเป็นครั้งแรกที่คนดูจะได้เห็นอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์โยดา ที่ว่ากันว่าระดับปรมาจารย์เจไดเก่งจริงไหม ก็ต้องดูกันที่ฉากนี้ล่ะครับ
Star Wars Episode III: Revenge of the Sith (2005) ซิธชำระแค้น
Directed: George Lucas/Starring: Ewan McGregor, Natalie Portman, Hayden Christensen, Ian McDiarmid, Samuel L. Jackson/Running Time: 140 Mins.
สงครามเริ่มขยายวงกว้างระหว่างสาธารณรัฐแกแล็กติก กับสมาพันธ์พาณิชย์ โดยมีผู้นำคือนายพลกรีวัส ซึ่งจับตัวสมุหนายกพัลพาทีนไว้ สองเจไดโอบีวันและแอนาคินได้ตามไปช่วยเหลือออกมา ครั้งนี้แอนาคินเอาชนะและสังหารเคาน์ดูกูได้สำเร็จ ส่วนนายพลกรีวัสหลบหนีไปได้ ด้วยความสนิทสนมเป็นพิเศษ แอนาคินถูกมอบหมายจากสภาเจไดให้จับตาดูพัลพาทีนซึ่งมีวาระซ่อนเร้น
ในขณะที่โอบีวันเดินทางไปจัดการนายพลกรีวัส แอนาคินเริ่มฝันร้ายลางบอกเหตุอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ภาพที่เห็นคือแพดเม่กำลังจะตาย พัลทาทีนเผยตัวตนแท้จริงคือ ซิธลอร์ด ดาร์ธซีเดียส ซึ่งเสนอทางเลือก โดยชักชวนให้แอนาคินใช้พลังด้านมืดซึ่งจะชุบชีวิตคนตายได้ และมอบตำแหน่งสูงในสภาให้แก่อนาคิน เขาจึงเริ่มถลำตัวสู่ด้านมืดจนถึงขั้นเป็นส่วนให้เมซวินดูตาย สังหารเหล่าเจไดจนหมดสิ้น
โอบีวันเจ็บปวดใจที่ศิษย์และน้องชายของเขากลายเป็นความชั่วร้าย เขาเตือนแพดเม่แต่เธอไม่เชื่อ และตามมาพบแอนาคิน โดยไม่รู้ว่าโอบีวันแอบซ่อนอยู่ภายในยาน แพดเม่ชักชวนให้แอนาคินถอนตัวแต่เขาไม่เชื่อ และเมื่อได้เห็นโอบีวันทำให้แอนาคินโกรธแค้นพลั้งมือทำร้ายแพดเม่ โอบีวันจำต้องดวลไลท์เซเบอร์กับแอนาคิน ผลสุดท้ายแอนาคินพ่ายแพ้และถูกตัดแขนซ้ายและขาขาดทั้งสองข้าง เขาถูกไฟคลอกจนปางตายแต่ดาร์ธซีเดียสมาช่วยเหลือทัน โอบีวันพาแพดเม่หลบหนีไปคลอดลูก ก่อนตายเธอตั้งชื่อลูกชายว่า ลุค และลูกสาวว่า เลอา โดยเลอาถูกวุฒิสมาชิกออร์กาน่านำไปเลี้ยง ส่วนลุคโอบีวันนำไปดาวทาทูอีนให้น้องชายเลี้ยงดู
แอนาคินฟื้นคืนชีพอีกครั้งในนามดาร์ธเวเดอร์ เคียงข้างจักรพรรดิดาร์ธซีเดียส ส่วนโยดาหลบหนีไปอยู่ในดาวลึกลับแห่งหนึ่งในจักรวาล
ในงานปิดไตรภาคที่ 1 ซึ่งหนังกลับมาว่าด้วยเรื่องราวการเข้าสู่ด้านมืด และโดนครอบงำของแอนาคินจนกลายเป็นดาร์ธเวเดอร์ผู้ชั่วร้าย หนังกลับมาตั้งคำถามกับคนดูในเรื่องราวที่เป็นปัจเจกชน การเชื่อมั่นและให้โอกาสสำคัญกว่าการให้ใครสักคนรอคอยไปเรื่อยจนกว่าโอกาสที่เหมาะสมจะมาถึง กับคนที่มีความมุ่งมั่นทะเยอทะยาน คนผู้นั้นจะรอคอยได้นานมากแค่ไหนกับระหว่างทางที่ความหวังมันถูกบั่นทอนลงไปทีละนิดทีละน้อย แม้คนดูจะเห็นความเลวร้ายของแอนาคิน แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะตัวเอง? จักรพรรดิพัลพาทีน? หรือ เพราะสภาเจไดมัวแต่ยึดกับคำทำนายจนปล่อยให้คำทำนายนั้นเกิดขึ้นจริง? เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน จากการทำงานของเราเอง
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด
ฉากเปิดตัวด้วยสงครามอวกาศที่ โอบีวันและแอนาคินขับยานฝ่าฝูงบินเข้าไปในยานเพื่อช่วยพัลพาทีน ก่อนจะต่อด้วยการดวลไลท์เซเบอร์อีกครั้งกับเคานท์ดูกู
ฉากอาจารย์และศิษย์ต้องห้ำหั่นกัน นี่คือหนึ่งในสองครั้งที่ อาจารย์โอบีวัน และศิษย์แอนาคินต้องดวลไลท์เซเบอร์กันอย่างยาวนานบนดาวที่เต็มไปด้วยลาวา (อีกครั้งหนึ่งใน Episode IV
ฉากดาร์ธซีเดียสปะทะโยดา เป็นฉากที่ปล่อยของกันเต็มที่ของปรมาจารย์ด้านสว่าง และลอร์ดแห่งความมืด เลเวลระดับสุดยอดมาเจอกัน ทั้งดวลกันด้วยไลท์เซเบอร์ หรือ ฟอร์ซด้านสว่างและด้านมืด
ในบทความต่อไป จะเริ่มต้นเรื่องราวจาก Rogue One: A Star Wars Story ซึ่งมันคือจุดเชื่อมต่อระหว่าง Episode III กับ Episode IV และต่อด้วยเรื่องราวในไตรภาคที่ 2 ขอได้โปรดติดตาม
ขอพลังจงสถิตย์กับคนอ่านทุกท่านครับ
Imperial MarchTheme by John Williams
สำหรับท่านที่สนใจต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับจักรวาลสตาร์วอร์สทั้งหมด ผู้เขียนขอแนะนำเว็ปไซต์ จักรวาล สตาร์วอร์ส ซึ่งจะทำให้ทุกท่านเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดของสตาร์วอร์ส ตาม Link นี้ครับ
และเว็ปไซต์ทางการ http://www.starwars.com ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสตาร์วอร์ส
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, starwars.com, Starwars.siligon.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา