ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของมาร์เวล
Marvel Studio ผู้ครองตลาดหนังซุปเปอร์ฮีโร่ พวกเขาสร้างหนังเฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่มีอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่บั่นทอนคุณภาพของหนังฮีโร่เหล่านี้มาโดยตลอด ซึ่งก็ไม่ใช่ค่ายหนังค่ายอื่น หรือผู้บริหารท่านใดท่านหนึ่ง แต่เป็น Deadline หรือวันกำหนดส่งงานที่กระชั้นชิดสุดๆจนแทบไม่มีช่องให้ทีมงานหายใจ รวมไปถึงวันกำหนดฉายที่ถี่ยิบในทุกๆปีอีกด้วย
The Triangle
ด้านบนคือแผนภาพ"กฎสามเหลี่ยม" ทุกคนที่ทำงานเบื้องหลังในวงการภาพยนตร์จะรู้ว่าไม่มีใครเอาชนะกฎนี้ได้ ว่าด้วยเรื่องของ เร็ว ถูก ดี เราไม่มีทางได้ทั้ง3อย่าง เราเลือกได้แค่2อันเท่านั้น ถ้าอยากให้หนังออกเร็วๆ และต้นทุนต่ำ คุณต้องสละคุณภาพทิ้งไป ถ้าอยากให้หนังออกมาดีและถูก ก็ต้องใช้เวลามหาศาลกว่างานจะเสร็จ สิ่งที่มาร์เวลพยายามทำก็คือ เร็วและดี เพราะพวกเขาทุ่มทุนได้แบบไม่อั้นอยู่แล้ว แต่มันมีองค์ประกอบหลายๆอย่างที่มันเร่งไม่ได้ แม้ว่าจะมีเงินมากแค่ใหนก็ตาม หนึ่งในนั้นคือบทภาพยนตร์ ถ้าใครเคยดู Inception ของ Christopher Nolan ภาพยนตร์ที่ถูกนับว่าเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ เรียกว่าเพอร์เฟคก็ยังได้ เรื่องนั้นตัวโนแลนเองใช้เวลากว่า10ปีในการเกลาบท ปรับนิดเปลี่ยนหน่อยมาเรื่อยๆจนได้มาเป็นบทอันยอดเยี่ยมอย่างที่เราได้ชมกัน แต่ทีมเขียนบทของมาร์เวลมีเวลาไม่ถึง3เดือนในการเขียนบทหนังแต่ละเรื่องให้เสร็จ ทำให้หนังส่วนใหญ่ของพวกเขาเนื้อเรื่องจะอยู่แค่ในระดับ "โอเค"
Endgame
อีกอย่างที่เร่งไม่ได้ก็คือ CGI ในเรื่อง Avengers: Endgame รู้สึกใหมว่า CGI มันดูเหมือนเป็นงานเผายังไงชอบกล แม้ว่าหนังเรื่องนี้ทางมาร์เวลได้ร่วมมือกับบริษัทสร้าง VFX ถึง15บริษัทมาช่วยสร้างวิชวลเอฟเฟค มันก็ยังออกมาต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น(สำหรับหนังต้นทุน356ล้านเหรียญสหรัฐ) หนังอีกเรื่องที่โดนวิจารณ์เรื่องวิชวลเอฟเฟคมากที่สุดก็คือ Black Panther ฉากต่อสู้ในช่วงท้ายเรื่องระหว่าง คิลมองเกอร์และทีชาล่า ซึ่งดูแย่กว่าซีรี่ย์บางเรื่องซะอีก ทั้งสองเรื่องมีปัญหาเดียวกัน นั่นก็คือ Deadline พวกเขามีเวลาสร้างฉากสุดอลังการเหล่านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ศิลปิน VFX ทำงานโต้รุ่งวันแล้ววันเล่า นานเป็นเดือนเพื่อให้ได้งานชิ้นหนึ่ง ซึ่งก็รับประกันได้เลยว่าจะถูกวิจารณ์อย่างยับเยินในภายหลังแน่นอน แต่ทำไงได้ เดทไลน์มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆและทางสตูดิโอก็สั่งReshoot(ถ่ายใหม่)บ่อยๆจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของหนังยุคนี้ ทำให้ CGI ออกมาดีบ้างไม่ดีบ้าง
ตั้งแต่ปี2008เป็นต้นมา ทางมาร์เวลปล่อยหนังปีละ2เรื่องและคงรูปแบบนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งปี2018และ2019ที่มีหนังมาร์เวลเข้าฉายถึงปีละ3เรื่องด้วยกัน คือไม่มีทีท่าว่าพวกเขาจะลดปริมาณหนังที่ฉายต่อปีแน่นอน เราก็ได้แต่หวังว่า เทคโนโลยีใหม่ๆจะสามารถตอบโจทย์ เร็ว-ดี ที่มาร์เวลต้องการได้ ส่วนเรื่องบทเนี่ยก็.......คงต้องอยู่ระดับ "โอเค"ต่อไป เพราะเท่าที่ผมรู้ ไม่เคยมีใครเร่งกระบวนการนี้แล้วจบสวยสักคน
คำพูดที่ว่า "เวลาสำคัญกว่าเงิน" มันช่างเหมาะสมกับสถานการณ์ที่มาร์เวลกำลังเผชิญจริงๆนะ ว่าใหมครับ :)
วีดีโอเกี่ยวกับ มาร์เวลและศิลปะครับ :)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
