ทำไมสั่งของจากจีน(AliExpress)ถึงส่งฟรีตลอดเลย ???
เคยสงสัยกันไหมครับ
ว่าทำไมการส่งสินค้าเวลาเรา shopping online บางครั้งมันถึงส่งฟรี ???
(โดยเฉพาะจากประเทศจีน)
คือจะสั่งของจาก ebay หลักสิบบาท
เจอค่าส่งหลักร้อย
ก็แทบจะร้องไห้แล้ว
แต่เจอสั่งของจากพี่จีนแค่ 20-30 บาท
ดันส่งแบบฟรีมาให้อีก
แบบนี้ก็ตัดสินใจกันง่ายเลย
เพราะอะไรสินค้าจากจีนถึงส่งฟรีได้
และไม่ใช่ส่งฟรีแค่ใกล้ๆด้วย
บางทีฟรีไปถึงอเมริกาโน่น !!!
ทำยังไงถึงส่งฟรีกันได้นะ ???
เค้าเอาเงินจากไหนมาจ่ายค่าขนส่งกัน
ขนาดเราส่งกันแค่ในกรุงเทพยังเสียตังเกือบร้อยบาทเลย
ก่อนจะตอบคำถามนี้ได้
เราต้องมาดูโครงสร้างค่าใช้จ่ายของการส่งไปรษณีย์ระหว่างประเทศกันก่อน
คือเวลาส่งไปรษณีย์ข้ามประเทศ
ก็จะมีผู้เกี่ยวข้องคือประเทศต้นทาง(first mile handling)
กับประเทศปลายทาง(last mile handling)
หน้าที่ของประเทศต้นทางคือเอาพัสดุไปให้ถึงท่าเรือหรือสนามบิน
แค่นี้พอ
สบายๆครับ
แต่หน้าที่ของประเทศปลายทางคือ
คัดแยกและส่งไปให้ถึงผู้รับแบบ hand to hand
ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงมาก
(เพราะต้นทางคือคนไปส่งของมันรวมมาให้แล้วที่ทำการไปรษณีย์)
ดังนั้นสมาคมไปรษณีย์สากล(the Universal Postal Union หรือ UPU)
จึงกำหนดค่าตอบแทนของประเทศต้นทางแและปลายทางในยุคต่างๆ
ดังนี้
องค์กรนี้คือพระเอกของตอนนี้เลยครับ
ยุคที่ 1 ส่งกันฟรีจ้าาาาาา~าา
ยุคนี้เป็นยุคโลกสวยของแต่ละประเทศ
ด้วยแนวคิดแบบมิตรภาพคือ
"ฉันส่งให้เธอ เธอส่งให้ฉัน"
เราไม่ต้องเก็บตังกัน
แน่นอนว่าถ้าไปรษณีย์เข้า = ไปรษณีย์ออก
มันจะไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ
เพราะผลรวมมันเป็น 0
แต่ฟังดูก็รู้ว่ามัน ideal มาก
และไม่เป็นจริงแน่นอน
เพราะมันต้องมีประเทศบางประเทศเสียเปรียบและได้เปรียบกัน
ไม่ต้องใช้บัตรแมวก็ส่งของให้กันฟรีก็ได้
ยุคที่ 2 คิดค่าใช้จ่ายตามประเทศ
พอระบบฟรีแบบโลกสวยมันไม่ work
(ก็แหงสิฟระ)
UPU เลยพยายามคิดระบบใหม่
โดยให้ประเทศต้นทาง
"จ่าย"ให้ประเทศปลายทาง
เช่น ส่งพัสดุจากไทยไปยังอังกฤษ
ไทยอาจจะเสียค่าส่งต้นทางให้อังกฤษ 20 บาท
แต่ส่งพัสดุภายในอังกฤษเองอาจจะเสียถึง 50 บาท
แปลว่าพัสดุจากไทยไปอังกฤษ
อังกฤษจะขาดทุนทันที 30 บาทต่อชิ้น
แต่ส่งจากอังกฤษมาไทย
อังกฤษอาจจะต้องจ่ายเงินให้กับไทย 50 บาท
แต่ค่าส่งพัสดุในไทยอาจจะเสียแค่ 20 บาท
เท่ากับไทยได้กำไรจากการขนส่งพัสดุให้กับอังกฤษ 30 บาทต่อชิ้นครับ
(อันนี้ผมสมมติตัวเลขขึ้นมาทั้งหมดนะครับ)
ถึงตรงนี้
บางคนอาจจะสงสัยว่า
อ้าววววว~วว ทำไมแต่ละประเทศจ่ายไม่เท่ากันล่ะ ???
จริงๆมันมีหลายตัวแปรในการคำนวน
แต่มีตัวแปรนึงที่น่าสนใจ
คือความเป็นประเทศกำลังพัฒนาครับ
และแน่นอนว่าจีนก็ได้สิทธิเป็นประเทศกำลังพัฒนานั้นเดี๋ยวนี้ครับ
ถึงตรงนี้ก็คงเห็นแล้วเพราะ UPU กำหนดอัตราค่าจัดส่งไม่เท่ากัน
ทำให้มันมีการได้ดุล-ขาดดุลของการขนส่งไปรษณีย์
และทำให้ไปรษณีย์ของหลายๆประเทศไม่พอใจกัน
(ประมาณว่าประเทศแกทำประเทศช้านขาดทุนนนนนนนน~นน)
ซึ่งประเทศไหนพัฒนาแล้ว
ก็ถือว่าไปรษณีย์ของประเทศนั้นก็ต้องเป็นเดอะ แบกไปเบาๆ
ซึ่งส่วนมากประเทศที่มักจะเสียผลประโยชน์คือประเทศในยุโรปและอเมริกาเหนือ
ส่วนประเทศที่ได้ประโยชน์คือกลุ่มเอเชียเรานั่นเอง
(เย้~)
และยิ่งมีความก้าวหน้าของ E-commerce
ก็ยิ่งทำให้มีการขาดดุลตรงนี้เพิ่มขึ้นมหาศาล
บางคนอาจจะสงสัยต่อว่า
อ้าววววว~วว
แล้วประเทศ the แบก จะทนขาดทุนทำไมอ่ะ
สาเหตุที่หลายๆประเทศยังทนขาดทุน
ก็เพราะการเป็นสมาชิก UPU ก็ยังช่วยกดค่าขนส่งระหว่างประเทศให้ถูกกว่าราคาตลาดหรือราคาของเอกชน
ทำให้ป้องกันการเข้ามาของ FedEx หรือ DHL ได้
ก็นั่นแหละครับ
เรียกว่าประเทศพัฒนาแล้วหนีเสือปะจระเข้
จะเข้าร่วม UPU ก็โดนประเทศกำลังพัฒนาเอาเปรียบ
จะไม่เข้าร่วมก็โดนขนส่งเอกชนตีตลาด
แล้วพอขนส่งจีนมันได้เปรียบ
มันเลยทำให้การ subsidise ค่าส่งหรือจัดส่งฟรีทำได้ง่ายขึ้น
เช่น พอจีนได้ดุลเรื่องการส่งไปรษณีย์
จีนก็มีเงินมาอุดหนุนกิจการ E-commerce หรืออาจจะออกนโยบายช่วยก็ยังได้
เข้าสูตรคนมีตัง ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด
พอจัดส่งฟรีง่ายขึ้นก็กลับมาที่การตั้งราคาได้เปรียบ
พอราคาได้เปรียบคนก็ตัดสินใจซื้อเยอะขึ้น
พอซื้อเยอะขึ้นก็ได้ดุลการส่งไปรษณีย์
แล้วก็วนกลับมาที่มีเงินมาออกนโยบายสนับสนุนต่างๆ
และก็กลับมาที่ส่งฟรีอีกที
ถึงแม้ UPU จะมีการ revise ตัวเลขพวกนี้ทุกๆ 4 ปี
แต่ก็เหมือนว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ครับ
ส่งให้ทุกอย่าง ขอแค่สั่งจ้า
สุดท้ายถามว่าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆดีมั๊ย ???
ในฐานะที่เป็นผู้บริโภคและเคยสั่งของจากจีน
ก็ย่อมต้องบอกว่าดีครับ
ได้ของราคาถูก
แม้จะรอนานกว่านิดนึง
แต่ถ้าหนู Greta มาอ่านคงจะอุทานว่า
"ว้ายยยยยยยยยย~ยย !!!
นี่มันทำให้เกิดการขนส่งทางไกลที่ไม่จำเป็น
และทำให้โลกร้อนนะคะ"
เด็กผู้หญิงผู้ต่อสู้กับมลภาวะของโลก
อันนี้เดาล้วนๆ
แต่คิดว่าคงใช่
เพราะที่หนู Greta ไปประท้วง UN นั่นเดินทางโดยเรือนะจ๊ะ
นางบอกว่าการเดินทางโดยเครื่องบินทำให้เกิดการปล่อย carbon footprint หรือ CO2 มากขึ้น
และกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ
ตามเทรนด์ที่ผู้คนเดินทางโดยเครื่องบินมากขึ้น
ดังนั้นการขนส่งที่ไม่จำเป็นก็ทำให้เกิด carbon footprint ที่มากขึ้นด้วย
ว่าแต่จาก AliExpress มา Global Warming ได้ไงเนี่ย = ="
สุดท้ายนี้ Donald Trump มีการออกมาขู่ว่าถ้า UPU ยังมีการอุ้มประเทศกำลังพัฒนาพวกนี้อยู่อีก
อเมริกาจะขอถอนตัวออกจาก UPU ซะเลย
เพราะแบกค่าเสียเปรียบดุลการส่งไปรษณีย์ไม่ไหวแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือแค่ขู่อย่างไรบ้าง
คุณผู้อ่านล่ะครับ
คิดอย่างไรเกี่ยวกับการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศกันบ้าง ^^
สมัยนี้เริ่มใช้ Drone ส่งแล้วจ้า
- 139
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
