10 ธ.ค. 2019 เวลา 06:41 • บันเทิง
5 นักแสดงโชว์เสียง พากย์การ์ตูนปี 62
ปี พ.ศ. 2562 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่มีการ์ตูนต่างประเทศเข้าฉายในบ้านเราเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าเมื่อเป็นผลงานการ์ตูนเด็กๆ ส่วนใหญ่ก็นิยมที่จะดูพากย์ไทยเป็นหลัก
หน้าที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมจึงตกไปอยู่ที่ตัวผู้พากย์เสียง ซึ่งมีนักแสดงชาวไทยหลายคนได้มาสวมบทบาทให้เสียงตัวละครนั้นๆ ได้อย่างน่าสนใจ
1.ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์
How To Train Your Dragon 3 รายได้ 102.86 ล้านบาท
แม้ที่ฝ่ายมา “เชียร์” จะได้ชื่อว่าเป็นคนบันเทิงที่โฟกัสในเรื่องของงานแสดงเป็นหลัก แต่การที่เธอมาพากย์เสียง “แอสทริด” นั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่นางเอกคนนี้ได้มาโชว์ความสามารถได้เป็นอย่างดี และเป็นที่ยอมรับจากแฟนหนังชาวไทยอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ “เชียร์” ประสบความสำเร็จกับงานพากย์ในครั้งนี้คงเป็นเพราะว่า “เชียร์” คือนักแสดงคนหนึ่งที่ผ่านมางานแสดงมาแล้วหลายรูปแบบ จึงทำให้เธอเกิดความเข้าใจและเข้าถึงตัวละครทุกตัวที่ผ่านมาได้ดี “เชียร์” จึงสามารถสื่อสารอารมณ์ความรู้สึกของ “แอสทริด” ได้อย่างยอดเยี่ยม
“How To Train Your Dragon 3” ถือได้ว่าเป็นผลงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ในประเทศไทยเอกก็มีหลายคนที่ให้ความสนใจจนสามารถทำรายได้ในบ้านเราได้มากถึง 102.86 ล้านบาท
2.สรพงศ์ ชาตรี
Toy Story 4 รายได้ 66.54 ล้านบาท
หากพูดถึงความสามารถของ “สรพงษ์ ชาตรี” เชื่อว่าหลายคนคงเคยสัมผัสผลงานของนักแสดงรุ่นใหญ่คนนี้มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ละคร เพลง แต่อีกหนึ่งความสามารถที่น้อยคนจะรู้ก็คือการพากย์เสียงตัวการ์ตูน “วู้ดดี้” ในภาพยนตร์เรื่องดัง “Toy Story” มาตั้งแต่ปี 1995
ด้วยความที่ “สรพงษ์” มีเนื้อเสียงที่หลายกับ “ทอม แฮงส์” ผู้ที่ให้เสียง “วู้ดดี้” ในเสียงภาษาอังกฤษ ทำให้ทางผู้ผลิตพิกซาร์เกิดความสนใจและติดต่อให้ “สรพงษ์” เป็นผู้รับหน้าที่พากย์เสียงตัวละครนี้มาตั้งแต่ภาคแรกจนถึงผลงานล่าสุด “Toy Story 4” ที่มีรายได้ในบ้านเรามากถึง 66.54 ล้านบาท
แม้จะเป็นงานที่ยากในการพากย์เสียงตัวการ์ตูนเพราะตัวละครเหล่านี้จะมีการมูฟเมนต์ไปเรื่อยๆ แถมยังมีทั้งการตระโกน การถ่ายทอดความรู้สึกที่มากกว่าน้ำเสียงของนักแสดงปกติ แต่ “สรพงษ์” ก็สามารถลุยงานทางด้านนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี จนมีเด็กๆ จำน้ำเสียงได้และชื่นชอบการพากย์ของเขาอย่างมาก
3.ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
One Piece: Stampede รายได้ 36.79 ล้านบาท
เรียกได้ว่ามาสร้างความเซอร์ไพร์สและความประทับใจให้กับสาวกโจรสลัดวันพีช สำหรับพระเอกหนุ่ม “บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ที่มารับหน้าที่พากย์เสียง “ซาโบ้” ในผลงานเรื่อง “One Piece: Stampede” ที่กวาดรายได้ในบ้านเราไปกว่า 36.79 ล้านบาท
โดยตัวละครของ “ซาโบ้” นั้น ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีบทบาทสำคัญอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้ชื่อว่าเป็นพระเอกของเรื่องอย่าง “ลูฟี่” แต่ตัวละครตัวนี้ก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานกับ “ลูฟี่” และ “เอส” แถมยังมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าชั้นนายพล คณะปฏิวัติ อีกด้วย
การที่ “บอย” ได้มาพากย์เสียงตัวละครสำคัญอย่าง “ซาโบ้” แม้จะมีเสียงวิพากย์วิจารณ์มาพอสมควรว่าเสียงของ “บอย” ไม่เถื่อนเหมือนเสียงพวกโจรสลัด แต่เขาก็สามารถสื่ออารมณ์และตีความตัวละครได้อย่างน่าสนใจ
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “บอย” สามารถเข้าถึงตัวละคร “ซาโบ้” ได้เป็นอย่างดีก็คือ “บอย” ถือเป็นคนหนึ่งที่ติดตามอ่านการ์ตูนเรื่อง “วันพีช” มาอย่างต่อเนื่อง แถุมยังมีของเล่นโมเดลเก็บสะสมไว้มากมาย ความชอบตรงนี้เองที่ทำให้เขาเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดี
แถมก่อนหน้านี้ “บอย” ก็เคยผ่านงานพากย์เสียงการ์ตูนมาบ้างแล้ว ตรงนี้เองที่ทำให้เขาใช้ประสบการณ์ในการพากย์กับผลงานชิ้นล่าสุด ประกอบกับผลงานการแสดงที่ผ่านมาก็ยิ่งทำให้งานพากย์เสียงการ์ตูนไม่ใช่งานที่ยากสำหรับ “บอย” อีกต่อไป
4.ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
Wonder Park รายได้ 5.29 ล้านบาท
อีกหนึ่งคนที่มาพากย์เสียงการ์ตูนในปี 2562 จนเป็นที่จับตามองก็คือ “บุ๋ม-ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” กับบทบาทตัวละครหมูป่าแสนสวย “เกรต้า” ในภาพยนตร์เรื่อง “Wonder Park” ที่ทำรายได้ในบ้านเรา 5.29 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ “บุ๋ม” จะเคยผ่านงานพากย์เสียงมาแล้ว แต่ก็เป็นระยะเวลาที่นาน จนทำให้เธอต้องรื้อฟื้นปัดฝุ่นงานพากย์ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เธอทำงานได้คล่องตัวมากกว่าเดิม
ต้องบอกว่างานพากย์การ์ตูนปัจจุบันนี้มีความยากกว่าสมัยก่อนเป็นอย่างมาก เพราะเทคโนโลยีในการสร้างทำให้การ์ตูนมีรายละเอียดที่ชัดเจน ประกอบกับการขยับปากที่เนียนมาขึ้น แต่ “บุ๋ม” ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ทุกคำพูดอย่างไม่มีหลุดเลยทีเดียว
5.ญานนีน ภารวี ไวเกล
Play Mobile: The Movie รายได้ 7 แสนบาท
ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งสาวสวยมากฝีมือที่ยึดอาชีพในวงการบันเทิงด้วยการขายเสียงเป็นหลัก อย่าง “พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล”
แม้เธอจะเอาดีทางด้านการขายเสียงจากการฝากผลงานเพลงที่สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกมาแล้วหลายบทเพลง แต่สำหรับงานพากย์ที่เธอต้องใช้เสียงเหมือนกันนั้น ก็มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง แถมยังต้องใช้พลังและความอินไปกับเรื่องราวที่มากกว่างานเพลงด้วยซ้ำ
แต่ด้วยความที่ “พลอยชมพู” มีประสบการณ์ด้านการแสดงมาพอสมควร เธอจึงใช้ประสบการณ์ทั้งสองอย่างนี้ ถ่ายทอดผ่านงานพากย์กับตัวละคร “มาร์ลา” ในเรื่อง “Play Mobile: The Movie” ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะทำรายได้ในบ้านเราแค่ 7 แสนบาทก็ตาม
แต่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของ “พลอยชมพู” ที่แฟนๆ จะต้องหลงรักไปกับอีกหนึ่งชิ้นงานคุณภาพที่ได้รับจากผู้หญิงคนนี้
โฆษณา