10 ธ.ค. 2019 เวลา 10:00 • ปรัชญา
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 2
ผมถูกไล่ออกจากโรงเรียน…..ใช่…..ผมจะไม่ต้องกลับไปที่นั้นอีกหลังปิดเทอมคริสมาส เพราะผมสอบตกสี่วิชาและไม่ใส่ใจเรื่องการเรียนเลยแม่แต่น้อย
จะเป็นผู้คอยรับไว้ไม่ให้ใครร่วงหล่น (the catcher in the rye) ตอนที่ 2
พวกเขาส่งสัญญาณตักเตือนผมบ่อยๆครั้งให้ผมตั้งใจเรียนโดยเฉพาะตอนสอบกลางภาค เขาเรียกพ่อแม่ของผมเขามาคุยกับครูใหญ่เธอร์เมอร์ แต่ผมก็ไม่ปรับปรุงตัวผมจึงถูกกำจัด
เป็นเรื่องปกติที่เพน เซย์ พวกเขากำจัดพวกเด็กๆอยู่บ่อยๆ
เพน เซย์ เป็นโรงเรียนที่มีมาตรฐานทางการศึกษาที่ดีมาก...ดีมากจริงๆ
ตอนนั้นมันเป็นเดือนธันวาคม อากาศหนาวมากโดยเฉพาะบนเนินบ้านั้น ผมใส่แค่เสื้อโค้ทกันหนาวตัวเดียวไม่มีถุงมือหรืออะไรทั้งนั้น
อาทิตย์ที่แล้วมีคนขโมยเสื้อโค้ทขนอูฐของผมไปจากห้อง และถุงมือของผมก็อยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ทด้วย
เฮ่ออ....แม่ง....ที่เพน เซย์ เต็มไปด้วยหัวขโมย
นักเรียนหลายคนมาจากครอบครัวที่รํ่ารวยมาก แต่แม่งก็ยังเต็มไปด้วยหัวขโมยอยู่ดี โรงเรียนอะน่ะยิ่งมีค่าเทอมแพงเท่าไหร่ก็จะมีไอพวกหัวขโมยมากเท่านั้น ผมไม่ได้พูดเล่นนะ
ผมยืนอยู่ข้างปืนใหญ่กำลังมองไปที่การแข่งขัน
เอาจริงๆ ผมไม่ได้สนใจจะดูการแข่งขันหรอกนะ สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ผมยืนตูดสั่นอยู่บนเนินนั้นก็เพราะผมต้องการที่จะรู้สึกถึงการจากลา
คือผมรู้แล้วว่าผมได้ออกจากที่นั้นมาแล้วแต่ผมก็ยังไม่รู้สึงถึงมันอยู่ดี ผมไม่สนใจหรอกว่ามันจะเป็นการจากลาที่แย่หรือการจากลาที่เศร้า เวลาที่ผมกำลังจะออกจากที่ไหนผมต้องการที่จะรู้สึกว่าผมกำลังจะออกจากที่นั้นแล้ว….
ผมไม่ชอบเลยความรู้สึกอย่างนี้….มันทำให้ผมรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง
แต่โชคดี จู่ๆ ผมก็นึกถึงเหตุการณ์หนึ่งที่จะช่วยเอาความรู้สึกแย่ๆนี้ออกไปได้
ช่วงราวๆเดือนตุลาคม ผม โรเบิร์ต ทีชเนอร์ กับ พอล แคมพ์เบลล์ กำลังโยนลูกฟุตบอลเล่นหน้าอาคารเรียน พวกเขาเป็นคนนิสัยดีนะโดยเฉพาะทีชเนอร์
มันป็นเวลาอาหารเย็น ข้างนอกเริ่มมืด แต่เราก็ยังโยนลูกฟุตบอลเล่นกันอยู่อย่างนั้น
ท้องฟ้าเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆและพวกเราแทบจะมองไม่เห็นลูกบอล แต่พวกเราก็ไม่อยากหยุดเล่น จนอาจารย์คนนึ่งที่สอนวิชาชีววิทยา ชื่ออาจารย์ แซมเบซี โผล่หัวออกมาจากหน้าต่างบานหนึ่งของอาคารเรียน แล้วบอกให้พวกเรากลับไปที่หอและเตียมตัวสำหรับอาหารเย็น
ผมรู้สึกแล้ว
ทันทีที่ผมรู้สึงถึงมันแล้ว ผมก็หันไปมองรอบๆและก็วิ่งลงบนเนินไปยังอีกฟากหนึ่งของเนินเขา และมุ่งหน้าไปยังบ้านของตาแก่สเปนเซอร์
เขาไม่ได้พักอยู่ในเขตโรงเรียนหรอกนะเขาพักอยู่ติดถนนแอนโทนี เวนย์ นู้นน
ผม วิ่ง วิ่ง วิ่ง ไปจนถึงประตูรั้วทางเขาแล้วหยุดพักสักหน่อยเพื่อหายใจ
ระบบหายใจของผมไม่ค่อยดีนัก เอาตรงๆ ผมเป็นคนสูบบุหรี่จัด หรือต้องบอกว่าผมเคยเป็นคนสูบบุหรี่จัด เพราะพวกเขาบังคับให้ผมเลิกสูบและอีกอย่างหนึ่ง ผมสูงขึ้นตั้งหกนิ้วครึ่งแหนะเมื่อปีที่แล้ว นั้นแหละเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมติดเชื้อวัณโรคและต้องมาที่นี้เพื่อตรวจร่างกายห่าเหวอะไรพวกนั้น
แต่ผมก็เป็นคนสุขภาพดีนะ
อย่างไรก็ตามทันทีที่ผมหายใจเป็นปกติแล้วผมก็วิ่งข้ามถนนสาย 204
ผิวถนนเป็นนํ้าแข็งลื่นชิบหายผมละเกือบหัวทิ่มแล้ว
….แต่ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะวิ่งไปทำไม….มันก็แค่อยากวิ่งเฉยๆ
พอผมวิ่งข้ามถนนไปได้แล้ว จู่ๆ ผมก็รู้สึกบางอย่าง
ผมรู้สึกประมาณว่าตัวเองกำลังจะหายไป…..
แม่งเป็นบ่ายที่โคตรๆ อากาศโคตรหนาวและไม่มีแดดโผล่มาเลย มันหนาวมาก มันหนาวจนคุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะหายไปทุกครั้งที่คุณข้ามถนน
แม่งเอ๊ยยยยย
ผมกดกริ่งประตูอย่างไวเมื่อถึงบ้านอาจารย์สเปนเซอร์ ผมตัวแข็งไปหมด
หูของผมมันปวดร้าว ผมหนาว ผมหนาวจนขยับนิ้วมือไม่ได้เลย
เร็วสิวะๆ “ใครก็ได้เปิดประตูให้ผมหน่อย” ผมพูดออกมาดังๆ
ในที่สุดคุณนายสเปนเซอร์ก็ออกมาเปิดประตู
พวกเขาไม่มีคนรับใช้ พวกเขาจะเป็นคนออกมาเปิดประตูเองตลอด
พวกเขาก็ไม่ได้มีเงินทองเยอะนัก
“โฮลเดน! ดีใจจริงๆที่ได้เจอเธอ เขามาสิจ๊ะเดี๋ยวก็แข็งตายหรอก” คุณนายสเปนเซอร์พูด
ผมคิดว่าเธอดีใจที่ได้เจอผม….เธอชอบผม….อย่างน้อยผมก็คิดว่าเธอชอบ
ผมพุ่งเขาไปในบ้านอย่างไว
“สบายดีไหมครับคุณนายสเปนเซอร์ อาจารย์สเปนเซอร์เป็นยังไงบ้างครับ” ผมถาม
“ให้ฉันเก็บเสื้อโค้ทให้นะจ๊ะ” เธอตอบ
เธอไม่ได้ยินที่ผมถาม หูเธอค่อนข้างตึง
เธอแขวนเสื้อโค้ทของผมไว้ในตู้เสื้อผ้าตรงทางเดิน
ผมใช้มือของผมเสยผมไปข้างหลัง ปกติแล้วผมไม่ต้องไปหวีผมหรือจัดทรงผมอะไรพวกนั้นหรอก เพราะปกติผมตัดผมเกรียน
“เป็นยังไงบ้างครับคุณนายสเปนเซอร์” ผมถามเธออีกครั้งแต่เสียงดังขึ้น
เพื่อให้เธอได้ยิน
“ฉันสบายดีจ๊ะโอลเดน” เธอปิดประตูตู้เสื้อผ้า
“แล้วเธอละเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีครับ” ผมตอบ
จากลักษณะที่เธอถาม ผมรู้ทันทีว่าอาจารย์เสปนเซอร์ได้บอกเรื่องที่ผมโดนไล่ออกกับเธอแล้ว
“ อาจารย์สเปนเซอร์เป็นยังไงบ้างครับ เขาหายเป็นไข้หรือยังครับ” ผมถาม
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกโอลเดน เขานะทำตัวเหมือน….ฉันไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี….เขาอยู่ในห้องของเขานะจ้ะ เข้าไปสิจ๊ะ”
โฆษณา