Blockdit Logo (Mobile)
Scar on the sky
•
10 ธ.ค. 2019 เวลา 14:05 • ประวัติศาสตร์
"224 ศพ กับปริศนาเครื่องบินระเบิด !?"
เที่ยวบิน Metrojet Flight 9268
กับหายนะปริศนา บนน่านฟ้าอียิปต์
เครื่องบินลำที่เกิดอุบัติเหตุ
เครื่องบินรุ่น Airbus 321 ลำหนึ่งในสายการบิน Kogalymavia ของรัสเซียถูกเช่าเหมาลำเพื่อทำการบินกลับจากประเทศอียิปต์ ได้หายไปจากเรดาห์น่านฟ้าคาบสมุทรไซนาย เพียง 23 นาทีหลังจากนำเครื่องขึ้น ซึ่งได้ถูกยืนยันในเวลาต่อมาว่าระเบิดกลางอากาศ คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือรวม 224 ศพ ในช่วงเช้าวันที่ 31 ตุลาคม 2015
การระเบิดปริศนากลางอากาศ มาพร้อมกับข้อสันนิษฐานต่างๆนานา ทั้งการซ่อมแซมที่ผิดพลาด การถูกยิงด้วยขีปนาวุธ การก่อการร้ายบนเครื่องบิน หรือความผิดปกติของส่วนประกอบเครื่องบินเอง ท้ายที่สุดหายนะปริศนานี้ก็ได้ถูกคลี่คลายลงจากการเข้าสืบสวนของหน่วยงานนับไม่ถ้วนจากทุกมุมโลก
Red Sea ทะเลที่อยู่ระหว่างประเทศอียิปต์และซาอุดิอารเบียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากชาวเมืองหนาวรวมถึงรัสเซียในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายน เนื่องด้วยสภาพอากาศและความสวยงามอย่างสุดลูกหูลูกตา
Red Sea, ชายฝั่งประเทศอียิปต์
31 ตุลาคม 2015, กลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งจำนวน 217 คนนำโดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียได้ทำการเช่าเหมาลำเครื่องบินของสายการบิน Kogalymavia (หรือในนามของ Metrojet) เพื่อบินกลับจากการท่องเที่ยวสถานที่แห่งนี้ เที่ยวบินนี้คือเที่ยวบินที่ 9268 ที่ใช้เครื่องบินรุ่น Airbus 321-231
เส้นทางการบินเริ่มจาก Sharm El Sheikh International Airport, ประเทศอียิปต์ มุ่งหน้าไปยัง Pulkovo Airport, ประเทศรัสเซีย โดยมีลูกเรือบนเครื่องทั้งหมด 7 คน
เส้นทางการบินตามกำหนดของเที่ยวบินที่ 9268
เครื่องบินได้ทำการ Take off (นำเครื่องขึ้น) ที่เวลาท้องถิ่น 05.50 นาฬิกาและทำการไต่ความสูงขึ้นไปยังระดับความสูงที่ 31,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล ระหว่างนั้นเที่ยวบิน 9268 ก็ทำการสนทนากับหอควบคุมการจราจรจนถึงเวลา 06.13 นาฬิกา สัญญาณของเที่ยวบินดังกล่าวได้หายไปจากจอเรดาห์กะทันหัน และสรุปว่าเครื่องบินลำนี้ตกอย่างปริศนาในเวลาต่อมา
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้พบซากเครื่องบิน หลายส่วนอยู่กระจัดกระจายห่างกันในรัศมี 20 กิโลเมตร อีกทั้งยังพบศพผู้เสียชีวิตบางคนทั้งในซากเครื่องบิน และบางคนอยู่ไกลไป 14 กิโลเมตร ประกอบกับกองกำลังป้องกันสหรัฐออกมาแจ้งถึงการตรวจพบรังสีความร้อนจากสัญญาณ Infrared ณ เวลาและสถานที่เดียวกับที่เรดาห์หายไป บทสรุปแรกจึงได้ว่า "เที่ยวบิน 9268 เกิดระเบิดกลางอากาศ"
คำถามต่อมาคือ มันระเบิดได้ยังไง ?
มีการถกเถียงขึ้นมาอยู่หลายประเด็น แต่ที่ดูมีมูลก็มีแค่ 3 ข้อหลัก
A. เกิดจากความผิดปกติของส่วนประกอบเครื่องบิน หลังซ่อมแซม
B. โดนยิงขีปนาวุธใส่ (MANPADS)
C. ถูกก่อความไม่สงบโดยการวางระเบิดบนเครื่องบิน
A.) สันนิษฐานข้อแรกต้องย้อนไปถึงว่าเครื่องบินลำนี้ได้เคยถูกบรรจุในฝูงบิน Middle East Airlines ภายใต้ทะเบียน F-OHMP และในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2001, เครื่องบินลำนี้เกิดเหตุการณ์ Tailstrike (หางเครื่องบินไถลพื้น) ขณะทำการนำเครื่องลงที่ไคโร, ประเทศอียิปต์ จากนั้นก็ถูกนำไปซ่อมแซมข้ามปีจนใช้งานได้อีกทีในปี 2002 หลายๆคนจึงมองโอกาสความเป็นไปได้ของการล้าในวัสดุจนก่อให้เกิดความดันที่มากเกินวัสดุจะรับไหว คล้ายกับเหตุการณ์เที่ยวบินที่ JAL123*
แต่ต่อมาในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2015 ทางทีมงาน Metrojet ได้ยืนยันถึงความปลอดภัยของเครื่องบินลำนี้ (Airworthy) โดยอ้างการได้รับการรับรองความปลอดภัยของสายการบินในปี 2014 ภายหลังได้ให้ข้อมูลการซ่อมแซมเหตุการณ์เมื่อปี 2001 ว่ามีการซ่อมแซมถูกต้องตามมาตรฐาน รวมถึงรายงานการตรวจเช็คใหญ่เครื่องบินล่าสุดของวันที่ 26 ตุลาคม 2015 หรือ 5 วันก่อนระเบิด "สมมติฐานนี้จึงยังไม่มีน้ำหนักพอ"
ภาพของเหตุการณ์ JAL123 ที่หล่นจากการระเบิดจนควบคุมเครื่องไม่ได้
B.) สันนิษฐานต่อมา มุ่งความน่าจะเป็นไปที่การถูกยิงด้วยขีปนาวุธ หรือ MANPADS (Man-portable air-defence systems) หลังจากสมมติฐานแรกได้ถูกปัดทิ้งไป ก็มองไปถึงดินแดนบริเวณคาบสมุทรไซนายเป็นที่กบดานของเหล่า ISIS กลุ่มก่อการร้ายที่มีอิทธิพลที่ครอบครองขีปนาวุธและอาวุธติดระเบิดต่างๆไว้มากมาย ทว่ายังไม่ทันไรสมมติฐานนี้ก็ต้องถูกปัดทิ้งอีกครั้งหลังจากได้ข้อมูลว่า MANPADS สามารถยิงเป้าหมายที่ความสูงไม่เกิน 15,000 ฟุตเท่านั้น ขณะที่เจ้าเที่ยวบิน 9268 บินอยู่ที่ 31,000 ฟุตเหนือน้ำทะเล "สมมติฐานนี้จึงเป็นไปไม่ได้"
Man-portable air-defence system (MANPADS)
C.) สมมติฐานท้ายสุดยังหนีไม่พ้นกลุ่มก่อการร้ายอย่าง ISIS แต่มองไปที่การวางระเบิดบนเครื่องบินแทนการยิงขีปนาวุธที่เป็นไปไม่ได้
ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2015, หน่วยข่าวกรองของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาพบข้อมูลสำคัญผ่านการดักฟังอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์คือการนำอุปกรณ์จุดระเบิด (explosion device) ขึ้นเครื่องบินลำดังกล่าว
ประกอบกับทีมงานตรวจสอบซากเครื่องบินมีข้อมูลสนับสนุนว่าตัวเครื่องบินมีร่องรอยระเบิดจากภายในเครื่อง เพราะเป็นรอยปริออกจากในไปนอก โดยจุดที่เห็นได้ชัดเจนคือบริเวณส่วนท้ายของเครื่อง
ตอนนี้ภาพเริ่มชัดแล้วว่าอาจจะมาจากการระเบิดในเครื่อง เหลือแค่ว่าถ้าไม่ใช่การระเบิดจากความร้อนสะสมที่มากเกินไป (Overheated) ของส่วนประกอบเครื่องบิน ใครจะเอาระเบิดมาวาง?
สำนักข่าว CNN และ Wall Street Journal กล่าวไว้ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินนั้นแน่นหนามาก ยากที่จะนำสิ่งเหล่านี้เข้าไปโดยพลการ เว้นเสียแต่ว่าทุกสนามบินจะตรวจตราพนักงานบางส่วนอย่างหละหลวม เช่น พนักงานจัดเลี้ยง พนักงานขนส่งอาหาร พนักงานจัดเก็บสัมภาระ หรือแม้กระทั่งพนักงานทำความสะอาด
Abdirahmaan Muhumed, คือสมาชิกกกลุ่ม ISIS ที่เคยแฝงตัวเข้าไปเป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัท Delta Global Service Inc. ซึ่งสามารถเข้าถึงเครื่องบินได้อย่างอิสระภายในสนามบินที่รองรับผู้โดยสารกว่า 90,000 คนต่อวัน และได้ทำภารกิจตัดหัวนักข่าวชาวอเมริกัน 2 คนอีกทั้งสังหารหมู่ไปกว่า 1,000 ศพในภารกิจที่ประเทศซีเรีย
Abdirahmaan Muhumed หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม ISIS
จากเหตุการณ์นี้ยังมีการตรวจพบวัตถุระเบิดที่บรรจุอยู่ในกระป๋อง Schweppes พร้อมกับสวิตซ์จุดชนวนระเบิดบนเครื่องบินในที่สุด สาเหตุของเครื่องบินระเบิดครั้งนี้จึงจบลงที่การก่อการร้ายของชาว ISIS ที่มีปัญหาเรื่องศาสนาและอาณาเขตแถวคาบสมุทรอยู่แล้วด้วย
อุปกรณ์และวัตถุระเบิดบรรจุกระป๋องที่พบบนเครื่อง
ภายหลังเหตุกาณ์ประธานาธิบดีสหราชอาณาจักร สั่งใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยพิเศษแก่ชาวอังกฤษกว่า 3,500 ชีวิตที่อยู่ที่สนามบินที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสั่งเลื่อนเที่ยวบินทุกเที่ยวของอังกฤษออกจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและปลอดภัยกว่านี้
ที่ประเทศรัสเซียมีการแสดงการไว้อาลัยแก่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยการวางดอกไม้และสิ่งของไว้อาลัยที่บริเวณถนนเซนต์ ปีเตอร์เบิกส์
เหตุการณ์ Metrojet Flight 9268 นี้นับเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตเยอะที่สุดของสารการบินจากรัสเซีย เยอะที่สุดบนผืนแผ่นดินอียิปต์ และเยอะที่สุดที่เกิดขึ้นจากเครื่องบินตระกูล A320 Family เลยครับ
ขอแสดงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 224 ชีวิต
โฆษณา