Blockdit Logo (Mobile)
The Columnist
•
11 ธ.ค. 2019 เวลา 04:00 • ประวัติศาสตร์
ทำไมต้องฝรั่งมังค่า? ทำไมต้องฝรั่งอั้งม้อ?
สองสามก่อนผมนั่งอยู่ในรถกับเพื่อนๆ เราคุยกันถึงสถานที่ท่องเที่ยว แล้วจู่ๆ เพื่อนก็พูดคำว่าฝรั่งมังค่าขึ้นมา ด้วยความเป็นคนขี้สงสัย ผมเลยถามขึ้นว่าทำไมต้องฝรั่งมังค่าด้วยวะ
สรุปทั้งเพื่อนและผมต่างก็ไม่มีใครรู้ จนสุดท้ายเราต้องหาข้อมูลกันยกใหญ่ จนถึงบางอ้อว่า คำว่า “ฝรั่ง” “ฝรั่งมังค่า” ฝั่งอั้งม้อ” ฝรั่งดั้งขอ” ฝรั่งตาน้ำข้าว” มันมีที่มาแบบนี้นี่เอง
รูปประกอบ: https://bit.ly/2RFE7bI
1⃣ ฝรั่งมังค่า
คำว่าฝรั่งมังค่านั้น สันนิษฐานว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “บังกล่า” ซึ่งคำว่า “บังกล่า” นี้หมายถึง “เบงกอล” หรือแคว้นใหญ่ในอินเดียตะวันออกนั่นเอง แล้วเอ๊ะ ฝรั่งไปเกี่ยวอะไรกับอินเดีย?
ย้อนกลับไปเมื่อต้นสมัยรัตนโกสินทร์ สมัยนั้นชาวอังกฤษไปยึดครองอาณานิคมและปกครองอินเดียอยู่ที่แคว้นเบงกอลครับ เราจึงเรียกคนอังกฤษที่มาจากที่นั่นว่าฝรั่งมังค่านั่นเอง แต่หลังจากนั้น ความหมายของ “ฝรั่งมังค่า” ก็ขยายกว้างขึ้นและหมายรวมถึงชาวตะวันตกจากชาติอื่นๆ ด้วย
2⃣ ฝรั่ง
ส่วนคำว่าฝรั่งนั้น มีข้อสันนิษฐานด้วยกัน 3 ข้อ
(1) ข้อสันนิษฐานแรก คือบอกว่าว่ากร่อนมาจากคำว่า “ฟรองเซ (français)” ในภาษาฝรั่งเศส ที่ใช้เรียกชื่อประเทศฝรั่งเศสครับ
.
(2) ข้อสันนิษฐานที่สอง คือบอกว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “ฟิรังกิ (firangi)” ในภาษาฮินดีที่แปลว่าคนต่างชาติ โดยใช้ในความหมายดูถูก
.
(3) ข้อสันนิษฐานสุดท้าย คือบอกว่ามาจากคำว่า “ฟารัง (farang)” หรือ “ฟารังกี (farangī)” ในภาษาเปอร์เซีย ซึ่งหมายถึง ชาวแฟรงก์หรือชาวยุโรป ที่เป็นบรรพบุรุษของชาวฝรั่งเศสในปัจจุบันนั่งเอง
1
ที่น่าสนใจคือ ในภาษาไทยมีการใช้คำว่า “ฝรั่ง” ต่อท้ายคำใดๆ เพื่อสื่อความหมายว่าของสิ่งนั้นมาจากต่างประเทศด้วย เช่น มันฝรั่ง หมากฝรั่ง ผักชีฝรั่ง
3⃣ ฝรั่งอั้งม้อ
ส่วนคำว่า “ฝรั่งอั้งม้อ” นั้น มีที่มาจากภาษาจีน โดยคำว่า “อั้งม้อ” หรือในภาษาจีนเรียกว่า 紅毛 แปลว่า “ผมหรือขนแดง” ซึ่งในมาเลเซียหรือสิงคโปร์เอง ก็มีการใช้คำนี้ในการเรียกชาวตะวันตกเช่นเดียวกัน โดยออกเสียงว่า “ang mo” มีความหมายเทียบเท่ากับคำว่า “ฝรั่ง” ในบ้านเรา
อันที่จริง ผมก็เคยได้ยินเพื่อนคนมาเลเซียเรียกชาวตะวันตกว่า ang mo men มานานแล้ว แต่ไม่ได้เอะใจสักทีว่ามันคือคำว่า “ฝรั่งอั้งม้อ” ในบ้านเรานี่เอง
1
4⃣ ฝรั่งดั้งขอ ฝรั่งตาน้ำขาว
ส่วนสองคำนี้ มีที่มาจากการเปรียบเทียบลักษณะร่างกาย เช่น เทียบจมูกว่าโค้งงอเหมือนขอ หรือสีตาเหมือนน้ำข้าว เป็นต้น ครับ
เวลารู้ที่มาที่ไปของคำที่เราเคยใช้แต่ไม่เคยสังเกตความหมาย ก็สนุกและตื่นเต้นดีเหมือนกันนะครับ คราวหน้า หากมีใครสงสัยคำเหล่านี้ ก็คงเล่าให้เขาฟังได้แล้วว่าคำนี้มีที่มาอย่างไร
รูปประกอบ: https://bit.ly/2RFE7bI
ร่วมเป็นนักเขียนกับเราได้ที่: https://www.facebook.com/THE-COLUMNIST-114090136627856/
โฆษณา