อสุรวายุภักษ์ แปลว่า อสูรผู้มีลมเป็นอาหาร

หัวเรือ มีร่างกายเป็นนก มีหัวหรือหน้าเป็นยักษ์ ลงรักปิดทองประดับกระจก

เรืออสุรวายุภักษ์ใช้ฝีพาย 40 คน

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดจากเครื่องบินที่ถล่มกรุงเทพฯ สร้างความเสียหายกับเรือครุฑเหินเห็จ ดังนั้น พ.ศ. 2508 กองทัพเรือและกรมศิลปากรจึงร่วมกันบูรณะ โดยใช้หัวเรือเดิมมาประกอบ

ครุฑเป็นศัตรูกับนาค เนื่องมาจากมารดาของทั้งสองฝ่ายไม่ถูกกัน

ครุฑมักปรากฏในท่าที่ฉวยจับนาคไว้ ไทยเราเรียกว่า “ครุฑยุดนาค”

โขนเรือกระบี่ปราบเมืองมาร เป็นรูปหนุมาน ทหารเอกของพระราม

หนุมานเป็นผู้นำกองทัพวานร ต่อสู้กับกองทัพของทศกัณฐ์ เจ้ากรุงลงกา

เรือกระบี่ปราบเมืองมาร สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 1

เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ มีโขนเรือเป็นรูปหัวของหงส์ ลำตัวเรือทอดยาวคือส่วนตัวหงส์

จำหลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจก

ได้รับรางวัลยกย่องให้เป็นเรือมรดกโลก จากองค์กร World Ship Trust เมื่อ พ.ศ. 2535

เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3

หัวเรือพระที่นั่งจำหลักรูปพระวิษณุประทับยืนบนครุฑ บ่งบอกอิทธิพลของศาสนาฮินดูจากอินเดียที่มีต่อศิลปะไทย

เรือนารายณ์ทรงสุบรรณสร้างน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 9 เนื่องในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เมื่อพ.ศ. 2539

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช มาจากคำภาษาสันสกฤตแปลว่า อนันตะ ราชาแห่งนาคหรืองูทั้งหลาย

อนันตะอาศัยอยู่ลึกลงไปกว่าโลกบาดาลทั้ง 7 ชั้น และแบกโลกทั้งหมดไว้บนเศียร คราใดที่อนันตะหาว โลกก็สั่นไหว

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำแรกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่เริ่มใช้ในกระบวนพยุหยาตราชลมารคในสมัยรัชกาลที่ 4

เรือพระที่นั่งอนันตนาคราชลำปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 6

หัวเรือจำหลักรูปพญานาคเจ็ดเศียร ลงรักปิดทองประดับกระจก ท้องเรือภายในทาสีแดง ภายนอกทาสีเขียว