13 ธ.ค. 2019 เวลา 03:16
วงจรชีวิตของมนุษย์นั้น ก็ไม่ต่างจากวงจรธุรกิจเท่าไหร่นัก
เพราะสรรพสิ่งล้วน"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
อยู่ที่ว่าเราจะสามารถรักษาให้สรรพสิ่งนั้น เมื่อ"เกิดขึ้น"เราจะใช้วิธีทางใดให้มันคง"ตั้งอยู่"ได้นานขนาดไหน ก่อนที่มันจะ"ดับไป" เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพของเราให้อายุยืนยาวนานจนกว่าจะลาลับไป
Kodak หรือชื่อเต็มว่า Eastman Kodak เป็นธุรกิจตัวอย่างหนึ่งที่น่าศึกษาถึงวงจรชีวิตของธุรกิจ ที่หนีไม่พ้นสัจธรรมที่ว่า"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
Eastman Kodak ก่อตั้งขึ้นโดย George Eastman ตั้งแต่ปี ค.ศ.1889 และมาประกาศล้มละลายเมื่อปี ค.ศ.2012
Kodak เคยเป็นผู้ผลิตฟิล์มถ่ายภาพที่มียอดขายอันดับหนึ่งมาตลอดคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยในปี ค.ศ. 1976 มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 90% ของตลาดสหรัฐอเมริกา
ทั้งยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ เป็นผู้พัฒนากล้องดิจิทัลรายแรกของโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 แต่บริษัทกลับไม่กระตือรือร้นที่จะออกผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัล
เพราะเกรงว่าจะไปแย่งส่วนแบ่งตลาดฟิล์มถ่ายรูปของตนเอง ส่งผลให้บริษัทมียอดขายตกต่ำลงในช่วงปลายทศวรรษ 1990
เนื่องจากความต้องการใช้ฟิล์มถ่ายภาพลดลงอย่างรวดเร็ว และความล่าช้าในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่
หายนะของ Kodak อาจไม่ได้เป็นเพราะก้าวไม่ทันเทคโนโลยี แต่เกิดจากคำว่า “Kodak Moment” ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรมาตลอด คำว่า"สิ่งที่ควรค่าเพราะแก่การรักษาและดื่มด่ำ" ได้สร้างชื่อเสียงให้องค์กรมาอย่างยาวนาน
เนื่องจากคำดังกล่าวเป็นคำที่คอยหลอกหลอนองค์กร จนไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่กล้าขยับ และมัวแต่หลงอยู่กับความสำเร็จของตัวเองโดยลืมนึกถึงการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีการพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
อีกสาเหตุหนึ่งที่มีการกล่าวกันถึงก็คือ แม้น Kodak จะได้เป็นผู้ที่คิดค้นเทคโนโลยีกล้องดิจิทัลดังกล่าวได้เป็นรายแรกตั้งแต่ปี ค.ศ.1975 และใช้เงินลงทุนไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ลงทุนกับมันอย่างจริงจัง
อีกสาเหตุที่มีการพูดถึง ก็คือ Kodak บริหารการลงทุนในกล้องดิจิทัลผิดพลาด โดยเป็นการพยายามปรับให้กล้องดิจิทัลมีศักยภาพตรงกับกล้องฟิล์มที่มีอยู่เดิมมากกว่าที่จะใส่ใจกับความเป็นกล้องดิจิทัลสมบูรณ์แบบจริงๆ
สุดท้ายแล้วที่พอเป็นบทสรุปของ Kodak ที่ถือเป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ขององค์กรที่มีศักยภาพ มีเงินทุน
และแม้กระทั่งมีความสามารถในการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงความเปลี่ยนแปลง แต่กลับต้องลงเอยด้วยการเป็นเหยื่อจากผลพวงของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่
เพราะยึดอยู่กับ“Kodak Moment” "สิ่งที่ควรค่าแก่การรักษาและดื่มด่ำ" อีกทั้งยังหลงอยู่กับยอดขายที่เป็นอันดับหนึ่งมาตลอด จนไม่กล้าขยับเพื่อการเปลี่ยนแปลง
หาก George Eastman มีอายุยืนถึงปี ค.ศ.2000 Eastman Kodak อาจไม่ต้องตกอยู่ในสภาพล้มละลายเช่นนี้
แต่อย่างว่า สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นนั้นเอง
"เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป"
#ธรรมะสะกิดใจ
โฆษณา