Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Sarun's School
•
ติดตาม
14 ธ.ค. 2019 เวลา 02:29 • การศึกษา
สวัสดีตอนเช้าครับทุกคน 🙏😊
อากาศค่อนข้างเย็น อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
.
ใครเคยเป็นเหมือนกันกับผมบ้าง ?
เวลาเจอหนังสือใหม่ ๆ มักจะอยากได้มาเพิ่ม ทั้ง ๆ ที่หนังสือที่มีก็ยังอ่านไม่หมด 😅
.
วันนี้ผมมี ไอเดีย ในการจัดการหนังสือที่ยังไม่อ่านมาฝากครับ จาก ศ.ดร.นพดล และเป็นเจ้าของ พอตแคตส์ Nopadolstory
.
ท่านได้ให้เทคนิค ในการจัดการหนังสือที่ดองไว้ ได้น่าสนใจมาก ๆ 😊
.
เราเข้าไปอ่านบทความด้านล่างพร้อมกันเลยดีกว่าครับ 😄
1. รวบรวมหนังสือที่ดองไว้ทั้งหมดในที่เดียวกัน
ทำไมต้องรวบรวม แนวคิดนี้ คล้าย ๆ กับแนวคิดในการจัดการหนี้สินครับ ก่อนเราจะจัดการอะไร เราต้องทราบก่อนว่าปัญหาที่เราเจอมันใหญ่แค่ไหน
หนังสือก็เช่นกันครับ อย่างแรกต้องทราบก่อนว่า เรามีหนังสือทั้งหมดกี่เล่มที่เราดองไว้ อย่างที่ผมทำ (ดูตามรูป) ผมมีหนังสือร้อยกว่าเล่มที่ซื้อมาแล้วยังไม่มีเวลาได้อ่าน ขนาดที่ผมคิดว่าผมเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปแล้ว (อ่านเกือบ 200 เล่มต่อปี) แต่ก็ยังมีหนังสือกองไว้ขนาดมหึมาทีเดียว เรียกว่ากองนี้ น่าจะใช้เวลาเป็นปีในการอ่านจบทุกเล่ม
การที่เรารวบรวมไว้ที่เดียวกันอย่างนี้ มีข้อดี 2 ประการคือ 1) มันเป็นการทำให้เราตระหนักรู้ว่า ตอนนี้หนังสือเรามีเยอะแยะเลยนะ ถ้าเราไปร้านหนังสือ ภาพนี้มันจะปรากฏชัด (ผมใช้แล้วได้ผล) ทำให้เราต้องคิดเยอะหน่อยก่อนที่จะซื้อเล่มใหม่มา และ 2) เวลาเห็นหนังสือชัด ๆ แบบนี้ มันมีโอกาสทำให้เราหยิบมาอ่านได้มากขึ้น
2. คิดดี ๆ ก่อนซื้อหนังสือใหม่
ตามหลักการถ้าเราอยากจะ Clear กองหนังสือที่ดองไว้ Input มันต้องน้อยกว่า Output คราวนี้ลองใช้อัตราการอ่านของแต่ละท่านดูครับ อย่างผม ผมอ่านได้สัปดาห์ละ 3-4 เล่ม ดังนั้นกฏของผมคือ ผมจะพยายามไม่ซื้อหนังสือใหม่เข้ามาเกินสัปดาห์ละ 3-4 เล่ม เพราะถ้าเกินกว่านั้น เราไม่มีทางอ่านทันแน่นอนครับ เพราะการซื้อหนังสือมันใช้เวลาน้อยกว่าการอ่านหนังสือมาก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าห้ามซื้อหนังสือใหม่เลยนะครับ ถ้ามีเล่มที่ชอบจริง ๆ ก็ซื้อได้ แต่ก่อนซื้อถามตัวเองให้ดีก่อนละกันครับว่า หนังสือเล่มนั้นมันน่าสนใจกว่าหนังสือเล่มที่วางอยู่ในกองที่บ้านหรือเปล่า เพราะที่กองอยู่ยังไม่ได้อ่านเลย จินตนาการเลยว่า ถ้าซื้อมาก็คงวางในกองหนังสือนั้นให้มันสูงขึ้นเท่านั้นเอง
3. จัดการหนังสือที่คิดว่าคงไม่อ่านแน่ ๆ แล้ว
เอาล่ะครับ คราวนี้กลับมาที่กองหนังสือที่เราอยากจะ Clear หยิบไล่ทีละเล่มเลยครับว่า หนังสือเล่มนั้น ๆ เรายังอยากที่จะอ่านอยู่หรือเปล่า
ใช่ครับ คือถ้าเราไม่อยากอ่านเลย เราคงไม่ซื้อหนังสือเล่มนั้นมาหรอกใช่ไหมครับ แต่อย่าลืมว่านั่นมันอาจจะนานมาแล้ว สถานการณ์เปลี่ยนไป ความสนใจเราก็อาจจะเปลี่ยนไป เวลาผมทำหนังสือชุดแรกที่ผมจะจัดการให้ออกไปจากกองนี้คือ หนังสือที่ซื้อมาซ้ำ (เชื่อไหมครับว่ามีหลายเล่มด้วย) หรือ หนังสือที่ตอนนี้เราไม่สนใจเท่าเดิมแล้ว เช่นแต่ก่อนท่านอาจจะสนใจเรื่องหุ้นมาก ซื้อมาเยอะแยะ แต่ตอนนี้ท่านเลิกสนใจแล้ว อย่างนี้เป็นต้น
คราวนี้จะจัดการอย่างไร…
อันนี้ทำได้ตามสะดวกเลยครับ จะนำหนังสือไปบริจาค จะนำไปขาย จะนำไปให้คนที่รัก ยิ่งช่วงเทศกาลปีใหม่อะไรแบบนี้ การให้หนังสือ (ที่ส่วนใหญ่ใหม่เอี่ยม เพราะยังไม่ได้อ่านเลย) อาจจะเป็นหนึ่งในทางเลือกของของขวัญที่น่าสนใจนะครับ และหนังสือที่เราไม่ได้อ่านอยู่แล้ว ก็อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนรับหนังสือนั้น ๆ ด้วยครับ
สำหรับผม ผมมักจะเอาหนังสือไปทำโครงการหนังสือเพื่อการทำบุญ คือไปเปิดประมูล แล้วนำเงินที่ได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายไปบริจาคให้ผู้ป่วยยากไร้น่ะครับ
4. ตั้งเป้าหมายในการอ่านหนังสือที่เหลือ
เอาล่ะครับ ถ้าเราทำทั้ง 3 ขั้นตอนแรกแล้ว ผม Assume ว่าตอนนี้เราคงมีแต่หนังสือที่เรา “อยาก” อ่านจริง ๆ แล้วนะครับ ให้เริ่มต้นทำแบบนี้ครับ คือ สมมุติว่าเรามีหนังสือเหลืออยู่สัก 100 เล่ม (เอาตัวอย่างส่วนตัวของผมเลย) ผมเป็นคนอ่านหนังสือได้เฉลี่ยสัก 3-4 เล่มต่อสัปดาห์ แปลว่า ถ้าผมจะ Clear กองหนังสือเล่มนี้ อาจจะใช้เวลาสัก 25-30 สัปดาห์ หรือคร่าว ๆ ก็คงสักครึ่งปีได้ อันนี้คือเป้าหมายระยะยาว
จากระยะยาวมาเป็นระยะสั้นลง ผมจะเลือกหยิบหนังสือที่ผมอยากจะอ่านในเดือนนี้แยกออกมาเลยครับ เช่น เดือนนี้ขอสัก 10 เล่มนี้ อะไรอย่างนี้เป็นต้น จริง ๆ ผมได้ทำโครงการ Book Reading Challenge ประจำทุกเดือนไว้ ในกลุ่มที่ผมเรียกว่า Bookoins ลองกดเข้าไป Join และร่วมโครงการกันได้ครับ โครงการนี้ก็คือการตั้งเป้าว่าเดือนนี้จะอ่านเล่มไหนให้จบนี่แหละครับ
จะให้ดีคอย Track ความก้าวหน้าในการอ่านด้วยก็ได้นะครับ อย่างใน Book Reading Challenge ที่เล่าให้ฟัง ผมแนะนำให้ตั้งเป้าหมายเลย แล้ว update ให้บ่อยที่สุด เช่น อยากอ่านเล่มนี้ หนา 300 หน้า ในเดือนนี้ ก็ตกวันละ 10 หน้า แล้วเขียน update ว่าตอนนี้อ่านถึงหน้าไหนแล้ว ทำแบบนี้ เราจะไม่หลุดครับ
5. เลือกอ่านหนังสือที่ชอบที่สุดหรือที่บางที่สุดก่อน
อันนี้เป็นหลักจิตวิทยาครับ สิ่งที่เราต้องการตอนนี้คือ Momentum ในการอ่าน คือถ้าเราเริ่มอ่านจบติด ๆ กันหลาย ๆ เล่ม มันจะเหมือนเครื่อง Start ติดครับ หลังจากนั้นมันจะไปได้เอง
เพราะฉะนั้นผมจึงแนะนำให้เลือกเล่มที่อยากอ่านมากที่สุดก่อน หรือถ้าไม่มี ก็เลือกเล่มที่บางที่สุด ที่อ่านจบง่าย ๆ ก่อน เพราะถ้าขืนไปเลือกหนังสือแบบ Principles หรือ Sapiens แบบนี้ เราจะท้อก่อน เพราะอ่านเท่าไรมันก็ไม่จบซะที
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถช่วยท่าน Clear กองหนังสือที่ดองไว้ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ขอขอบคุณ
www.nopadolstory.com
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย