Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเรื่องเล็ก
•
ติดตาม
14 ธ.ค. 2019 เวลา 06:06 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
“You either die a hero, or live long enough to see yourself become the villain.
คุณจะตายอย่างฮีโร่ หรือมีชีวิตอยู่ต่อไปจนเห็นตัวเองเป็นวายร้าย”
คำพูดของ Harvey Dent จากไตรภาค Batman ซึ่งหากมองผ่าน ๆ ก็เป็นเพียงบทภาพยนตร์คม ๆ คำหนึ่งที่จับใจผู้ชมได้ไม่น้อย แต่ใครจะรู้ว่าคำคมคำนี้กลับสะท้อนเรื่องราวบนโลกแห่งความเป็นจริงของถุงพลาสติกได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะย้อนกลับไปก่อนปี 1959 ถุงกระดาษเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นห้างร้านหรือว่าตลาดสดก็ล้วนใช้ถุงกระดาษในการห่อของให้ลูกค้ากลับบ้านกันทั้งสิ้น
ซึ่งแม้ถุงกระดาษจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่ในภาพลักษณ์ที่ดูเป็นมิตรนั้นกลับต้องแลกมาด้วยการตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมาก การใช้ทรัพยากรในการผลิต รวมไปถึงพลังงานในการขนส่งอย่างมหาศาล ซ้ำร้ายที่สุดมันสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้เพียงไม่กี่ครั้งก่อนขาดหรือเปื่อยยุ่ยกลายเป็นซากอยู่ในกองขยะ
นั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจให้สเตียน กุสตาฟ ทูลิน ( Sten Gustaf Thulin) วิศกรชาวสวีเดนคิดค้นบางสิ่งขึ้นมาแทนที่ถุงกระดาษ บางสิ่งที่ต้องทนทานกว่า เหนียวกว่า ใช้ซ้ำได้หลาย ๆ ครั้ง บางสิ่งที่ใช้ทรัพยากรและพลังงานในการผลิตน้อยกว่า เบา พกพาง่าย บางสิ่งที่คนในปัจจุบันรู้จักในชื่อ ถุงพลาสติก
สเตียน กุสตาฟ ทูลิน ( Sten Gustaf Thulin) วิศกรชาวสวีเดนผู้คิดค้นถุงพลาสติก
ด้วยความเบาบางและราคาที่ถูกกว่าทำให้ถุงพลาสติกได้รับความนิยมอย่างไม่ยากเย็น พวกมันเริ่มแพร่ไปทั่วยุโรปตั้งแต่ช่วงกลางยุค 60 จนกระทั่งปี 1979 ร้านค้าในยุโรปกว่า 80% ก็หันมาใช้ถุงพลาสติกกันเกือบหมด ก่อนที่จะเข้ามาแทนที่ถุงกระดาษอย่างสมบูรณ์ในปลายยุค 80
เรียกว่าถุงพลาสติกถือกำเนิดจากอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่และกลายเป็นขวัญใจมหาชนอย่างรวดเร็ว แต่น่าเศร้าที่พวกมันมีชีวิตยืนยาวเกินไป
ปัจจุบันถุงพลาสติกกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกที่ยากจะแก้ไข พวกมันแพร่จากสังคมมนุษย์เข้าสู่ธรรมชาติ คร่าชีวิตสัตว์จำนวนมากที่คิดว่าถุงพลาสติกเป็นอาหารแล้วกินพวกมันเข้าไป แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือพวกมันกำลังกลายเป็นไมโครพลาสติกและปนเปื้อนลงในสิ่งแวดล้อม แทรกซึมลงในน้ำ ในดิน ก่อนจะเข้าไปในตัวสัตว์ที่เป็นอาหารของมนุษย์แล้วกลับมาปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายของเราอีกครั้งผ่านการกินอาหารเหล่านั้น
จากฮีโร่เริ่มเปลี่ยนไปกลายเป็นตัวร้ายด้วยสาเหตุหลักมาจากความมักง่ายของมนุษย์ที่ใช้ถุงพลาสติกเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง และการไม่คัดแยกขยะก่อนทิ้ง ทำให้ถุงพลาสติกปนเปื้อนลงสู่ธรรมชาติแทนที่จะเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลอย่างที่มันควรจะเป็น ซึ่งในปัจจุบันเราใช้ถุงพลาสติกกันถึงปีละประมาณ 1 ล้านล้านใบทั่วโลกต่อปี โดยมีถุงพลาสติกประมาณครึ่งหนึ่ง หรือ 5แสนล้านใบที่ถูกใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง
“สำหรับพ่อผมแล้ว การที่คนทิ้งถุงพลาสติกกันง่าย ๆ แบบนี้เป็นความคิดที่ประหลาดมาก
ท่านมักจะพกถุงพลาสติกติดกระเป๋าไว้เสมอ นี่คุณรู้ไหมเรื่องที่พวกเรารณรงค์กันทุกวันนี้ให้พกถุงพลาสติกไปซื้อของตามร้านค้าเองน่ะ คุณพ่อท่านทำมาตั้งแต่ยุค 70s – 80s จนติดเป็นนิสัยแล้ว
แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่ทำล่ะ?”
คำสัมภาษณ์ของ ราอูล ทูลิน (Raoul Thulin) ลูกชายของ สเตียน กุสตาฟ ทูลิน ผู้คิดค้นถุงพลาสติก ที่ให้ไว้กับ BBC
ราอูล ทูลิน (Raoul Thulin) ให้สัมภาษณ์กับ BBC
ราวกับตลกร้าย ทุกวันนี้องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกเริ่มการรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกด้วยการให้ผู้คนหันมาใช้ถุงผ้าและถุงกระดาษซึ่งเคยเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและเป็นสาเหตุให้เกิดการคิดค้นถุงพลาสติกขึ้นมา แต่นั่นจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน หรือเพียงแค่แก้ปมเงื่อนหนึ่งแล้วไปผูกปมใหม่กันแน่
เพราะหากเปรียบเทียบกับถุงพลาสติก 1 ใบที่ใช้แล้วนำเข้ากระบวนการรีไซเคิลทันที เราจะต้องใช้ถุงกระดาษซ้ำอย่างน้อย 3 ครั้งจึงจะคุ้มค่ากับทรัพยากรที่เสียไปในการผลิตและพลังงานที่ใช้ในการขนส่ง ส่วนถุงผ้านั้นเราจะต้องใช้ซ้ำถึง 131 ครั้งจึงจะคุ้มค่าเมื่อเทียบกับถุงพลาสติก
นั่นหมายความว่าในความจริงแล้วปัญหาที่แท้จริงไม่ได้เกิดขึ้นจากถุงพลาสติก หรือผลิตภัณฑ์ใดใดแต่เกิดจากวินัยและความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมที่ไม่เพียงพอของเราทุกคน เพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ไปมากขนาดไหนแต่หากเรายังไม่มีวินัยในการพกออกมาใช้ซ้ำ คัดแยกเมื่อต้องทิ้งเป็นขยะ สุดท้ายแล้วปัญหาสิ่งแวดล้อมก็จะไม่มีวันหมดลง
สุดท้ายเรื่องราวของถุงพลาสติกอาจจะกำลังบอกเราว่า ในความเป็นจริงคงไม่มีใครเกิดมาเพื่อเป็นวายร้ายตั้งแต่แรกเริ่ม แต่เพราะสภาพสังคมที่เป็นอยู่ได้ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงจิตใจของฮีโร่ไปทีละน้อยจนในที่สุดผลของการเลี้ยงดูนั้นก็กลับมาทำลายผู้ที่ฟูมฟักมันเสียเอง
บางทีถ้าถุงพลาสติกสามารถพูดกับเราได้มันจะอยากบอกเราว่า
“Why should I apologize for the monster I've become?
No one ever apologized for making me this way. “
อ้างอิง
https://wedocs.unep.org/bitstream/handle/20.500.11822/25496/singleUsePlastic_sustainability.pdf?isAllowed=y&sequence=1
https://www.bbc.com/news/av/science-environment-50043369/plastic-pollution-how-plastic-bags-could-help-save-the-planet
1 บันทึก
5
2
2
1
5
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย