16 ธ.ค. 2019 เวลา 00:28 • ท่องเที่ยว
จดหมายรักจากเมืองมัณฑ์ [1]
เมืองมัณฑะเลย์ :
ราชธานีแห่งลุ่มน้ำอิรวดีอันงามตา
22 พฤศจิกายน
ลูกรัก
เช้านี้ที่เมืองมัณฑ์อากาศเย็นสบาย ใกล้เคียงกับบ้านเราในช่วงต้นหนาวที่อากาศจะดีเอามากๆ พ่อจาริกมายังดินแดนทางประวัติศาสตร์นี้เป็นรอบที่ 3 แล้ว แต่พ่อก็ยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจราวกับว่าได้มาเยือนเป็นครั้งแรกอยู่ดี นี่คือข้อดีของพ่อ ที่จะรู้สึกว่าชีวิตนี้มันสดใหม่เสมอเมื่อได้ก้าวเท้าออกเดินทาง
พ่อมาถึงเมืองมัณฑ์ตั้งแต่ช่วงเย็น [17.10 น.] ของวันที่ 20 ใช้เวลาเดินทาง ราว 1 ชั่วโมง 10 นาที [เวลาที่พม่าช้ากว่าบ้านเรา 30 นาที] ที่สนามบินนานาชาติมัณฑะเลย์ "พงพงมิ่งหล้า" และท่านอาจารย์ อุมาเกงต๊ะ สยาดอว์ หรือพงจีแห่งวัดข่าต่อหมี่จอง แห่งเมืองมัณฑ์ และโกยิ่นมนตรี หรือ "ปัญญาสิริสามเณร" หรือออกเสียงแบบเมียนมาร์ว่า "ปิญาติริ" ซึ่งเป็นเด็กไตวัย 19 ที่มาบวชเรียนอยู่ที่นี่มารอรับเราอยู่ เรานั่งรถราว 1 ชม. ก็มาถึงวัด ซึ่งอยู่ในตัวเมืองมัณฑะเลย์ วัดห่างจากพระราชวังมัณฑะเลย์ไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อย บนถนนสาย 62 นี้เป็นโซนนิ่งของวัดต่างๆ
ก่อนจะถึงวัดเราแวะเปลี่ยนซิมในย่านการค้า ซึ่งดูคึกคักมากๆ คล้ายๆ กับถนนคนเดินในบ้านเรา พ่อรู้สึกตื่นตาตื่นใจเหลือประดาอยากดูว่าคนพม่าเขากินเขาขายอะไรในเวลานี้ เลยขอลงไปเก็บภาพบรรยากาศและสีสันยามราตรีของชาวเมืองมัณฑ์เอามาฝากลูกด้วย
ลูกรัก... การต้อนรับปฏิสันถารนั้นสำคัญมากๆ มันทำให้มนุษย์เรานั้นรู้สึกเป็นมิตรที่ดีต่อกันและรู้สึกดีๆ ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ เหมือนที่พ่อรู้สึกดีกับชาวพม่าในการมาเยือนครานี้นั่นเอง เย็นที่เรามาถึงนั้นหลวงพ่ออุมาเกงต๊ะ สยาดอว์ หรือพงจีให้ "พระน้อยบะลิ๊กปิ๊กป๊อก" หรือลูกพระลูกเณรในวัดมายืนแถวคอยต้อนรับ แล้วนำเราเข้าสู่ที่พัก แม้พูดคุยกันไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่... แค่รอยยิ้ม สีหน้า และแววตา เราก็รับรู้ได้ว่านี่คือการ "ยินดีต้อนรับ" ที่แสนจะอบอุ่นใจยิ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อออกออกไปเดินชมเมืองมัณฑ์ยามเช้าๆ ใกล้ๆ กับที่เราพัก
แถวนี้เป็นโซนวัด หรือเขตสังฆาวาส หรืออาจจะเรียกว่าหมู่บ้านพระ Monkvillage ยังไงยังงั้น วัดในเมืองมัณฑ์นี้จัดไว้เป็นโซนนิ่ง กำแพงวัดอยู่ติดๆๆๆ กัน วัดหนึ่งๆ อยู่กันตั้งแต่ 10 รูปไปถึงเป็นร้อยเป็นพันรูป ตามแต่บุญญาบารมีของสยาดอร์ หรือท่านเจ้าอาวาส ที่เน้นการจัดการศึกษาภายในวัดเป็นหลัก ซึ่งรวมอยู่ในบริเวณเดียวกันเป็นร้อยๆ วัด
"พงพงมิ่งหล้า" บอกเราว่าที่นี่ใช้โบสถ์ร่วมกัน ทำสังฆกรรมร่วมกัน เฉพาะโซนหน้าพระราชวังมัณฑะเลย์ทิศตะวันออก หรือบนถนน 62 นี้ มีทั้งหมด 8 คณะ คณะหนึ่งๆ มี 10 กว่าวัด วัดหนึ่งๆ มีพระเณร 10 รูปขึ้นไป บางวัดอยู่กันเป็นพันรูป ที่เมืองมัณฑ์นี้เน้นการจัดการศึกษาให้พระเณรอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ไม่เน้นการจัดงานวัดหรือการก่อสร้างแบบวัดไทยบ้านเรา ปีก่อนพ่อไปชมเมืองโบราณในย่านเมืองเก่ากำแพงเพชร เห็นโซนนิ่งวัดในเมืองเก่า ที่ทุกวัดจะต้องมาทำสังฆกรรมร่วมกันนึกภาพไม่ออก พอมาเห็นที่เมืองมัณฑ์นี้พ่อเลยหายสงสัยแล้วว่าเขาอยู่กันอย่างไร
ลูกรัก... เช้าแรกของเมืองมัณฑ์ พงจีและพงพงพาเราออกไปฉันนอกวัด เมืองมัณฑ์ยามเช้าพลุกพล่านพอควร ดูมีชีวิตชีวา เราใช้เวลาราว 10 นาทีเดินมาถึงที่ร้าน พ่อสั่ง "ม่งตี่" ซึ่งคล้ายๆ มักกะโรนีของบ้านเรา และ "ทัดตะหย่า" โรตีจิ้มนมข้นหวาน และน้ำชาร้อนๆ อร่อยมากลูก
ลูกรัก... ก่อนเดินทางมาครานี้พ่อออกจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เพราะสองครั้งที่มานั้นพ่อมากับทัวร์เลยไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรมากมายนัก และมันก็นานมาแล้ว แต่มาครั้งนี้เรามากันแบบแบ็กแพ็คเกอร์ พ่อเลยต้องกลับไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับพม่าและเมืองมัณฑ์หลายๆ เล่ม รวมทั้งกลับไปดูซีรี่ส์ "รากนครา" และ "เพลิงพระนาง" เรื่องราวของเมืองมัณฑ์ก่อนจะเสียเมืองให้กับอังกฤษอีกรอบ เพื่อเรียกน้ำย่อยทางประวัติศาสตร์ จึงรู้สึกอินมากๆ เมื่อได้มาดุ่มเดินอยู่ในเมืองมัณฑ์ขณะนี้
ลูกรัก... พ่อรู้สึกทึ่งมากที่คนพม่าจัดระบบชลประทานในเมืองมัณฑ์ได้ดีมากๆ นับร้อยปีมาแล้ว พระราชวังมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของแม่น้ำอิรวดี มีคูเมืองล้อมรอบ ด้านละ 2 กม. มีน้ำใสสะอาดตลอดปี "พงพง" บอกว่าทั้งปีทั้งชาติน้ำในคูเมืองนี้ไม่เคยเหือดแห้งเลย น้ำถูกผันมาให้ชาวเมืองนี้ใช้ โดยขุดเป็นบ่อรอบๆ เมืองให้ประชาชนชาวเมืองมัณฑ์มาตักไปบริโภคใช้สอยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน บางบ้านต่อปั๊มไปที่บ้าน บางคนมาตักไปใช้ฟรี
ลูกครับ... วันที่เรามาเยือนนี้ พ่อเห็นคุณป้าชาวเมืองมัณฑ์ผอมกะหร่องมาสาวน้ำในบ่อตักใส่ถัง 200 ลิตร ใส่ล้อเข็นตุ๊ปั๊ดตุ๊เป๋ไปขายให้กับร้านค้าที่อยู่แถวๆ นั้น กว่าจะได้ 1,000 จ๊าด หรือราว 20 บาทก็ทำเอาขาลากเลยทีเดียวนะลูก พ่อหันไปเห็นเด็กน้อยเมียนมาร์วัยน่ารักน่าชังคนหนึ่งนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์กับพ่อเลยยกโทรศัพท์ขอเก็บภาพไว้ คุณพ่อชาวเมืองมัณฑ์ สอนหนูน้อยให้ทักทายเราเป็นภาษาไทย "สวัสดีค้าบๆๆ" แม่หนูเขินอาย น่ารักน่าชัง เห็นแล้วรู้สึกดีจังลูก 🥰
เดินมาอีกนิดก็จะผ่านหน้าวัดฮินดู บริเวณหน้าวัดเขามีกล้วยวางขายอยู่เต็มข้างถนน พงจีบอกพ่อว่าที่เมียนมาร์นี้เขาชอบเอากล้วยกับมะพร้าวเป็นเครื่องบูชาเซ่นสรวง กล้วยที่เราเห็นนี้ส่วนใหญ่เป็นกล้วยที่ปลูกในเมืองยะไข่ ซึ่งเป็นแหล่งที่ปลูกกล้วยที่ขึ้นชื่อของเมียนมาร์ พ่อลองสำรวจราคาดูก็พอๆ กับบ้านเรา กล้วยส้มสนนราคา หวีละ 1,000 จ๊าด หรือ 20 บาท ถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าก็หวีละ 500 จ๊าด หรือ 10 บาท พงพงซื้อให้โกยิ่นถือติดมือมาที่วัดราว 3-4 หวี
ลูกรัก... เช้าวันแรกนี้เรามีโปรแกรมที่จะไปชมเมืองอังวะ หรือเมืองรัตนปุระ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของพม่าถึง 5 ครั้งด้วยกันในช่วง 360 ปีระหว่าง พ.ศ.1908 - 2385 [ค.ศ. 1365 –1842] ทั้งในสมัยราชวงศ์อังวะ ราชวงศ์ตองอู และราชวงศ์คองบอง
แต่... ไปยังไม่ถึงไหนเรื่องเล่าของพ่อก็ยาวเหยียดเสียแล้ว พ่อคงต้องจบจดหมายฉบับแรกเอาไว้แค่นี้ก่อน ว่างๆ พ่อจะมาเล่าต่อว่า ณ กรุงรัตนอังวะ อดีตราชธานีอันเกรียงไกรนั้นมีอะไรที่น่าสนใจบ้างในสายตาของพ่อ พ่อจะค่อยๆ เล่าไปทีละนิดๆ เพราะเรื่องเล่าของพ่อนั้นมันยาวพอๆ กับรูปถ่ายตามริมทางที่พ่ออยากให้ลูกรักของพ่อได้เห็นทุกๆ รูปเฉกเช่นกัน รอฟังตอนต่อไปนะครับลูก
รักลูกเสมอ
จากพ่อ
#ทำมะจาริก #หัวใจออกเดิน #จาริกสู่อตีตา #จดหมายรัก #บันทึกการเดินทาง #จดหมายรักจากเมืองมัณฑ์ #มัณฑะเลย์
โฆษณา