ไฟหน้าร้านดับลงแต่ไฟในร้านนั่นเปิดอยู่ ผมเริ่มด้วยคำถามที่ว่า เราชอบทาน ขนมอะไร ???พร้อมกับเค้กส้มคนละชิ้นเพื่อเริ่มการสนทนา
แล้วคำตอบก็เรื่อยเปื่อยตามสไตล์มีทั้งบัวลอย ฝอยทอง และอื่นๆที่พาออกทะเลทั้งนั้นมียันวุ้นกระทิ โอ้วแม่เจ้า!!!! . แล้วเมื่อทุกคนผ่อนคลายผมก็เริ่มเล่า
ฟาง นุช ฟังดีๆนะ วันนี่นายต้นเจ้าของร้านเบเกอรี่ที่หันหลังชนกันกับผนังด้านโต๊ะหมายเลข7เขาบอกว่าเขาอยากจะพังกำแพงด้านนั้นแล้วใส่ประตู โดยให้เหตุผลว่าร้านเขาไม่มีที่นั่งเลยอยากจะให้ลูกค้าเขาได้มานั่งในร้านเราแทน.....ซึ่งผมตอบตกลง
ฟาง==พี่แทนต้องบ้าไปแล้ววเราไม่เห็นจะได้อะไรเลยแถมเราต้องแบงที่นั่งลูกค้าเราที่บางวันก็เกิดเหตุการเก้าอี้ร้อนยังกะเล่นเก้าอี้ดนตรี
นุช===แล้วมันจะทันปีใหมหรอ....อย่าลืมนะนายแทน ปีใหม่นะมี มิทไนท์คาเฟ่นะ....แล้วนายบอกเองว่าจะจัด2วันคือ คืนวันที่25และคืนวันที่31....
แทน.==เรื่องมิทไนท์คาเฟ ทันอยู่เเล้วเพราะแค่กำแพงยาว7เมตรกับประตูบานเดียว3-4วันก็เสร็จแล้ว...
ส่วนสิ่งที่เราได้คือ ส่วนลด10%สำหรับลูกค้าที่ซื้อกาแฟร้านเราเอาไปซื้อขนมร้านมิสเตอร์วนิลา
อีกอย่างที่เราได้คือ ลูกค้าที่นั่งรอเบเกอรี่จะต้องเดินมาซื้อกาแฟร้านเราแน่นอน...
และที่สำคัญน้ำผลไม้ของฟางจะขายดีแน่นอนเพราะทางโน้นมีแต่ขนม เครื่อง
ดื่มและไอติมอยู่ทางเราหมดเลย ....
นุช===แต่เราต้องปิดร้าน4วันเลยนะ
แทน==ดีแล้วนิจะได้ไปเที่ยวทะเลกัน..
ฟาง==ทะเลหรอ?ไปๆๆๆ...
แทน...มาหาตังเที่ยวกัน เริ่มด้วยแจกคูปองส่วนลดกันก่อนเลย....
นุช==คูปองอะไรของแก
แทน==นี่ไงนายต้นให้มาแล้ว2,000ใบ...ส่วนลด10%สำหรับขนมที่ขึ้นตู้ขายตั้งแต่ 10.00น-17.00น.โดยจะให้1ใบ/กาแฟ1แก้วและ1ใบสำหรับน้ำหวานและไอติม
ฟาง===แล้วจะเอาคูปองไปใช้ยังไงอะพี่แทน
แทน===คือร้านเขานี่จะมีตารางขนมว่าอะไรจะขึ้นตู้ขายตอนใหนเพราะเขาทำเบเกอรี่กันสดๆทุกวัน และเรามองเห็นทุกขั้นตอนแลัถ้าใครอยากทำก็เสียเงิน250บาทเข้าไปลองทำได้แล้วเอาขนมชิ้นที่ทำกลับไปกินได้เลย......เป็นไงเจ๋งโคตรๆ และคูปองลด10%นี่ละจะดึงยอดขายเราเพิ่มขึ้น.....ลองดูเรามาพังกำแพงกัน....!!!!!