การสอดแทรกแนวรุกของ Jurgen Klopp "Takumi Minamino"
เป็นฤดูกาลที่สร้างชื่อและแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวให้กับนักเตะเลือดซามูไรวัยเพียง 24 ปีอย่าง Takumi Minamino ดาวเตะสารพัดประโยชน์จากค่าย RB Salzburg ที่ทำผลงานได้สะเด่าเหลือเกินในถ้วย UEFA Champions League แม้ว่าจะต้องกระเด็นตกรอบไปก็ตาม
จากการที่เขาได้จัดการกองหลังระดับโลกอย่าง Virgil Van Dijks ไปอย่างเสียเชิงในนัดที่ได้ออกไปเยือน Anfield มาเมื่อเดือนก่อน ทำให้เขาเป็นผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่สามารถพาบอลผ่านปราการหลังชาว Dutch คนนี้ไปได้อีกทั้งยังสามารถยิงประตูได้อีกในจังหวะต่อมา ถ้าตลาดหน้าหนาวนี้เขาจะเนื้อหอมกับทีมใหญ่ๆมันก็ไม่แปลก
ซึ่งค่าตัวของเขาคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับทีมใหญ่ๆที่ต้องการเขาไปโชว์ฟอร์ม เพราะค่าฉีกสัญญาของเขานั้นต่ำมากๆเมื่อเทียบกับฝีเท้าของเขาในราคา 7.25 ล้านปอนด์เพียงเท่านั้น ซึ่งดูจากฝีเท้าแล้ว ราคานี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ไม่ว่าจะในแง่ของการตลาดในเอเชียหรือว่าจะเป็นการใช้งานที่เจ้าตัวนั้นเล่นได้เกือบทุกตำแหน่งเลยก็ว่าได้
เมื่อ Liverpool นั้นใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาลไปในการเสริมทัพนักเตะ world-class ซึ่งทำให้ทีมนั้นแข็งแกร่งขึ้นแบบก้าวกระโดดจนสามารถคว้าแชมป์ UEFA Champions League ได้ในปีที่ผ่านมา
ซึ่งค่าตัวของ Alisson Becker กับ Van Dijks แค่ 2 คนก็ประมาณ 150 ล้านปอนด์เข้าไปแล้ว แม้ว่าจะมีเงินทุนจากการปล่อยตัว Philippe Coutinho ไปให้กับเจ้าบุญทุ่มไปเมื่อช่วงหน้าหนาวปี 2017 แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถนำรายรับในจุดนี้มาหักลบกับรายจ่ายของสองคนนี้นั้นได้เลย
Barcelona นั้นได้ทำการยื่นซื้อ Coutinho ไปในราคาสูงลิบนับร้อยกว่าล้านก็จริง แต่ก็เป็นการชำระที่แบ่งเป็นสองส่วนก็คือค่าตัวกับ option ที่ตกลงกันไว้เพิ่มเติม ซึ่งทำให้ Liverpool ไม่ได้รับเงินเต็มจำนวนในปีนั้นเลยทีแต่กลับกลายเป็นต้องรอให้บรรลุเงื่อนไขที่ตกลงไว้จึงจะได้รับค่าตัวแบบเต็มๆ
ซึ่งในสัญญาส่วนของค่าตัวนันมีราคาสูงถึง 106 ล้านปอนด์ รวมกับ option add-on อีกมูลค่าถึง 36 ล้านปอนด์ รวมกันเป็น 142 ล้านปอนด์อย่างในที่ข่าวนำเสนอกัน ทำให้ Liverpool นั้นยังคงต้องรอคอย 36 ล้านปอนด์ต่อไป และหนึ่งใน option ที่ทำไว้ก็คือ ต้องลงสนามให้กับ Barca เป็นจำนวน 100 นัดนั้นก็น่าจะไม่ครบแน่ๆแล้วจากการที่เจ้าตัวเลือกตัดช่องน้อยไปซบตักเสือใต้ Bayern Munich ซะแล้ว
Jurgen Klopp เคยได้ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงต้นฤดูกาลถึงงบประมาณการทำทีมที่มีอย่างจำกัดในปีนี้ และมีการเสริมทัพในช่วง summer เพียง 2 คน ซึ่งเป็นดาวรุ่งทั้ง 2 คน คือ Harvey Elliot และ Sepp Van Den Berg ยังไม่รวม Adrián ผู้รักษาประตูสัญชาติสเปน ที่เซ็นฟรีในซัมเมอร์ที่ผ่านมา
ส่วนในหน้าหนาวก็น่าจะไม่ต่างกันมากซักเท่าไหร่ อีกทั้งขุมกำลังก็เพรียบพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้หงส์แดงไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินในตลาดมากมายนัก นอกเสียจากตัวหลักจะได้รับบาดเจ็บแรมปี
เมื่อมองไปถึง Squad Depth ของ Liverpool
Jurgen Klopp ได้กลบจุดอ่อนให้กับทีมหมดแล้ว เขาเลือกที่จะแก้ปัญหาไปทีละจุดๆ
เมื่อผู้รักษาประตูของเขา ส่อแววที่จะโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานและมีลูกพลาด เฟอะฟะ ให้เห็นบ่อย ทีมก็ได้ Alisson เข้ามาอุดรอยรั่ว และในกรณีของ Van Dijks ก็เช่นกัน ซึ่งสามารถเสริมประสิทธิภาพแนวรับให้กับทีมได้ยอดเยี่ยมมากๆ
และทุกๆแหน่งในทีมนั้น มีตัวสำรองที่เล่นได้ไม่เคอะเขินอยู่ทุกตำแหน่ง ซึ่งสามารถเป็นตัวสอดแทรกในทีมได้อย่างดีเมื่อตัวหลักของทีมนั้นเล่นไม่ดี ในวันที่ฟอร์มรูด
มีเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น ที่ Jurgen Klopp มีหมากเพียงตัวเดียว ก็คือตำแหน่งของ Roberto Firmino
Firmino นั้นได้สร้างมาตรฐานของกองหน้า style False-9 ขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่ใช่เพียงการถอยลงมาเชื่อมเกมอย่าง Messi ที่เป็น False-9 ยุคบุกเบิก แต่เป็นการที่เขาสามารถวิ่งพล่านช่วยเพื่อนไล่บอล และยังคอยสลับตำแหน่งกับเพื่อนเพื่อสร้างความสับสนในแนวรับฝั่งตรงข้ามได้อีกด้วย
ด้วยการที่ Firmino เล่นร่วมกับ Mane และ Salah ได้อย่างรู้ใจ ทำให้สามประสานเหล่านี้ทำเกมรุก พังประตูได้เป็นกอบเป็นกำ จาก Salah และ Mane โดยมี Firmino คอย support อยู่ข้างหลัง อีกทั้งเจ้า Brazillian คนนี้ยังสามารถเล่นเป็น playmaker ได้อีกต่างห่างในระบบ 4-2-3-1 ที่ดัน Salah ไปยืนค้ำข้างบน
ซึ่งการเล่นที่แสนวิเศษนี้มีเพียง Firmino คนเดียวที่ทำได้สมบูรณ์แบบในหมากของ Jurgen Klopp แม้ว่าในช่วงที่ Firmino เจ็บ ก็ได้มีการทดลองมนการใช้คนอื่นในตำแหน่งของเขา แต่ก็ไม่สามาถที่จะเล่นใน style ของเขาได้สมบูรณ์เลยไม่ว่าจะเป็น Divock Origi ที่เป็นหน้าเป้าเบอร์สองของทีม แต่ช่วงหลังจะได้ลงในตำแหน่งริมเส้นมากกว่า
Klopp นั้นชอบให้หน้าเป้าของเขาลงมาล้วงบอลเพื่อเพิ่มความไหลลื่นในการขึ้นเกม รวมไปถึงการฉีกออกข้างไปช่วย wingback ขึ้นเกมริมเส้นที่นับว่าเป็น signature ของทีมในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ แต่ Origi นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพและ sense ของการเป็น playmaker อยู่ในตัวเลย จึงไม่สามารถเอาชนะใจ Klopp ในการออก start เป็นตัวหน้าเป้าได้ซักเท่าไหร่
ส่วนคนอื่นๆอย่าง Mane หรือ Wijnaldum นั้นก็เคยเล่นตำแหน่งนี้มาหมดแล้ว ซึ่งสรุปสั้นได้ว่า ค่อนข้างเสียของ เมื่อตำแหน่ที่ดีที่สุดของพวกเขาเหล่านั้นมันไม่ใช่ตำแหน่งหน้าเป้าแบบ False-9
อาวุธที่เป็นหมัดเด็ดของ Liverpool นอกจากการเล่น early cross แล้วก็คือการที่นักเตะ Liverpool ชุดนี้สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งใน match เดียว อย่างเช่น Jordan Henderson ที่สามารถขึ้นไปยืนปีกขวาจำเป็นได้ แบบที่ Klopp เคยใช้ Naby Keita ขึ้นไปยืนปีกซ้ายจำเป็นในบางจังหวะ
และที่สำคัญที่สุดของการเล่น style นี้คือการเคลื่อนที่ของ Firmino ที่สามารถเปิดช่อง ทำทางให้เพื่อนเล่นได้ง่ายขึ้น และยังลงมาช่วยไล่บอลอีกด้วยในจังหวะที่เสียการครองบอลแล้วทีมต้องเล่น counter pressing
Firmino จึงถือว่าเป็น key man ที่สำคัญของ Liverpool เลยก็ว่าได้ แม้ว่าสถิติในการทำประตูหรือ assist จะไม่เตะตาเท่ากับกองหน้าคนอื่นซักเท่าไหร่ การที่ Klopp สามารถหาคนที่สามารถทดแทนตำแหน่งของ Firmino ได้นั้นจะทำให้ Squad Depth ของหงส์แดงน่ากลัวขึ้นมาในทันที
Firmino นั้นเริ่มต้นที่ตำแหน่งเบอร์ 10 หรือ playmaker ที่ Hoffenheim ก่อนที่จะย้ายมาโชว์ลีลายิงแบบไม่มองที่ Anfield อีกทั้งยังสามารถฉีกออกไปเล่นตำแหน่งริมเส้นได้ทั้งสองข้างอีกด้วย
สิ่งที่เป็นสิ่งที่ทำให้ Firmino ค่อนข้างคล้ายกับ Minamino ในทันที จากการที่สองคนนี้สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกได้อย่างธรรมชาติ
จากข้อมูลของตำแหน่งที่ Minamino ได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้แล้ว อาจจะทำให้ความจับฉ่ายของ James Milner นั้นดูเป็นเรื่องเด็กไปเลย เมื่อ Minamino นั้นลงสนามให้กับ RB Salzburg ไปถึง 6 ตำแหน่งด้วยกัน ได้แก่
- left/right wingback
- left wing
- central midfielder
- attacking midfielder (playmaker)
- central forward (striker)
เมื่อพูดถึงใน league นั้น ตำแหน่งที่เขาลงเล่นเยอะสุดจะเป็นริมเส้นทางด้านขวา ส่วนหน้าเป้านั้นเขาได้เล่นน้อยที่สุดเนื่องจากทีมมีหน้าเป้าระดับเพชรฆาตสุดร้อนแรงอย่าง Erling Haaland อยู่แล้ว ซึ่งเขามักจะจับคู่กับ Haaland ในระบบกองหน้าคู่ และคอยเป็นตัว support และคอยป้อนให้ Haaland จบ score
ส่วนในรายการที่ใหญ่ที่สุดอย่าง UEFA นั้นเขาได้เล่นเป็นกองกลางตัวรุกซึ่งเป็น playmaker ของทีมบ่อยที่สุด ซึ่งมากกว่าได้ลงเล่นในตำแหน่งริมเส้น
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมานี้ทำให้ style การยืนตำแหน่งของเขานั้นคล้ายกับ Firmino ได้มากพอสมควร ซึ่ง Firmino ก็เป็นกลางรุกมาก่อนที่จะถูก Klopp ดันขึ้นไปเป็น False-9 และเขื่อว่า Minamino นั้นจะสามารถเล่นในตำแหน่ง False-9 ได้เช่นกันอย่างที่เล่นให้กับ RB Salzburg
ซึ่งการที่ Klopp ได้ติดตาฟอร์มการเล่นและพัฒนาการของ Minamino มา 5 ปี ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เช่นกันว่า Klopp นั้นมองเห็นสิ่งที่เด็กคนนี้มี และรอวันที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นขุมกำลังภายในทีมของนายใหญ่ชาว Germany ได้ในอนาคต และเขาเชื่อว่าเด็กคนนี้สามารถไปได้อีกไกล
สิ่งที่นักเตะสัญชาติญี่ปุ่นทุกคนมีติดตัวนั้นก็คือ พละกำลังและสภาพร่างกายที่ค่อนข้างเหนือกว่าชาติอื่นๆ ซึ่งความฟิตและระเบียบวินัยนั้นจัดว่าอยู่ในระดับสูงมากๆเลยทีเดียว การที่ Minamino นั้นสามารถวิ่งได้ไม่มีหมด ก็ตอบโจทย์การเล่นแบบ Gegenpressing ของ Klopp ได้อย่างถี่ถ้วน
สิ่งที่ Minamino ต้องพัฒนาขึ้นมาหากต้องการทีจะยึดตัวจริงจาก Firmino นั้นก็คือ sense บอลที่ต้องให้ได้ระดับ Firmino ซึ่งเขาเป็นคนที่มีลูกเล่นแพรวพราว ในการเล่นกับบอลได้อย่างสมชื่อ Brazillian รวมไปถึงทีเด็ดในการยิงแบบไม่มองอีกด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่ทำให้ Firmino กลายเป็น world-class นั้นก็คือ teamwork กับเพื่อนร่วมทีมของเขา เพราะเขาไม่ใช่คนเล่นบอล style แบบชายเดี่ยว แต่เขาเป็นคนที่ teamwork และเข้าใจการเคลื่อนที่ของเพื่อนร่วมทีมได้อย่างรู้ใจ ซึ่งเมื่อเขาเล่นดี คนรอบข้างเขาก็จะเล่นง่ายขึ้นไปด้วย
Minamino จำเป็นต้องพัฒนาในการเล่นเป็นทีมให้มากขึ้นกว่าตอนนี้หากจะเบียด Firmino ในระบบหลักอย่าง 4-3-3
แต่ถ้าหากทีมลงล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 นั้นจะทำให้ Klopp มีตัวเลือกในเกมรุกเพิ่มขึ้นอีกด้วย เนื่องจากทีมมีตัวรุกที่เล่นได้เป็นเรื่องเป็นราวเพียง 5 คนเท่านั้นอย่าง Firmino, Salah, Mane, Shaqiri และ Origi ซึ่งถ้าได้ Minamino ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุกมาเป็นตัวสอดแทรกนั้น ก็จะทำให้เกมรุกดูมีมิติขึ้นเยอะมาก
Klopp นั้นชอบที่จะใช้ปีกแบบ inside forward ในการจู่โจมพื้นที่ตรงกลางมากกว่าที่จะใช้ปีกธรรมชาติ cross บอลเข้าไปหากองหน้า แต่ถ้าเป็นจังหวะคับขันที่ต้องการประตูและมีตัวสอดเข้าเขตโทษเข้าไปเยอะแล้ว การมีปีกธรรมชาติมาช่วย wingback cross บอลนั้นก็ดูจะเป็นทีเด็ดอีกอย่างของหงส์แดงเลนก็ว่าได้
Minamino นั้นเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าขวา และมักจะได้เล่นริมเส้นฝั่งขวาเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ นั่นหมายความว่าเขามี skill การ cross บอลที่ดีเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากได้เล่น inside forward ฝั่งซ้ายเขาก็ตัดเข้าในยิงได้เหมือนกัน
ซึ่งถ้าเขาได้ทำการย้ายมา Liverpool จริงนั้นก็อาจจะทำให้ Mane และ Salah นั้นไม่ต้องฝืนร่างกายลงเล่นถี่ๆแบบนี้ก็อาจจะเป็นได้ รวมไปถึง Firmino ที่ Minamino สามารถเข้ามาอุดรอยรั่วจากการขาดหายไปของ Firmino ก็ว่าได้
เพื่อนๆคิดอย่างไรกันมั่งครับ ?
ติดตามพวกเราได้อีกช่องทางได้ที่ Facebook : Talk Shit Football
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
