18 ธ.ค. 2019 เวลา 11:53 • ธุรกิจ
ใหญ่ ฟัด ใหญ่ ศึกชิง TESCO LOTUS
สุดท้ายแล้วจะตกเป็นของใคร ??
หลังจากที่มีข่าวออกมาเมื่อช่วงต้นเดือนว่า TESCO กำลังจะขายกิจการในไทยและมาเลเซีย ก็น่าจะทำให้มีหลายๆคนสนใจและติดตามกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
กิจการระดับนี้ แค่พูดถึงมูลค่าของดีลก็น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะ TESCO LOTUS เป็นเชนการค้าปลีกอันดับ 1 จากอังกฤษที่คนไทยคงจะคุ้นเคยกันดีกับ Hypermarket แบรนด์นี้ “เทสโก้ โลตัส”
ซึ่งก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าดีลนี้ของ TESCO อาจจะมีมูลค่าสูงถึง 2.7 แสนล้านบาท ดังนั้นกรอบของผู้ที่จะเข้าร่วมศึกในครั้งนี้ก็จะแคบลงตามไปด้วย
เดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน ว่าใครบ้างที่มีโอกาสจะกลายเป็น “เจ้าของ” กิจการ TESCO LOTUS คนต่อไป
หากใครยังจำกันได้ ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 40 ได้สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจในไทยอย่างรุนแรง ส่งผลให้เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่ง CP ต้องขายกิจการ Lotus ในไทยให้กับ TESCO ไปในช่วงปี 2541 เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติในครั้งนั้น ทำให้ Lotus ในไทยมีเจ้าของเป็น TESCO เรื่อยมา
 
อีกทั้ง TESCO LOTUS ในไทยและมาเลเซีย ถือเป็นธุรกิจของกลุ่ม TESCO ที่สร้างกำไรให้กับบริษัทถึง 20% จากกำไรทั้งหมด Lotus จึงได้กลายเป็นธุรกิจที่สำคัญกับ TESCO อยู่ไม่น้อยเลย
1
ธุรกิจก็ได้เติบโตและดำเนินมาเรื่อยๆ แต่ช่วง 4 ปีมานี้หรือตั้งแต่หลังปี 2557
เป็นต้นมา TESCO LOTUS ก็ได้เผชิญกับปัญหาการแข่งขันอย่างหนักทั้งจากคู่แข่งในยุโรปและการ Disruption จากบรรดา E-commerce ที่เข้ามาเปลื่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างรวดเร็ว
รายได้ก็น้อยลง หนี้สินก็เพิ่มขึ้น...
ที่ผ่านมา TESCO จึงตัดสินใจทะยอยขาย Lotus ที่อยู่นอกประเทศ เพื่อเป็นการบรรเทาหนี้สินที่มีอยู่ราวๆ 7 แสนล้านบาท โดยทำการขายกิจการออกไปแล้ว 5 ประเทศคือ สหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และตุรกี นอกจากนี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา TESCO ยังได้ประกาศว่ามีแผนที่จะปลดพนักงานอีก 4,500 คนด้วย
ทำให้ Lotus ในไทยและมาเลเซีย ธุรกิจสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับ TESCO และเปรียบเสมือนฐานทัพหลักนอกอังกฤษกำลังจะถูกขาย ! เดาว่า TESCO คงอยากได้เงินสดและโฟกัสไปที่ธุรกิจหลักที่อังกฤษมากขึ้น
1
ซึ่งแน่นอนว่าการที่ TESCO จะขาย Lotus ในไทยและมาเลเซียครั้งนี้ ชื่อที่จะถูกนึกถึงก่อนคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากกลุ่ม CP ตระกูล “เจียรวนนท์” ที่เคยจำใจขาย Lotus และ Siam Makro ออกไปหลังปี 40 แต่ล่าสุดก็ได้ซื้อ Makro กลับมาเรียบร้อยแล้ว
ด้วยทรัพย์สินจำนวนมหาศาลอันดับ 1 ของประเทศ อีกทั้ง Lotus ก็เป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญในตลาดค้าปลีกไทย ทำให้ CP กลายเป็นกลุ่มทุนเบอร์ 1 ที่ถูกจับตามองในศึกครั้งนี้
แต่ก็ยังมีอีก 3 กลุ่ม 3 ตระกูลที่จะไม่พูดถึงไปไม่ได้เลย
ก็คือกลุ่ม Central Retail ที่นำทัพโดยคุณ “ทศ จิราธิวัฒน์” กับทรัพย์สินรวมกว่า 6.35 แสนล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้ได้ขายหุ้นบิ๊กซีในไทยและไปซื้อบิ๊กซีที่เวียดนามแทน ตรงนี้หลายๆคนมองว่า Central และ Lotus มีจุดแข็งที่แตกต่างกันทั้งคู่ ดังนั้นกลุ่ม Central ของตระกูล “จิราธิวัฒน์” จึงถูกจับตามองในศึกครั้งนี้เช่นกัน
สำหรับอีกหนึ่งคนที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” แห่งกลุ่ม TCC ที่มีสินทรัพย์กว่า 4.38 แสนล้านบาทและเพิ่งตัดสินใจนำธุรกิจเรือธงอย่าง AWC เข้า IPO ไปสดๆร้อนๆ
เสี่ยเจริญจะถูกมองข้ามไปไม่ได้ในศึกครั้งนี้ เพราะฉายาของเขาคือ “เจ้าพ่อเทคโอเวอร์” ประจำเมืองไทย อีกทั้งกิจการในมืออย่าง บิ๊กซี(ไทย) ก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ 2 ถ้าเทียบกับ Lotus ทำให้ “เสี่ยเจริญ” กลายมาเป็นผู้ที่อาจจะเข้าร่วมศึกด้วย
รวมไปถึงตระกูล “ภิรมย์ภักดี” เจ้าของ สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของความยิ่งใหญ่กับทรัพย์สินกว่า 7.22 หมื่นล้านบาท แถมช่วงนี้กลุ่มสิงห์ก็ยังเดินหน้าลุยธุรกิจอาหารเต็มที่เพื่อหวังจะตั้งให้เป็น 1 ใน 6 ธุรกิจหลัก จึงไม่แปลกที่ตระกูล “ภิรมย์ภักดี” จะถูกพูดถึงด้วยเช่นกัน
และข้างบนนี้ก็คือกลุ่ม, ตระกูลที่ “มีลุ้น” ว่าจะเข้าร่วมศึกแย่งชิง TESCO LOTUS ในไทยและมาเลเซียรอบนี้ กับดีลมูลค่ากว่า 2.7 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นจากต่างประเทศอย่างกลุ่ม Private Equity ที่เคยซื้อกิจการของ Lotus ในเกาหลีไปแล้ว ทำให้ศึกครั้งนี้มีผู้เล่นที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมาเข้าร่วมมากมาย
TESCO LOTUS จะตกไปอยู่ในมือของใคร หลังจากที่บริษัทแม่ต้องการจะขายกิจการในไทยและมาเลเซีย ในขณะที่ตระกูลมหาเศรษฐีในไทยก็กำลังช้อปปิ้งและเทคโอเวอร์กิจการกันอย่างสนุกพอร์ตในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้
ศึกครั้งนี้จะดุเดือดแค่ไหน มูลค่าดีลจริงๆจะสูงตามที่คาดไว้หรือไม่ ?
ก็คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ขอรับรองว่าดีลนี้ จะเป็นข่าวใหญ่ในปี 2563 อย่างแน่นอน...
สนใจเรียนรู้เรื่องหุ้น การออม การลงทุน
แชร์หุ้นกราฟสวยทางไลน์
LINE ID @hinstock
หรือคลิ๊กมาที่
โฆษณา