Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
T
The life of monk
•
ติดตาม
23 ธ.ค. 2019 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตพระ
ตอนที่ ๒๔ ท้าวเวสวัณ
เป็นราชาแห่งยักษ์ ที่คนไทยเราคุ้นหูที่สุด บางครั้งก็เรียกว่า “ท้าวเวสสุวรรณ” บางครั้งก็เรียกว่า “ท้าวกุเวร” ท่านเป็นยักษ์ชั้นสูง หรือเป็นยักษ์ HI so หล่อมาก
สมัยเป็นมนุษย์ ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ ชื่อกุเวร ได้สร้างโรงหีบอ้อยที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ ๗ เครื่อง ได้ผลกำไรแล้วก็เอามาทำทานแด่มหาชน ผลบุญนั้นทำให้ท่านได้กำไรมากขึ้น ท่านก็ยิ่งทำทานเพิ่มหนักขึ้นไปอีก ทำอยู่อย่างนี้ตลอด ๒๐,๐๐๐ ปี (เป็นอายุขัยของมนุษย์ยุคนั้น)
เรื่องอายุขัยของมนุษย์ที่ยาวนานขนาดนั้นเป็นไปได้อย่างไร จะดูโอกาสเล่าให้ฟังอีกทีนะ เดี๋ยวจะนอกเรื่องไปไกล
แต่เนื่องจากท่านจะเป็นคนหงุดหงิดง่าย ดังนั้นเมื่อละโลกไปแล้ว ก็ไปเกิดเป็นเทพบุตรสายยักษ์ ชื่อ “กุเวร” บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ต่อมาตำแหน่งหน้าที่การงาน (บนสวรรค์) ก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปตามลำดับ จนกระทั่งได้ครองนครชื่อ “วิสาณะ” (บนสวรรค์ก็มีการแบ่งเขตการปกครองเหมือนในเมืองมนุษย์) จึงได้ชื่อว่า “ท้าวเวสวัณ” หรือ “ท้าวเวสสุรรณ” ต่อมาตำแหน่งการปกครองก็เลื่อนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นราชาแห่งยักษ์ทั้งจักรวาล
การปกครองยักษ์ที่มีอุปนิสัยมักโกรธ หงุดหงิดง่าย ชอบฟึดฟัด เป็นเรื่องที่ปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย ยักษ์ที่มีศีลก็มี ยักษ์ที่ไม่มีศีลก็มี ถ้ายักษ์มีศีลก็จะให้คุณกับมนุษย์ ถ้ายักษ์ไม่มีศีลก็จะไปทำความเดือดร้อนให้กับมนุษย์ ท่านจึงต้องคอยควบคุมบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้อยู่เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องเดือดร้อนกับยักษ์มากเกินไป ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็น ๑ ใน ๔ ท้าวจตุโลกบาล หรือ ๔ เทพผู้คุ้มครองโลก (ก็คือมหาราชทั้ง ๔ ในตอนที่ ๒๓)
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ท่านได้ฟังธรรมจากพระพุทธองค์จนบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลชั้นต้น คือ เป็นพระโสดาบัน และมีบทบาทมากในการพิทักษ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ผลงานที่โดดเด่นที่สุดของท่านก็คือ “อาฏานาฏิย” (อ่านว่า อา-ตา-นา-ติ-ยะ) คาถา
อ่านแล้ว น่าจะงงๆ อยู่นะ เพราะเป็นสำนวนในพระไตรปิฎก เรื่องราวก็มีอยู่ว่า ท้าวเวสวัณ ท่านมีความห่วงกังวลว่า บรรดายักษ์ที่ท่านปกครองอยู่ โดยเฉพาะพวกที่ไม่มีศีลน่ะ จะไปทำร้ายพระภิกษุสงฆ์
ท่านจึงไปกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วถวายคาถาที่ชื่อว่า “อาฏานาฏิย” แด่พระองค์ แล้วขอให้พระองค์ช่วยบอกกับสาวกทั้งหลายของพระองค์ว่า ให้สวดสาธยายคาถาอันนี้ โดยเฉพาะเวลาไปบำเพ็ญสมณธรรมในป่า เมื่อพวกยักษ์ได้ยินก็จะเลื่อมใสแล้วไม่ทำอันตรายกับผู้ที่สวดสาธยายพระคาถานี้ ซึ่งพระพุทธองค์ก็รับเรื่อง แล้วนำความมาบอกกับพระสาวกทั้งหลายของพระองค์
จากนั้น ท้าวเวสวัณ ก็ประกาศให้ยักษ์ทั้งจักรวาลรับทราบว่า หากยักษ์ตนใดทำร้ายผู้ที่สวดสาธยายพระคาถานี้ จะได้รับโทษสถานหนัก ซึ่งประกาศนี้ไม่ใช่เฉพาะยักษ์เท่านั้น ครอบคลุมไปถึง ครุฑ นาค กุมภัณฑ์ คนธรรพ์ วิทยาธร ด้วย
ต่อมา คาถานี้ ก็ถูกจัดอยู่ในบทสวดเจริญพระพุทธมนต์ ๑๒ ตำนาน ที่พระภิกษุสงฆ์ท่านสวดกัน ทั้งที่วัด และทั้งที่บ้าน เวลาไปกิจนิมนต์ สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
เนื้อหาของบทสวดท่านผู้อ่านสามารถศึกษาได้ตาม Link ที่ส่งมาให้นะ
watpamahachai.net
บทสวด อาฏานาฏิยะปะริตตัง หรือ อาฏานาฏิยปริตร
บทสวด อาฏานาฏิยะปะริตตัง อาฏานาฏิยปริตร บทสวดอาฏานาฏิยะปะริตตังแปล วิปัสสิสสะ นะมัตถุ จักขุมันตัสสะ สิรีมะโต สิขิสสะปิ นะมัตถุ สัพพะภูตานุกัมปิโน เวสสะภุสสะ นะมัตถุ นะหาตะกัสสะ ตะปั
เพราะเหตุนี้ ท้าวเวสวัณ จึงได้รับการยอมรับนับถือเกรงอกเกรงใจ จากบรรดาเทพทั้งหลายในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกามากที่สุด ว่า เป็นผู้มีบทบาทในการปกปักรักษาพระพุทธศาสนา
ที่เล่าเรื่องท้าวเวสวัณมายืดยาวขนาดนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า ยักษ์ที่ชื่อ “ชนวาสภะ” หรืออดีตพระเจ้าพิมพิสารนั้น เมื่อมาเป็นสหายกับท้าวเวสวัณ (ตอนที่ ๒๓) ก็ย่อมจะได้รับความนับถือเกรงอกเกรงใจจากบรรดาเทพทั้งหลายในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเช่นกัน
ในตอนหน้า เราจะมาศึกษากันว่า ทำไมพระเจ้าพิมพิสาร จึงไปเกิดเป็นชนวาสภะยักษ์ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ...จบตอนที่ ๒๔
2 บันทึก
35
20
13
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชีวิตพระ ภาค ๑ ตอนที่ ๑ - ๕๐
2
35
20
13
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย