23 ธ.ค. 2019 เวลา 04:11 • ประวัติศาสตร์
Merry Christmas คำ ๆ นี้คงเป็นคำเปิดรับบทความและ คำอวยพรที่ดีที่สุดในช่วงนี้เลย เมื่อนึกถึงเทศกาลต่าง ๆ ในเดือนธันวาคม ฤดูหนาว ที่หนาวเพียงแค่บางวัน .... นั้น ทุก ๆ คงคิดถึงเทศกาลนี้เป็นแน่นอน ซึ่ง วันนี้ กระผมจะมาเล่าเกี่ยวกับวัน Christmas และความหมายต่าง ๆ ของสิ่งของที่ใช้กันในวันนี้ให้ฟังนะครับผม
ก่อนอื่น มาแยกระหว่าง Chrismas Eve กับ Crismas กันก่อน
วัน Christmas Eve หรือ คริสต์มาส อีฟ
จะตรงกับวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งในวันนี้ก็จะเริ่มมีการเฉลิมฉลองกันแล้ว ซึ่งต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นฝั่งสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปก็จะเริ่มเฉลิมฉลองกันตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 24 กันแล้ว
ซึ่งการฉลอง คริสต์มาส อีฟในวันที่ 24 นั่นมีสาเหตุมาจากประเพณีดั่งเดิม ที่ทำสืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชาวยิว ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของพิธีกรรมต่างๆ ในศาสนาคริสต์ และอีกทั้งคำสอนในพระคัมภีร์ จากหนังสือปฐมกาลที่ได้กล่าวถึงการสร้างโลกไว้ว่า “วันแรกที่พระเจ้าทรงสร้างโลก พระเจ้าได้สร้างกลางวัน และกลางคืน” ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองคืนแรกที่พระผู้ไถ่ หรือพระเยซูจะประสูติขึ้นมาซึ่งเวลาก็คือ 00:00 ก็เลยมีการเฉลิมฉลองเฝ้ารอการบังเกิดของพระเยซูตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคมนั่นเอง
วัน Christmas Day
วันคริสต์มาส จะตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี ความสำคัญของวันคริสต์มาสคือ วันเฉลิมฉลองการบังเกิดมาพระเยซูคริสต์ จะเป็นเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 พอดี ซึ่งก็เข้าสู่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 แล้ว เลยถือเอาเช้าวันที่ 25 เป็นชั่วโมงเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส
และในทุกวันนี้คริสต์มาสก็เป็นเทศกาลที่ผู้คนทั่วโลกเฉลิมฉลอง เป็นวันแห่งความสุข ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์หรือไม่ก็ตาม โดยเฉพาะเด็กๆ ตื่นเต้น รอที่จะได้รับของขวัญจากคุณซานต้า ซึ่งในหลายๆ ครั้งคุณซานต้าก็คือคุณพ่อ คุณแม่ ที่ซื้อของขวัญให้นั่นแหล่ะ
ภาพการประสูติของพระเยซุ
คริสต์มาส
(อังกฤษ: Christmas; อังกฤษเก่า: Crīstesmæsse, หมายถึง "พิธีมิสซาของพระคริสต์")
หรือ วันสมโภชพระคริสตสมภพ (อังกฤษ: Feast of the Nativity) จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซู เป็นวันหยุดทางศาสนาและวัฒนธรรม ประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจัดการเฉลิมฉลองในวันที่ 25 ธันวาคม ซึ่งเน้นปีพิธีกรรมของคริสต์ศาสนิกชนเป็นสำคัญ วันคริสต์มาสเป็นวันปิดเทศกาลเตรียมการรับเสด็จ และวันเริ่มต้นเทศกาลพระคริสตสมภพ (Christmastide) วันคริสต์มาสเป็นวันหยุดราชการในหลายประเทศทั่วโลก และมีผู้ที่ไม่ใช่คริสต์ศาสนิกชนหันมาเฉลิมฉลองกันมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในคริสต์มาสและฤดูวันหยุด
ต้นคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสเป็นต้นสนชนิดไม่ผลัดใบ ที่หาง่ายและมีสีเขียวตลอดทั้งปี ความเชื่อในสมัยโบราณเชื่อว่าต้นคริสต์มาสเป็นต้นไม้ในสวนสวรรค์ ในช่วงศตวรรษที่ 16 มาร์ติน ลูเธอร์ เป็นผู้ริเริ่มการนำของตกแต่งคริสต์มาส เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีหลังจากศตวรรษที่ 19 มานั้นการตกแต่งประดับต้นคริสต์มาสก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วโลก
ซานตาคลอส
สัญลักษณ์คริสต์มาสที่ทุกคนนึกถึงกันมากที่สุดก็เป็นซานตาคลอส หรือซานต้าที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอยมาทั้งปี ซึ่งซานตาคลอสนั้นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการที่มีแรงบันดาลใจมาจากเซนต์นิโคลัส ซานตาคลอสจะอาศัยอยู่ที่ขั่วโลกเหนือ มีกวางเรนเดียร์เป็นพาหนะคู่ใจที่จะแอบไปให้ของขวัญกับเด็กดีโดยจะลงไปในปล่องไฟเพื่อมอบของขวัญใส่ในถุงเท้าที่แขวนไว้หน้าเตาผิง เมื่อเทศกาลคริสต์มาสมาถึงเด็กต่างก็รอคอยที่จะได้รับของขวัญที่ตัวเองปรารถนาจากคุณลุงซานต้านั่นเอง
(จะมีคอนเทนท์เกี่ยวกับคุณลุงมานะครับรอกันอีกนิด)
ผู้คนในสมัยก่อนจะอาศัยอยู่ใต้ดิน จึงจะต้องมีปล่องไฟเพื่อเป็นทางเข้าออกของควัน จึงเป็นทางที่ซานตาคลอสสามารถเข้าไปแจกของขวัญให้เด็ก ๆ ในแต่ละบ้านได้ แต่ทำไมซานตาคลอสไม่เปื่อนมั้งหว่า..
พวงมาลัย แง้นๆ
ความหมายของพวงมาลัยคริสต์มาสหรือ Christmas Wreath แบ่งออกเป็นหลายความหมาย รูปร่างวงกลมเตือนใจถึงมงกุฎหนามของพระเยซู ใบไม้สีเขียวหมายถึงความเป็นอมตะ นิรันดร ที่ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีที่สิ้นสุด และโบว์สีแดงที่ถูกร้อยเข้ากับพวงมาลัยหมายถึงความรื่นเริง
การแขวน Christmas Wreath ไว้หน้าบ้านนั้นเชื่อว่าจะช่วยปกป้องคนในบ้านจากพลังอันชั่วร้ายก็เป็นได้...
Holly s...
ต้นฮอลลี่ก็เป็นสัญลักษณ์วันคริสต์มาสอีกหนึ่งอย่างที่เห็นบ่อย ซึ่งความหมายของต้นฮอลลี่จะมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคือ สีเขียวเป็นตัวแทนของการมีชีวิตนิรันดร์ สีแดงแสดงถึงหยดเลือดของพระเยซูที่ไหลรินบนไม้กางเขน ใบไม้หนามยังเป็นสิ่งที่เตือนถึงมงกุฎหนามที่อยู่บนศีรษะของพระเยซู
เบล
การสั่นกระดิ่งในเช้าวันคริสต์มาสเป็นเหมือนการเฉลิมฉลองให้กับการกำเนิดของพระเยซู เหล่าผู้คนเฉลิมฉลองกันโดยการสั่นกระดิ่งเพื่อป่าวประกาศว่าได้เริ่มต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแล้ว ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็จะนำกระดิ่งนี้ไปเป็นของตกแต่งวันคริสต์มาสอย่างที่ใครหลาย ๆ คนเห็นกันนั่นเองครับ
ดอกไม้จริงๆนั้นหรอ..
เรื่องราวของดอก Poinsettia มีตำนานอยู่ว่าเด็กสาวชาวไร่ฐานะยากจนอยากจะมอบของขวัญให้แก่พระแม่มารี แต่ก็ไม่มีสิ่งใดมอบให้นางในคืนวัน Christmas Eve ระหว่างเดินทางเด็กสาวพบกับนางฟ้าตนหนึ่งซึ่งบอกให้เธอไปเก็บเมล็ด แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเพราะเมล็ดพืชที่เธอเก็บมานั้นกลายมาเป็นดอก Poinsettia หรือดอกไม้คริสต์มาส ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์วันคริสต์มาส
คืนที่ดาวเต็มฟ้าาา
ดาวเป็นสัญลักษณ์ของการเสด็จมาประสูติของพระเยซู การประดับดาวไว้บนยอดต้นคริสต์มาสเปรียบเสมือนดวงดาวที่สุกสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้านั่นเอง
ถุงเท้าที่จะใส่ของขวัญกันนั่นเอง
ส่วนมากจะแขวนถุงเท้าคริสต์มาสกันไว้ใกล้เตาผิง เรื่องเล่ามีอยู่ว่านักบุญเซนต์นิโคลัสต้องการจะช่วยสามพี่น้องให้หลุดพ้นจากความยากลำบาก จึงให้ทองแก่ทั้งสามโดยการหย่อนทองลงไปในปล่องไฟ แต่บังเอิญทองนั้นตกลงไปในถุงเท้าพอดี รุ่งเช้ามาสามพี่น้องพบจึงปิติยินดีใจ และเป็นที่มาของการแขวนถุงเท้าไว้ใกล้เตาผิงในเทศกาลคริสต์มาสเพื่อนำพาความโชคดีมาหาเราบ้าง
แคนดี้..
เป็นของตกแต่งคริสต์มาสที่น่ารักมาก ๆ ในบางที่อาจจะใช้แอปเปิลเป็นเครื่องประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส สีสันสดใสนั้นมองดูคล้ายกับต้นไม้แห่งสรวงสวรรค์ นอกจากนี้การใช้เครื่องประดับและแอปเปิลยังช่วยสะท้อนแสงไฟและแสงเทียนในค่ำคืนที่อบอุ่น
ซึ่งแอปเปิลยังมีความหมายถึงอดัมกับอีฟด้วย
แปลกๆอะดิ ฮ่าๆ
และแน่นอนว่าเทศกาลคริสต์มาสเราจะขาดสีสันสดใสไปได้อย่างไร สีที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลคริสต์มาสมีดังนี้และมีความหมายดังนี้
🔺 สีแดง หมายถึงเลือด ไฟ และความโอบอ้อมอารี
💚 สีเขียว หมายถึงความนิจนิรันต์ ความหวังและความอ่อนเยาว์
🔶 สีทอง หมายถึงแสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และความรุ่งเรือง
⚪ สีขาว หมายถึงความสว่างไสว แสงอาทิตย์ และแสงดาวคริสต์มาส
และนี้ก็เป็นความหมายต่าง ๆ ของวันคริสต์มาสซึ่งก็จะถึงวันคริสต์มาสแล้วครับเราควรไปหาถุงเท้า
ไปแขวนหน้าเตาพิงเผื่อได้ของขวัญหรือโบนัส
แล้วก็วันที่ 24 นี้เป็นวันคริสต์มาสอีฟก็อย่าลืมออกไปเฉลิมฉลองกับครอบครัวแล้วก็อย่าลืมของเซลล์ทั้งหน้าร้านและอิเทอร์เน็ตในช่วงเทศกาลนี้ด้วยนะครับ
แล้วลาจากกันไปด้วยคำว่าเมอร์รี่คริสต์มาสครับ
ความคิดเห็นจากผม
ผมก็รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ดีที่คนสามารถมีความสุขกันได้หลังจากที่ผ่านเรื่องเลวร้ายกันมาทั้งปี สามารถให้ความสุขก่อนจะจบปี และผ่านปีนี้ได้อย่างสบายใจ ดังนั้น การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสนี้ ก็นับว่า เป็นสิ่งที่ดีที่ควรทำนะ อาจจะเริ่มจากปาร์ตี้กินหมูทะเล็ก ๆ ในบ้านก็ได้ครับ เพราะสุดท้าย เทศกาลคริสต์มาสไม่ใช่สิ่งของ แต่คือความรู้สึกนั้นเอง...
โฆษณา