หลังจากผ่านช่วงโชคดีและโลกสวยมาได้ เกือบปีตอนนี้ก็เข้าสู่ปลายปีที่สอง ข้าวก็กำลังจะได้เกี่ยว ทุนในหุ้นจาก 50,000 ตอนนี้ก็เพิ่มมูลค่ามาเป็น 70,000 ทำกำไรเกือบ 50% ในเวลาไม่ถึงปี พย. ปีนั้นผมทำนาเพิ่มจาก 20ไร่เป็น 50 ไร่ ขายข้าวได้กำไรอีก 80,000 ก็รีบเอาไปใส่บัญชีหุ้นทันที ตอนนี้มี 150,000 นิดๆแบบนี้ไม่เกินสามปี ได้จับเงินล้านแน่เว้ยเฮ้ย ออกไปตามหาตัวเองตั้งไกล เสียเวลาก็นาน บ่อทองมันอยู่ในบ้านนี่เองไม่น่ารู้ตัวช้าเลยเรา ไม่งั้นได้เป็นอายุน้อยร้อยล้านไปแล้ว จากผมเอากำไรไปสะสมหุ้นปัญผลทีละพันสองพัน คราวนี้ผมขายหมดไม่สนปัญผลละรวมเงินเป็นกองเดียวเลยจะได้ทำกำไรเน้นๆ ว่างั้นไม่มีคำว่ากระจายความเสี่ยงโฟกัสหุ้นทีละตัวเลย ชื้อขายทั้งหมดในหุ้นเดียวเลย
บททดสอบที่ 2 หลังจากการได้รับโชค คือการประคับประคองอาชีพให้เกิดความสม่ำเสมอและยั่งยืนนั่นเอง และทุกคนทุกอาชีพ จะต้องเจอข้อสอบชีวิตคล้ายๆกันแน่นอน ปลายปีนั้นก่อนตลาดปิดปีใหม่ มีการโยกย้ายทรัพย์ทั้งกองทุน และต่างชาติถอนทุนทำกำไรน่ะซิ มือใหม่ที่เข้าตลาดไม่ครบปีไม่ทันเห็นรอบธุรกิจทุกด้านอย่างผมเปลี่ยนโอกาสเป็นวิกฤติทันที หุ้นไม่เคยร่วงเกิน 20-40 จุดซักครั้ง วันนั้น เกิดแพนิค หุ้นร่วงกว่า 150 จุด ผมน่ะเหรอก็มือใหม่ที่เห็นแต่โอกาสซื้อของถูกไม่ได้รู้ถึงอันตรายตรงหน้าเลย ร่วงไป 20จุด ผมทะยอยซื้อละ 40 จุดซื้อหนักขึ้น 60 จุดซื้อเกือบหมดพอตละ 100จุดนี่ กำไรเละวันนี้ ได้เงินเที่ยวปีใหม่ละเว้ย เทหน้าตักซื้อหมดมือ ผ่านไปมีลงต่อเป็น 120 จุดเอาละซิทุนหมด เริ่มหาข่าวละเกิดอะไรกับจลาดก็ไม่มีเหตุผลอะไร ข่าวนิ่ง ยังฝันถึงกำไรอย่างเป็นกอบเป็นกำอยู่ เดี๋ยวก็เด้งกลับ ลงไป140 จุด ขาดทุนเกือบจากหุ้นที่ถือเกือบ 40% ตอนนี้เริ่มใจคอไม่ละ สุดท้าย 160 จุดหรือเท่าไรเริ่มกลัวละทีนี้ ตอนนั้นขาดทุน 55% ทนไม่ไหวละ เริ่มทะยอยตัดขาดทุนละ
จนสุดทางที่ 170 จุด ผมคัททิ้งไป ครึ่งพอต เงิน 70,000เหลือ 30,000 นิสๆ เหลือขาดทุนอีก ที่ทนถืออีกครึ่งนึง 70,000 เท่านั้นล่ะ ตลาดกลับสภาพ หุ้นเริ่มดีดราคากลับ มาหยุดเท่าไรไม่แน่ใจละ สมองว่างเปล่าละตอนนั้น แล้วตลาดก็ปิดปีใหม่ เป็นปีที่กินเหล้าก็จืด ร้อนหนาวก็ไม่รับรู้ละ ในหัวคิดแต่หุ้นหลังปีใหม่มันจะลงต่อจะทำไง ถ้าฟื้นตัวแต่ราคาหุ้นไม่ฟื้นจะคัทหรือจะถัว หรือจะแก้ยังไง หรือจะหาเงินใหนมาเพิ่ม หรือ....หรือ....มีแต่คำว่าหรือ....อยู่ใหนหัว