MINISO ร้านจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่นสุดคิ้วท์จากจีน
ถ้าพูดถึงร้านขายของอเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับเดินเลือกซื้อของขวัญในราคาที่ย่อมเยาว์แต่ดูดีและมีคุณภาพ เชื่อว่าร้าน MINISO คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับใครหลายๆคน
เพราะที่ร้านนี้มีสินค้าตั้งแต่ของใช้ลายลิขสิทธิ์หรับเด็กๆอย่างเช่น แก้วน้ำ Marvel ตุ๊กตาหมี Bare Bear ไปจนถึงของใช้สำหรับผู้ใหญ่อย่างเช่นหูฟัง หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอางค์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
แต่รู้หรือไม่ว่าร้านขายของอเนกประสงค์ที่มีสินค้าลิขสิทธิ์ของอเมริกาให้เราได้เลือกซื้อนั้น แท้จริงแล้วเป็นแบรนด์ที่มีเจ้าของมาจากประเทศที่กำลังมีสงครามการค้ากับอเมริกาอย่างคนจีน
เรื่องราวของแบรนด์ MINISO เป็นอย่างไร วันนี้ Mint talk จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
แบรนด์ MINISO ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดยผู้ร่วมก่อตั้ง 2 คนคือคุณ Ye Guo Fu นักลงทุนชาวจีน และคุณ Miyake Junya นักออกแบบชาวญี่ปุ่น โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน
คุณมิยาเกะ(ซ้าย) และคุณเย่ กั๋วฟู่(ขวา)
แต่ถึงแม้จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศจีน แต่ MINISO ก็ประกาศตัวเองว่าเป็น Japan-based design brand เพราะมีคุณมิยาเกะ จุนยะเป็นผู้ออกแบบสินค้าภายใต้แนวคิด “simplicity, nature and good quality” หรือ “เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และคุณภาพดี”
สินค้าของ MINISO นั้นจะต้องมีลักษณะ 3 ดี
1. การออกแบบที่ดี
2. ประสิทธิภาพดี คุณภาพคุ้มราคา
3. ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้านค้ากลับไป
และหากจำแนกสินค้าภายในร้านทั้งหมดออกเป็นประเภทจะสามารถจำแนกได้เป็น 6 ประเภทใหญ่ๆ คือ
-ของตกแต่งบ้าน
-ของใช้ในชีวิตประจำวัน
-ของใช้เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม
-สินค้าแฟชั่น
-อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
-อาหาร
จะเห็นว่า MINISO นั้นมีสินค้าแทบจะเรียกได้ว่าแทรกอยู่ในเกือบทุกจังหวะของชีวิตตั้งแต่ตื่นจนเข้านอนเลยก็ว่าได้
และด้วยการเน้นขายของแบบกำไรต่ำ-คุณภาพสูง เน้นขายที่ปริมาณมากกว่าคุณภาพ ทำให้ MINISO นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่เริ่มขยายสาขาออกนอกประเทศจีนสามารถขยายไปกว่า 3,500 สาขาใน 79 ประเทศทั่วโลก และมีรายได้ในปี พ.ศ. 2561 ถึง 75,600 ล้านบาท (คิดที่ 1 USD = 30.24 บาท)
สำหรับในประเทศไทยนั้น MINISO เริ่มเข้ามาดำเนินกิจการในปีพ.ศ. 2559 ภายใต้ชื่อบริษัท มินิโซ (ไทยแลนด์) จำกัด ปัจจุบันมีจำนวนสาขาในไทยทั้งหมด 57 สาขา และยังมีช่องทางการขาย online ใน Platform ต่างๆทั้งใน Lazada, SHOPEE, JD Central อีกด้วย
แล้ว MINISO มีกำไรเท่าไหร่
ปี 2559รายได้33,615บาท กำไร22,892 บาท
ปี 2560รายได้84,849บาท กำไร4,382 บาท
ปี 2561รายได้2,373,995บาท กำไร861,913 บาท
ที่น่าสนใจคือภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี MINISO สามารถทำให้กำไรเติบโตได้ถึงกว่า 37 เท่าเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของแนวคิดญี่ปุ่นที่แฝงอยู่ในแบรนด์ MINISO คือการยึดถึงเรื่องการเคารพลูกค้า และรักษาคุณภาพสินค้าให้ดีเสมอต้นเสมอปลาย
เรื่องราวของ MINISO สอนเราว่า ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไร หรือประเภทไหนก็ตาม สิ่งสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องและติดใจลูกค้าได้นั้น นอกจากการพัฒนาสินค้าให้ตรงใจลูกค้าและตามทันเทรนของโลกแล้ว ยังมีเรื่องของความเสมอต้นเสมอปลายและการเคารพลูกค้า ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีทุกครั้งที่มาใช้บริการด้วย
ดังที่เราจะสังเกตได้จาก logo ของแบรนด์ MINISO ที่เป็นรูปหน้ายิ้ม ซึ่งเป็นตัวแทนของการบริการลูกค้าด้วยรอยยิ้ม...
MINISO LOGO
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่รับชมและอ่านเรื่องเล่าสบายใกล้ตัวจาก "Mint talk"
ถ้าถูกใจอย่าลืมกด Like แล้วไป Follow กันได้ที่
แล้วพบกันในบทความหน้าครับ
หากท่านไหนมีเรื่องราวที่สนใจอยากให้นาย Mint เก็บมาเล่าก็ comment บอกกันมาได้เลยนะครับ ^_^
ที่มา
รูปภาพจาก: เว็บไซต์ทางการของ miniso, Brand Buffet
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
