เขียนให้ปังด้วยพลัง
3 เทคนิคจากหนังสือ The War of Art
เทคนิคจากหนังสือเล่มนี้สามารถนำไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหนังสือ วาดรูป ทำดนตรี แม้แต่การทำธุรกิจ ให้สำเร็จและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
Steven Pressfield ผู้เขียนเป็นนักเขียนหนังสือและบทภาพยนตร์ เจ๊งบ้าง ปังบ้าง
ที่ปังที่สุดคือนิยายเกี่ยวกับนักกอล์ฟ ที่ภายหลังได้ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นำแสดงโดย Will Smith และ Matt Damon เรื่อง The Legend of Bagger Vance: A Novel of Golf and the Game of Life ที่เพื่อนชาว Blockdit "เรื่องของลุง..ทัฟฟี่" บอกว่าเพิ่งฉายช่อง Mono29 ไป
หนังสือ The War of Art พูดถึงผีฝ่ายต่อต้าน การใช้พลัง และกรอบความคิดอาณาจักร
1. รู้จักผีฝ่ายต่อต้าน Resistance
ขบวนการฝ่ายต่อต้าน Resistance ในสตาร์วอสเป็นพระเอกแต่ในเรื่องนี้กลับเป็นผู้ร้าย และได้ชื่อว่าผีที่ตามหลอกหลอนเราอยู่ตลอดเวลา
ผีต่อต้านคือตัวเหนี่ยวรั้งไม่ให้เราดัง ไม่ให้ผลงานดี ไม่ให้ผลงานออกมา
ผีตนนี้คือผู้ที่บอกว่าคุณคือมือสมัครเล่น ขี้เกียจ หมดไอเดีย หมดพลัง ผู้ที่มาดับเพลิงแห่งการสร้างสรรค์เสียหมดสิ้น ผีตนนี้มีตัวตนอยู่ในจิตใจเรา แกร่งกล้าขึ้นทุกครั้งที่เรายอมมัน และเราจะเป็นมือสมัครเล่นตลอดไป
ผีตนนี้ทำให้เราวางมือจากคีย์บอร์ด ปากกา พู่กัน และธุรกิจ หันไปทำสิ่งที่ผีอยากให้เราทำมากกว่า นั่นคือการไม่ทำอะไรเลย
"Fear is the path to the dark side. Fear leads to anger. Anger leads to hate. Hate leads to suffering." Yoda
การสยบผี Resistance
ผีตนนี้ไม่สามารถกำจัดได้ด้วย Star destroyer ผีตนนี้ไม่ได้หนีเราไปดวงดาวเล็กๆที่ไกลแสนไกล
แต่ผีตนนี้อยู่ข้างๆเรา ตรงหน้าเรา ติดตามเราเหมือนเงาตามตัว
การสยบผีร้ายนั้นทำได้ด้วยการ Turn Pro
การ Turn Pro อย่างง่ายๆ เปรียบได้กับ ถ้าคุณเคยทำงานออฟฟิศ ตื่นหกโมงเช้า เลิกงานสี่โมงเย็น ไปทำงานไม่เคยสายเพราะกลัวการตัดเงินเดือน ยอมให้หัวหน้าด่าทุกวันแต่ก็ยังทำต่อไปเพราะกลัวจะไม่มีกิน นั่นคือการ Turn Pro แล้ว ง่ายใช่ไหมล่ะ
การเขียน การทำงานศิลปะ หรือทำธุรกิจก็เช่นกัน
สำหรับการเขียน การ Turn Pro ก็คือการตื่นเช้ามาจรดปากกาเขียนหนังสือเล่มใหม่ ทำทุกวันเป็นกิจวัตร นำผลงานให้คนอื่นอ่านแล้วพร้อมรอรับคำด่าที่จะตามมา ไม่ว่าจะด่าหรือชม เราก็ยังต้องทำต่อไป เพราะเราเป็น Pro แล้ว
"Do or do not. There is no try." Yoda
from https://www.diygenius.com/
2. ใช้พลัง
ตรงข้ามกับผีก็มีพลังผู้อยู่เคียงข้างศิลปิน
พลังนั้นเป็นอะไรก็ได้ จะเป็นพระเจ้า เทพ หรือเป็น Force แบบในสตาร์วอส์ก็ได้
'บุตรผู้เกิดจากครรภ์มารดาถูกส่งมาจากพระเจ้าฉันใด งานศิลปะนั้นก็ถูกส่งมาจากเบื้องบนผ่านตัวศิลปินฉันนั้น'
อย่างเทพปกรณัมกรีก มีเทพธิดามิวส์ (Muses) ทั้ง 9
เทพี Euterpe แห่งการเต้น
เทพี Melpomene แห่งโศกนาฏกรรม (tragedy)
เทพี Thalia แห่งสุขนาฏกรรม (comedy)
ศิลปินกรีกเขามีมิวส์อยู่ในหัวใจ อยู่ข้างกายตอนเขาสร้างผลงาน เราจึงได้เห็น โอดิสซีของโฮเมอร์ เดอะรีพลับบลิกของเพลโต
พึงคิดได้เช่นนี้ งานของเราจะยิ่งใหญ่เหนือกว่าตัวเรา เกินกว่าความสามารถของเรา และมากกว่าความคาดหวังของผู้อื่น
จงเชื่อจริงๆว่าตัวเราพิเศษ มีพรสวรรค์ที่คือพรจากสวรรค์จริงๆ แล้วพลังความคิดสร้างสรรค์จะอยู่เคียงข้างเรา
มองว่างานเขียนของเรา งานศิลปะของเรา ธุรกิจของเรานั้น พระเจ้า เทพหรือพลังนั้นเป็นผู้สร้าง และประสงค์ให้เราเป็นปากกา ปลายพู่กัน หรือผู้จัดการที่ทำให้ผลงานเหล่านั้นปรากฎแก่สายตาของผู้คน
'Be faithful จงศรัทธาทุกครั้งที่จรดปากกา'
3. กรอบความคิดลำดับชั้น (hierachical) vs ขอบเขต (territorial)
ผู้ที่ต้องรอผู้อื่นเห็นพ้อง แบบไก่จ่าฝูงหาอาหารจิกก่อนไก่ตัวอื่นในฝูง (pecking order) มีแนวคิดแบบเป็นลำดับชั้น (hierachical orientation) เขาผู้นั้นต้องถามคนรอบตัวว่าทำสิ่งนี้ดีไหม เขาผู้นั้นมองว่าผู้ชมต้องการอะไรและสร้างผลงานเพื่อหวังเพียงแต่เอาใจผู้ชม
แต่ความคิดแบบขอบเขต (territorial orientation) ศิลปินจะลงมือทำโดยไม่สนคำใคร
เพราะเราอาศัยอยู่ในดินแดนของเรา เป็นพระราชาผู้ที่สามารถควบคุมได้ทุกอย่างได้ในอาณาจักร มีอิสระเสรี
'เราต้องทำเหมือนตัวเรานั้นอยู่คนเดียวบนโลก'
ทั้งสามข้อ
1.กำจัดผีต่อต้าน (Resistance) ด้วยการ Turn Pro
2.ใช้พลัง เรียกเทพมาอยู่ข้างกาย
3.เปลี่ยนความคิดเป็นอาณาจักร
ถ้าทำได้ตามนี้ จะไม่มีอะไรมาหยุดยั้งงานของเราให้ดังระเบิด
ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าบนโลกนี้เหลือเราเพียงคนเดียว เราจะทำอะไร
'May the Force be With you'
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
