28 ธ.ค. 2019 เวลา 04:48 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การเดินทางจาก 1G ถึง 5G
ทุกท่านทราบกันไหมครับว่า…
จุดเริ่มต้นของระบบอินเตอร์เน็ต(internet) มาจาก
"เทคโนโลยีทางการทหาร"
เพื่อให้สามารถมั่นใจได้ว่าเมื่ออยู่ในสภาวะสงคราม ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ก็จะต้องสามารถติดต่อสื่อสารและส่งคำสั่งได้
โดยปี พ.ศ. 2512
องค์กรทางทหารของอเมริกา U.S. Defence Department
เป็นผู้คิดค้นระบบนี้ขึ้นมา และได้ตั้งชื่อให้มันว่า " ARPAnet: Advance Research Project Agency net "
หลังจากนั้น project นี้ก็ได้กระจายไปยังหน่วยงานต่างๆ
รวมถึงสถานศึกษาด้วย
เหล่านักวิชาการก็เหมือนได้ของเล่นใหม่ (ผมนึกถึงความกระหายนั้นออกเลยครับ)
เมื่อเทคโนโลยีล่าสุดของโลกมาอยู่ตรงหน้า ใครมันจะไม่อยากเข้าไปศึกษา ค้นคว้า และพัฒนามันให้ดียิ่งขึ้นกัน
หลังจากนั้น Technology Electronics Mail: E-Mail ก็ได้เปิดเผยตัวให้โลกเห็น
ประเทศไทยได้เริ่มใช้งาน E-Mail เป็นครั้งแรกที่
มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่(Prince of Songkla University:PSU) และสถาบันเอไอที(AIT) ภายใต้โครงการ ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและออสเตรเลีย
หลังจากนั้นปี พ.ศ.2534 ทาง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ก็ได้ยื่นขอที่อยู่อินเตอร์เนต(จด Domain) เป็นที่แรกของแระเทศไทยในชื่อว่า
ในส่วนของโครงข่ายมือถือ( Mobile network ) เรามาลองไล่เรียงยุคของมันกันครับว่า แต่ละยุค มีความเป็นมาอย่างไร
1G 2G 3G 4G 5G…
ก่อนอื่น เจ้าตัว G ที่ห้อยท้ายตัวเลข มันมาจากคำว่า Generation ที่แปลว่ายุคสมัย
ดังนั้น 1G (first generation) ก็คือ อินเตอร์เน็ตในยุคที่ 1 นั่นเอง
ดังนั้นผมสรุปง่ายๆครับว่า แต่ละยุคสมัย (Generation) ต่างกันตรงที่ "ความเร็วในการรับส่งข้อมูล" เมื่อความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพิ่มมากขึ้น ขนาดของข้อมูลหรือคอนเทนท์( Content) ก็จะใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
ยุค 1G มีแค่เสียง แถมคลื่นรบกวน เป็นยุค อนาลอค
ในยุคที่ 1 ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือ โทรศัพท์มือถือรุ่นกระติกน้ำได้รึเปล่าครับ?
https://images.app.goo.gl/zA7JxhGiTyUhUJNe9
https://sites.google.com/a/bumail.net/feefa_1570316065/ge112/week-5?tmpl=%2Fsystem%2Fapp%2Ftemplates%2Fprint%2F&showPrintDialog=1
หมูน้อยอยากบอกว่าในยุคนั้นใครมีโทรศัพท์แบบนี้ คือ "คุณมันโคตรจ๊าบ"
โทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบันที่ว่าแพงๆ ราคาไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของมือถือรุ่นนี้ครับ
ส่วนอันล่างเรียกว่า "ทรงกระดูกหมา"
โดยยุคนี้แค่ท่านเห็นรูปล่างมือถือก็พอจะทราบแล้วล่ะครับว่ามันเอาไว้โทรคุยกันอย่างเดียว แถมคุยกันไม่ได้นานด้วย แบตมันรุ่นเก่า
ส่วนถ้าเป็นโทรศัพท์บ้าน เด็กฟรุ่นนี้ไม่รู้ว่ายังทันองค์การโทรศัพท์แบบที่ใบ้ระบบสวิตชิงชิ่ง(switching) รึเปล่า แบบกลไกสลับสายตู่สัญญาณน่ะครับ เป็นอะนาลอคเต็มตัว
ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด(max speed internet)
อยู่ที่ราว 50 Kbps
* ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมสักเล็กน้อยว่า Kbps มันย่อมาจาก kilo bit per seconds 1 ไบต์ = 8 bit ดังนั้น มันจะประมาณ 6.25 Byte ต่อวินาทีครับ
เอาง่ายๆว่ารูปถ่าย จากกล้องมือถือขนาด สัก 16 ล้านพิกเซล โหลดเอาไว้ตั้งแต่ก่อนออกไปทำงาน กลับมาอาจจะยังโหลดไม่เสร็จ(เพราะเน็ตมันตัดกลางทาง)
ยุค 2G มีเสียง เสียงชัดขึ้น เริ่มเข้าสู่ยุคดิจิตอล
ยุคนี้เวลาที่เราต่ออินเตอร์เน็ต มันจะมีลูกโลกโง่ๆหมุนแล้วก็ดัง แอ่ อี้ แอ่ อี้ แอ่ ซึ่งการที่มันจะติดแต่ละครั้งนี่ บางทีต้มมาม่าเสร็จแล้วมันยังต่อไม่ติดเพราะคู่สายTOTมันเต็ม
https://images.app.goo.gl/1K8Jpnx5z3Y1mC7B9
หลังจากนั้นสักพักจะมีบัตร internet ในไทยน่าจะชื่อ CSLOXIFO ถ้าผมจำไม่ผิด speed internet ในยุคนั้นน่าเศร้าจริงๆครับ
ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด(max speed internet)
อยู่ที่ราวๆ 250 Kbps ประมาณ 31 Byte ต่อวินาที
ยุค 3G มีเสียง สามารถส่งข้อมูลได้บ้างแล้ว text sms ใช้งาน internet
มันอยู่ในช่วงตั้งแต่มือถือโมโตโรล่ารุ่นแรกๆ
จนถึงมือถือ โนเกีย 3310 ที่เราสามารถใช้เป็นอาวุธได้
https://images.app.goo.gl/AEQimzhD2y4gPgpMA
(ไม่ทราบว่าทำไมมันทนได้ขนาดนั้น ตกพื้นแตกเป็นชิ้นๆ ยังสามารถประกอบกลับมาใช้งานได้ปรกติ)
ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด (max speed internet)
อยู่ที่ราวๆ 384 Kbps ประมาณ 31 Byte ต่อวินาที
จริงๆ ยุค 2-3G มันจะคาบเกี่ยวกันหน่อยๆครับ ระหว่างนั้นรูปร่างมือถือและปริมาณข้อมูลที่มันรับส่งได้ก็จะค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ยุคนี้เริ่มมีพวก iphone เข้ามาแล้ว
ยุค 4G “ยุคปัจจุบัน”
เราส่งข้อมูลกันได้มากขึ้นและเร็วขึ้น
ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด (max speed internet)
อยู่ที่ราวๆ 150 Mbps
ยุคถัดไป 5G ความสามารถในการรับส่งข้อมูลจะถูกขยายขึ้นไปอีกครับ
ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุด(max speed internet)
อยู่ที่ราวๆ 6400 Mbps เร็วกว่าเดิมถึง 42 เท่า!!!
ขนาดของข้อมูลม้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลจำต้องพัฒนาตามกันไป
*ความรวดเร็วในการส่งข้อมูลที่ต่างกันส่งผลต่อการพัฒนาในประเทศนั้นๆมหาศาล
ในอนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังจะได้เห็นเทคโนโลยี Virtual reality กันครับ
ต่อไปแทนที่เราจะเห็นแค่ภาพบน video call ถ้าเราใส่แว่น ที่เป็น smart glasses แล้ว เวลาที่เราโทรคุยกับเพื่อน
นอกจากภาพเราจะเห็นบนหน้าจอ คราวนี้มาทั้งตัว เป็นการดึง VR เข้ามาสู่ Real life ฉายไปบนอากาศ ซึ่งจุดนี้ผมคิดว่าจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมสัก 2-3 ชิ้นเพื่อให้การแสดงผลสมจริง
https://images.app.goo.gl/3dzQxzxFo48REGw69
จริงๆปัจจุบันนี้ทำได้บางส่วนแล้วครับ ฉายม่านอิเลคตรอนแล้วยิงภาพไปยังม่านนั้น ภาพก็จะลอยอยู่ตรงหน้า
หรือตัวที่ผมเคยผ่านตามาจะเป็นการปล่อยม่านน้ำที่มีความละเอียดของหยดน้ำสูง กลายเป็นหมอก เพื่อให้เป็นฉากรับภาพ
https://images.app.goo.gl/6wWnYAtFK4CTg5Dt5
ผมจะพาท่านไปไกลกว่านั้นอีกครับ ถ้าความเร็วของ internet อยู่ในจุดที่
"แทบไม่เห็นความต่างระหว่างเวลาจริง"
เลยมันจะเกิดอะไรขึ้น
(การรับส่งข้อมูลไม่มี Delay)
เราลองนึกภาพแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองจากอเมริกา
ทำการ "ผ่าตัด" โดยที่คนไข้อยู่เมืองไทยดูครับ ผมสมมติว่าอยู่ที่ศิริราช
https://www.bbc.com/future/article/20140516-i-operate-on-people-400km-away
แน่นอนเทคโนโลยีทั้งฝั่งผู้รับข้อมูลและฝั่งผู้ส่งข้อมูลจะต้องอยู่ในระดับสูง แต่มันจะเป็นการลงทุนที่โคตรคุ้มค่า
ท่านคิดว่าปริมาณแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาทมือระดับต้นๆของโลกมีกี่คน แล้วคนไข้ที่มีปัญหาซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดกับแพทย์ท่านนั้น ต่อให้มีเงินมากพอ แต่บุญอาจจะไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปอยู่ในคิวคนไข้ผ่าตัดได้
1
มันสำคัญถึงขนาดนี้เชียวละครับ เทคโนโลยีระดับโลก
เราลองมองไปไกลกว่านั้นอีกครับ สิ่งที่ อีลอนมัส กำลังทำถ้ามันทำให้การรับส่งข้อมูลจากอวกาศกลับมายังโลกทำได้รวดเร็วขึ้น
https://images.app.goo.gl/uX1gQs4GPe4ab8AQ7
ส่งข้อมูลได้มากขึ้น ต่อไปจะเป็นยังไง "โลกมันเล็กไปแล้วครับ"
ทุกวันนี้เราต้องดึงทรัพยากรจากโลกมาใช้ในกิจกรรมต่างๆมากมาย
ต่อไปเมื่อเราสำรวจอวกาศได้มากขึ้น เราสามารถนำเอาวัตถุดิบหรือแร่ธาตุจากนอกโลกมาใช้ได้มากขึ้น เทคโนโลยีจะยิ่งก้าวกระโดดไปกว่านี้อีกมาก
ผมขอพูดให้ทุกท่านฟังอีกครั้งว่า "โลกมันเล็กไปแล้ว"
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม อเมริกาถึงได้เริ่มโครงการกองกำลังอวกาศขึ้นมาอย่างจริงจัง
https://images.app.goo.gl/RUvVRFfDMxrGdaEi9
นั่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจีนถึงสร้างดวงอาทิตย์เทียม ที่กำลังจะนำมาใช้งานเร็วๆนี้
https://images.app.goo.gl/2BLpZPwWpF22L9nW8
“โลกมันเล็กไปแล้วจริงๆ”
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและสนับสนุนกระผมเสมอมาครับ
รักทุกท่าน
หมูน้อย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา