Blockdit Logo (Mobile)
โปรตีนอุดตัน
•
1 ม.ค. 2020 เวลา 09:30 • ปรัชญา
ชีวดุลย์ ตอนที่ 7 กำเนิดมนุษย์ จักรวาล และ อาหารของมนุษย์แต่ละยุค ภาค 1
ืที่มาจากพระไตรปิฎก ในหัวข้อพระสูตร เรื่อง อัคคัญญสูตร และจักกวัตติสูตร โดยที่ผู้เขียนจะยกมาบางส่วนและอธิบายตามความเข้าใจของผู้เขียน
กำเนิดจักรวาลและมนุษย์
เมื่อโลกถูกทำลายโดยไฟน้ำและลม จักรวาลโลกมนุษย์สวรรค์และพรมบางชัันก็ถูกทำลายไปด้วยในท้ายที่สุดจะเกิดฝนตก หนักน้ำท่วมไปจนถึงพรหมโลกชั้นที่ 5
จิตส่วนมากก็ไปเกิดเป็นพรหมชั้นที่ 6 ที่เรียกว่าอภัสราพรหมเป็นพรหมที่มีแสงสว่างในตัวสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อาศัยปีติเป็นอาหาร ไม่ต้องกินอะไรเป็นอาหาร
กำเนิดใหม่ มนุษย์รุ่นแรก
จากนั้นน้ำที่ท่วมจนถึงพรหมโลกก็จะค่อยๆลดระดับลงจนแผ่นดินของโลกมนุษย์โผล่ขึ้นมาจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าง้วนดิน
ง้วนดินไม่มีกลิ่นหอมรสหวานสีเหลืองนี้ลอยไปจนถึงชั้นพรหมโลกที่อภัสราพรหมอาศัยอยู่
อภัสราพรหมนี้ก็จะลงมายังแผ่นดินที่เกิดใหม่เพื่อหาที่มาของกลิ่นหอมจากนั้นก็พบง้วนดินจึงลองชิมทำให้ร่างกายค่อยๆหยาบขึ้นเรื่อยๆ
ร่างกายที่หยาบมีความหนักขึ้น ทำให้ไม่สามารถเหาะกลับไปยังพรหมโลกได้ เป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ยุคแรกที่ไม่ต้องมีพ่อแม่อาศัยการเกิดแบบจุติหรือที่เรียกว่าโอปปาติกะ
มนุษย์รุ่นแรกนี้มีอายุขัยหลายล้านปี
กำเนิดข้าวสาลี
หลังจากนั้นมนุษย์ต้นกับซึ่งมีอายุยาวนานหลายล้านปีก็ทยอยกินง้วนดินจนหมด จากนั้นก็หันไปกินกะบิดิน เครือดิน จนสุดท้ายก็กลายเป็นข้าวสาลีในที่สุด
ข้าวสาลีรุ่นแรกนี้มีขนาดใหญ่มาก ประมาณเท่าต้นยางนา เมล็ดข้าวก็ใหญ่ ไม่มีแกลบ สุกได้โดยไม่ต้องหุง เม็ดหนึ่งทานได้4-5 มื้อจึงจะหมด
หลังจากนั้นแสงสว่างในตัวก็หาย เนื่องจากร่างกายหยาบและหนาขึ้น จนโลกเกิดความมืดขึ้น
สุดท้ายจึงเป็นที่มาของการมีกำเนิดพระอาทิตย์พระจันทร์และดวงดาวต่างๆเพื่อให้แสงสว่างแทน
เป็นที่มาของจักรวาลและดวงดาวต่าง ๆ
กำเนิดเพศและการสร้างบ้านเรือน
ข้าวสาลีในยุคต้นกัลป์นี้ มีขนาดใหญ่และกินได้เลยไม่ต้องหุง หาได้ง่ายทั่วไป หลังจากทานข้าวสาลีไปนานๆร่างกายก็หยาบขึ้นมาก
ก็เกิดของเสียสะสมในร่างกายมาก เป็นเหตุที่ทำให้เกิดทวารหนักและทวารเบาเพื่อขับถ่ายของเสีย จากนั้นจึงบังเกิดอวัยวะเพศขึ้นมาเป็นที่มาของเพศชายและเพศหญิง
และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้องสร้างบ้านเรือนขึ้นมาในเวลาต่อมาเพื่อไม่ให้เกิดการอุจาดตาเวลามีการร่วมรักกัน
มนุษย์ในต้นกลับนี้ ที่ทานข้าวสาลีเป็นอาหารหลักมีอายุเฉลี่ยหลักล้านถึงหลักแสนปี
อกุศลกรรมมากขึ้น ความโลภความโกรธความหลงมากขึ้น ความชั่วร้ายมากขึ้น
พอสร้างบ้านเรือนขึ้นมาแล้วก็เกิดอกุศลกรรมมากขึ้น มีการกักตุนข้าวสาลีไว้ในบ้านเพราะขี้เกียจไปหา
ทำให้เกิดการเคลื่อนไปของสารอาหาร ต้นข้าวสาลีจึงมีขนาดเล็กลงหายาก มีแกลบมากขึ้นเกิดการแก่งแย่งข้าวสาลีกันขึ้น สุดท้ายก็เลยแก้ปัญหาโดยการตั้งผู้ปกครองขึ้นมา
เป็นที่มาของระบบปกครองแรกสุดของมนุษยชาติ ก็คือระบบกษัตริย์นั่นเอง พอมีกษัตริย์ก็เลยมีการแบ่งอาณาเขตกันแบ่งเป็นเมืองเป็นประเทศขึ้น
กำเนิดสัตว์
หลังจากที่อกุศลกรรมเพิ่มขึ้นไปถึงจุดหนึ่งพวกสัตว์ก็ทยอยมาเกิดเป็นแบบโอปปาติกะเช่นกัน ตัดชุดแรกเลยก็คือช้างและม้า
จากนั้นพวกสัตว์ก็ทยอยมาเกิดมากขึ้น แต่หลังจากนั้นก็จะอาศัยพ่อและแม่ในการขยายพันธุ์ต่อไปไม่ได้มาจุติอีก
เหมือนคำถามโลกแตกที่ถามว่า ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน คำตอบจากพระสูตรก็คือไก่ ครับ มาจุติเป็นตัวไก่เลย แล้วค่อยออกไข่มาทีหลัง
สุดท้ายพอมนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ไปนานๆ มีสัตว์บางตัวตายลง มนุษย์บางคนก็ทดลองเอาเนื้อสัตว์มากิน
ปรากฏว่าเกิดการติดใจในรสชาติขึ้น สุดท้ายจึงเกิดการฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้อเป็นอาหารเกิดขึ้น
ในยุคที่มีสัตว์นั้นเองการเคลื่อนที่ของสารอาหารจะเกิดขึ้นมาก ข้าวสาลีก็จะมีขนาดเล็กลงอีก แกลบหนาขึ้น และต้องปลูกเอง
จากนั้นก็เกิดการกลายพันธุ์มากมาย จึงเป็นที่มาของพืชผักผลไม้ชนิดต่างๆมากมาย
สัตว์ก็เกิดการกลายพันธุ์ด้วย มีสัตว์ชนิดใหม่ ๆเกิดขึ้นมากมาย
ติดใจในรสชาติของเนื้อสัตว์
หลังจากที่มนุษย์ทานเนื้อสัตว์ไปได้ไม่นานก็เกิดความติดใจในรสชาติของเนื้อสัตว์ต่างๆจึงได้มีการเอาเนื้อสัตว์ไปแลกกับข้าวผักผลไม้ขึ้น
ทำให้เกิดระบบการแลกเปลี่ยนสินค้าและเป็นจุดเริ่มต้นของระบบเงินตราในที่สุด
หลังจากที่มนุษย์เริ่มฆ่าสัตว์และทานเนื้อสัตว์กันมากขึ้นอย่างแพร่หลายอายุเฉลี่ยจึงลดลงอย่างมากจากหลักล้านปี จนถึงปัจจุบันเหลือไม่ถึง 100 ปี
ยุคสิ้นกัลป์ ความชั่วร้ายพัฒนาการจนถึงขั้นสูงสุด
หลังจากที่คนเลี้ยงสัตว์ฆ่าสัตว์เพื่อกินเนื้อสัตว์กันมากขึ้น สิ่งแวดล้อมก็จะแย่ลงเรื่อยๆพวกข้าวผักผลไม้ก็จะหากินยากขึ้นเรื่อยๆ จนในท้ายที่สุดต้องทานเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก
1
ทำให้อายุขัยเฉลี่ยต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงยุคสิ้นกัลป์ พวกข้าวผักผลไม้ก็จะหายากมากขึ้นจนไม่อาจจะเลี้ยงสัตว์ได้ และพวกสัตว์ก็จะแทบสูญพันธุ์ไปจนหมด เพราะไม่อาจทนสภาวะแวดล้อมที่เลวร้ายนี้ได้
ยุคมิคสัญญี ยุคกินเนื้อมนุษย์ด้วยกัน
สุดท้ายมนุษย์ในยุคนี้ก็จะหันมากินกันเอง กินเนื้อมนุษย์ด้วยกัน เพราะไม่สามารถหาเนื้อสัตว์มากินได้ อายุขัยเฉลี่ยก็จะเหลือแค่ 10 ปี เป็นที่มาของคำว่า มิคสัญญี
โดยมิคแปลว่าเนื้อ สัญญีแปลว่าสัญญาคือความจำ แต่ว่าอยากกินแต่เนื้อ เหมือนซอมบี้ในหนังนั่นเอง
สุดท้ายก็จะมีมนุษย์กลุ่มหนึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ ถึงคติไม่ทานเนื้อมนุษย์ด้วยกันพยายามหาทานแต่ข้าวผักผลไม้
สร้างความดีละเว้นอกุศลกรรมต่างๆ อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกลับไปสู่ยุคต้นกัลป์ เป็นล้านปี เป็นวัฏจักรแบบนี้ไปเรื่อยๆ
อย่าลืมติดตามอ่านต่อภาค 2 นะครับ จะอธิบายถึงการเคลื่อนไปของสารอาหาร ไทม์ไลน์ของอาหารของมนุษย์ในแต่ละยุค มาสรุปให้ฟัง
อ้างอิง
http://dou_beta.tripod.com/GL101_04_th.html

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา