30 ธ.ค. 2019 เวลา 16:11 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เมื่อระดับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศที่เพิ่มขึ้นทำให้ข้าวมีคุณค่าทางอาหารน้อยลง!!! วิกฤตของชาวนาในศตวรรษนี้
หากช่วงนี้หากฟังข่าวเราคงจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับประเด็นที่รัฐบาลออกมาเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังเตรียมรับมือกับภัยแล้งที่อาจรุนแรงสุดในรอบ 60 ปีทำให้ทุกคนต่างต้องเฝ้าระวังและเตรียมมาตรการรับมือกันยกใหญ่ หลายคนที่ติดตามข่าวก็อาจทราบมาบ้างแล้วว่า สาเหตุที่ทำให้ปีนี้แล้งมาก นอกจากสาเหตุที่ปีนี้ครบรอบวัฎจักรเอลนิโญ่แล้ว ( El Niño) ยังมีอีกประเด็นที่ถูกกล่าวถึงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นคือ "ภาวะสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง (Climate change) " จากปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นศตวรรษนี้ นอกจากปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่รุนแรงและแปรปรวนมากขึ้น งานวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่าระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มข้นขึ้นจะเป็นตัวการที่ทำให้พืชอาหารหลักของชาวโลกอย่างข้าวและธัญพืชหลายชนิดมีคุณค่าทางโภชนาการลดลง โดยข้าวและพืชที่เป็นอาหารอื่น ๆ จะสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุสำคัญไปในปริมาณมาก เนื่องจากภาวะผิดปกติในการสังเคราะห์แสง ซึ่งสร้างความวิตกอย่างมากต่อความมั่นคงทางอาหารของประชากรโลก โดยเฉพาะข้าวที่เป็นเป็นแหล่งอาหารหลักของผู้คนมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลกซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศที่มี GDP ต่ำถึงปานกลาง หากข้าวมีคุณค่าทางอาหารลดลงมันจะส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและปัญหาสุขภาพในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปัญหาระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เข้มข้นขึ้นนอกจากจะส่งผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศแล้ว ยังอาจส่งผลต่อภาคเกษตรที่เลี้ยงดูประชากรโลกอยางหลีกเลี่ยงไม่ได้ Cr.https://www.visualcapitalist.com/impact-on-climate-change-and-land-use/
จากงานวิจัยล่าสุดของคณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติจากประเทศจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลียและสหรัฐฯ ได้ร่วมกันตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสาร Science Advances โดยชี้ว่าระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศจะส่งผลให้ระดับสารอาหารหลายชนิดลงลดอย่างมีนัยสำคัญจนเป็นที่น่ากังวล โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองปลูกข้าว 18 สายพันธุ์ทั้งกลุ่มสายพันธุ์อินดิก้า เจปอนนิก้า และชวานิก้าในแปลงทดลองของประเทศจีนเเละญี่ปุ่น ทีมงานได้ปั๊มเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มลงบนต้นข้าวที่ปลูก เพื่อสร้างสภาพอากาศที่เลียนแบบคุณภาพอากาศในอนาคตภายในสิ้นศตวรรษนี้ ซึ่งพวกเขาปั๊มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้มข้นสูงถึง 568-590 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ที่มากกว่าระดับก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์เฉลี่ยในระดับปัจจุบันที่ประมาณ 410 ส่วนในล้านส่วน ลงไปในแปลงทดลองเพื่อจำลองสภาพภูมิอากาศดังกล่าว
แปลงทดลองปลูกข้าวรูปแปดเหลี่ยมในการทดลองนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองที่เริ่มต้นโดยคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยโตเกียวและออกแบบมาเพื่อปลูกข้าวภายใต้สภาพบรรยากาศที่มีระดับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แตกต่างกัน Tsukuba, Ibaraki Prefecture, Japan. Credit: Toshihiro Jasegawa, National Agriculture and Food Research Organization of Japan
จากการทดลอลงพบว่า ผลการวิเคราะห์ระดับธาตุอาหารที่สำคัญในข้าวที่ปลูกในสภาพที่มีระดับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์แตกต่างกันเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม จะมีระดับโปรตีนรวมลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ธาตุเหล็กลดลง 8 เปอร์เซ็นต์และธาตุสังกะสี 5 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยยังพบว่าวิตามินบางชนิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญบางชนิดลดลงสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์โดยเฉพาะวิตามินในกลุ่มวิตามินบี 1, บี 2, บี 5, บี 9 และโพเลตที่จำเป็นต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์
กราฟฟิคแสดงการลดลงของสารอาหารเฉพาะที่พบในข้าวตามผลการวิจัยที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 ในวารสาร Science Advances. Credit: Elizar Mercado, University of Washington School of Public Health.
อย่างไรก็ตามวิตามินอีกลับเป็นสารอาหารเพียงชนิดเดียวที่พบว่าเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายใต้ CO2 ที่สูง นักวิทยาศาสตร์กลุ่มวิจัยนี้กล่าวเพิ่มเติมว่าโดยทั่วไปแล้วเราทราบกันว่าระดับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้นจะเร่งให้พืชเติบโตดีขึ้นเนื่องจากพวกมันมีวัตถุดิบที่ใช้ในการการสังเคราะห์แสงอย่างเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นนั่นเอง ทำให้มันถูกเร่งอัตราการสังเคราะห์แสงที่มากเกินไป เกินกว่าที่ระบบเผาผลาญของพืชจะรับไหว ทำให้มีระดับคาร์บอนสะสมในเมล็ดข้าวมาก (ผลิตแป้งมากขึ้นนั่นเอง) ข้าวจึงต้องดึงเอาแร่ธาตุและสารอาหารปริมาณสูงจากดินขึ้นมาใช้เพื่อเร่งการสังเคราะห์แสงทำให้ข้าวลดการสะสมธาตุอาหารและคุณค่าทางอาหารในเมล็ดอย่างมาก
ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นนอกจากจะทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงแล้ว ยังเร่งให้ข้าวสะสมสารพิษอย่างสารหนูเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากงานวิจัยที่ทดลองโดยนักวิทยาศาสตร์จากกลุ่มวิจัยมหาลัย Stanford Cr. https://news.stanford.edu/2019/11/01/rice-yields-plummet-future-climate-grain-arsenic-rises/?fbclid=IwAR3fF-hNrfRbMtK1AfmtougFohIJOfIEmjTEgpHaous-EyB6us8Qu-DIRC4
ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือทีมวิจัยอื่นจากมหาลัย Stanford สหรัฐอเมริกาพบว่า หากปลูกข้าวในพื้นที่ที่มีปริมาณของสารหนูสะสมอยู่ในดินสูง กาลปลูกในสภาพที่มีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับที่คาดการณ์ในปี ค.ศ.2100 จะเร่งให้ข้าวดูดซึมสารหนูมากขึ้นถึงเกือบสองเท่าและทำให้ปริมาณเมล็ดข้าวต่อต้นลดลง 40% เรียกได้ว่าซวยซ้ำซวยซ้อนเลยทีเดียว เพราะนอกจากคุณค่าทางอาหารจะลดลงแล้วยังมีสารหนูตกค้างเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ข้าวจัดเป็นแหล่งอาหารหลักของผู้คนกว่าสองพันล้านคนทั่วโลก การที่ระดับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ข้าวมีคุณค่าทางอาหารน้อยลง และอาจทำให้ผู้คนมากถึง 138 ล้านถึง 1.4 ล้านคนเสี่ยงต่อภาวะทุพโภชนาการในสิ้นศตวรรษนี้ Cr.https://www.pinterest.com/pin/518125132115977787/
รายงานผลการทดลองนี้ชี้ว่าสภาพอากาศของโลกที่อุ่นขึ้นเเละภัยภิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากภาวะโลกร้อนแจะลดผลผลิตทางอาหารลง โดยเฉพาะในประเทศเขตร้อนในเอเชียที่มีประชากรราวๆ 600 ล้านคนซึ่งพึ่งพึงข้าวเป็นอาหารหลักในประเทศอย่างอินโดนีเซีย กัมพูชา เมียนม่า บังคลาเทศ ลาวแเเละชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นอกจากข้าวแล้วงานวิจัยก่อนหน้านี้ต่างบ่งชี้ไปทิศทางเดียวกันว่าข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วชนิดต่างๆ รวมทั้งถั่วเหลือง ที่ปลูกในสภาพอากาศที่มีระดับเเก๊สคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นจะทำให้พวกมันมีระดับโปรตีนและแร่ธาตุสำคัญลดลงเช่นเดียวกับที่เกิดในข้าว ข้อมูลนี้อาจบ่งชี้ว่าในศตวรรษหน้าเราอาจจะเสี่ยงเผชิญกับภาวะทุพโภชนาการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดย Sam Myers นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวเสริมว่า "ผลกระทบนี้เป็นหนึ่งในผลกระทบหลายอย่างของภาวะโลกร้อนที่เราไม่คาดคิดกันมาก่อน ว่าเเก๊สเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ระดับคุณค่าทางโภชนาการของพืชอาหารลดลงและคาดว่ามันจะสร้างผลกระทบที่สร้างความแปลกใจอีกมาก" เนื่องจากกิจกรรมของมนุษย์ที่ทำลายสภาพแวดล้อมและการบริโภคพลังงานอย่างบ้าคลั่งจะเร่งให้เราเห็นปรากฏการณ์นี้ในวงกว้างมากขึ้น เมื่อวันนั้นมาถึงมันอาจสายเกินกว่าที่จะแก้ไข และคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือประชากรที่ยากจนที่พึงพิ่งรายได้และปัจจัยยังชีพจากธัญพืชนั่นเอง
นอกจากคุณค่าทางอาหารที่ลดลงในธัญพืชหลายชนิดทั่วโลกจากระดับCO2 ที่สูงขึ้นแล้ว สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนจากภาวะโลกร้อนอาจจะทำให้ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้นเกินค่าของชีพที่ประชากรยากจนในหลายภูมิภาคจะรับไหวในอนาคตอันใกล้นี้ Cr. https://visual.ly/community/infographic/food/rising-food-prices-and-their-impact-hungry-people-around-world
โฆษณา