31 ธ.ค. 2019 เวลา 07:49 • ดนตรี เพลง
"The Final Countdown" ร็อคสุดล้ำเขย่าโลกจากสวีเดน ของ Europe
ในวันสุดท้ายของการออกอากาศทางช่อง ททบ 5 ของ "บันเทิงคดี" รายการทีวีขวัญใจคนฟังเพลงสากล ที่ดำเนินรายการโดยคุณมาโนช พุฒตาล เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2532 นั้น
เพลงที่ถูกเลือกให้เปิดรายการในวันอำลาวันนั้น คือเพลง ๆ นี้
"The Final Countdown" เพลงจากอัลบั้มชื่อเดียวกันของวงร็อคจากสวีเดนนามว่า Europe ซึ่งออกมาในปีค.ศ.1986 หรือปีพ.ศ. 2529 ของบ้านเรา
Europe เป็นหนึ่งในวงดนตรีจากประเทศสวีเดนเพียงไม่กี่วงที่สามารถก้าวขึ้นมาโด่งดังได้ในระดับโลกได้ นอกเหนือจากวงดังอย่าง ABBA, Roxette และ Ace of Base
เพลงนี้สื่อถึงการสิ้นสุดของบางสิ่งบางอย่าง เพื่อการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ด้วยเสียงของเครื่องเป่าสังเคราะห์ ซึ่งสร้างสรรค์เป็นท่วงทำนองอันสง่างาม และปลุกเร้าอารมณ์ ได้สร้างเอกลักษณ์สำคัญให้กับเพลงร็อคทรงพลังเพลงนี้ได้เป็นที่จดจำ
และเมื่อผสมผสานกับเสียงร้องในโทนสูงแต่ฟังนุ่มนวลของ Joey Tempest กับจังหวะจะโคนอันหนักแน่น ที่เสริมพลังในการขับเคลื่อน ซึ่งก็ได้ทำให้เพลงนี้เข้าถึงใจของผู้ฟังจำนวนมาก และถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลาย ๆ วงการในเวลาต่อมา
เนื้อหาในคำร้องของเพลงนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงชื่อ "Space Oddity" ผลงานเพลงสุดล้ำจากปลายยุค 60s ของ David Bowie ซึ่งมีอิทธิพลกับงานเพลงของอีกหลาย ๆ ศิลปินชื่อดังในเวลาต่อมา
เพลง "The Final Countdown" จึงเป็นเพลงร็อคที่โดดเด่นแตกต่างจากเพลงร็อคของวงดนตรีอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาในยุคเดียวกัน
ในครั้งแรก พวกเขาแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อจะใช้เป็นเพลงเปิดการแสดงบนเวที และพวกก็เขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะได้รับความนิยมมากมายถึงเพียงนี้
พวกเขาจึงเลือกเพลงที่ชื่อ "Rock the Night" เพื่อตัดเป็นแผ่นซิงเกิ้ล นอกเหนือจากการขายเป็นแผ่นเสียงแบบลองเพลย์ ซึ่งจะบรรจุเพลงครบทุกเพลงที่มีอยู่ในอัลบั้มไว้ทั้งหมด
ในยุคนั้น เพลงที่ถูกเลือกให้ทำเป็นแผ่นซิงเกิ้ล คือเพลงที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นเพลงฮิต และมักจะใช้เพื่อการโปรโมทอัลบั้มนั้น ๆ ด้วย แต่ทางต้นสังกัดของวงกลับไม่เห็นด้วย จนสุดท้ายทางวงก็ต้องยอมตามนั้น คือตัดเพลง "The Final Countdown" เป็นแผ่นซิงเกิ้ลแทน ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่งยวด
เพราะเพลงนี้สามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งใน 25 ประเทศในช่วงเวลานั้น ที่สำคัญคือสามารถขึ้นถึงอันดับหนึ่งที่อังกฤษ และขึ้นไปได้สูงสุดที่อันดับ 8 บนชาร์ท Billboard Hot 100 ของอเมริกา ซึ่งผมถือว่าเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว สำหรับวงร็อคที่ไม่ได้มาจากทั้งอังกฤษและอเมริกา
ผมลืมเล่าต่อว่า หลังจากนั้นไม่นาน รายการบันเทิงคดีได้กลับมาออกอากาศอีกครั้งทางช่อง 11 ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2533 จนถึง ปีพ.ศ. 2539
ใครที่ผ่านช่วงเวลาเดียวกันนั้นมาเหมือนผม การฟังเพลงนี้อีกครั้งคงช่วยทำให้นึกถีงเรื่องราว ผู้คน หรือบรรยากาศในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนั้นแล้ว ในบางครั้งเมื่อต้องพบเจอเรื่องแย่ ๆ ในชีวิต การฟังและร้องเพลงนี้ตามไปด้วย ก็มักจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ อาจเป็นเพราะเพลงนี้ทำให้ผมตระหนักได้ว่า เมื่อสิ้นสุดการนับถอยหลังลงเมื่อใด จะมีสิ่งดี ๆ สิ่งใหม่ เกิดขึ้นตามมาเสมอ...
1
"It's the final countdown..."
.
โฆษณา