1 ม.ค. 2020 เวลา 15:00 • ความคิดเห็น
ปลายปี พศ.2126
สมเด็จพระนเรศวร พระชนมายุได้28พรรษา ขณะยกทัพจะไปกรุงหงสาวดี ตามบัญชาของพระเจ้านันทบุเรง เพื่อร่วมปราบพระเจ้าอังวะที่คิดกบฎ พระองค์ได้เผชิญ ปาฎิหาริย์ของพระบรมสารีริกธาตุครั้งแรก พงศาวดาร ฉบับพระจักรพรรดิพงศ์(จาด)กล่าวว่า
"ครั้น ณ วันอาทิตย์ แรม6ค่ำ เดือน3ปีฉลู สัปตศก เพลา11ทุ่ม9บาท กอปรด้วยเพรชฤกษ์ เสด็จทรงพระคชาธารพร้อมด้วย พยุหแสนยากร ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุ เสด็จปาฎิหาริย์แต่บูรพาทิศ ผ่านคชาธารไป โดยปัจฉิมทิศเท่าผลมะพร้าวปอก จึงเสด็จยาตราทัพหลวง ออกทางประตูชัยแสน ฝนตกห่าใหญ่ แผ่นดินไหวเป็นอัศจรรย์
ครั้นถึงเมืองแครง ทรงแวะนมัสการ มหาเถรคันฉ่อง ทรงทราบจากพระยาเกียรติ&พระยารามว่า ทางพม่าคิดไม่ซื่อวางแผนกำจัดพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรจึงทำพิธี ประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง ทำพิธีหลั่งอุทกธารา วันที่ 14เม.ย 2127 ประกาศไม่ขึ้นต่อกรุงหงสาวดี พร้อมกอบกู้เอกราชคืน หลังเสียแก่พม่าในปีพศ.2112 ทรงนิมนต์มหาเถรคันฉ่อง และพระยาเกียรติ-พระยาราม และชาวเมืองแครง เดินทางมากรุงศรีอยุธยาด้วย
ขณะกำลังเสด็จออกจากเมืองแครงนั้นก็เผชิญ ปาฎิหาริย์พระบรมสารีริกธาตุเป็นครั้งที่2 ประชุมพงศาวดารภาคที่ 64กล่าวว่า
"ครั้นวันศุกร์ แรม6ค่ำ เดือน3 เพลา11ทุ่ม ให้เอาพระคชาธาร เทียบเกย ทอดพระเนตรเห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จปาฎิหารย์ มาแต่ประจิมทิศ ผ่านพระคชาธารไปทางบูรพาทิศ จึงพากันเดินทางออกจากเมืองเพร้อม ด้วยพระมหาเถรคันฉ่อง พระยาเกียรติ-พระยาราม แลญาติโยม"
เมื่อพระเจ้านันทบุเรงทราบว่า พระนเรศวรประกาศอิสระภาพที่เมืองแครงแลเทครัวมอญ กลับกรุงศรีอยุธยาไป จึงส่งสุรกรรมาเป็นทัพหน้า ตามกันทันที่แม่น้ำสะโตง แต่ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวร&ครอบครัวเมืองแครงข้าม แม่น้ำสะโตงไปแล้ว สุรกรรมาจึงระดมยิงด้วยปืนไฟโปรตุเกส แต่แม่น้ำสะโตงนั้นกว้าง เกินวิถีกระสุน สมเด็จพระนเรศวรทอดพระเนตรเห็นสุรกรรมาใส่เสื้อสีแดงนั่งบนคอช้าง จึงทรงพระแสงปืนนกสับ 9คืบถูกสุรกรรมาตายซบคา คอช้าง กองทัพพม่าเสียขวัญ จึงพากันล่าถอยไป พระแสงปืนกระบอกนั้นจึงชื่อว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง"
ขณะที่สมเด็จพระนเศวร ประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง กองทัพพม่ามีนันทสูราชสังครำเป็นแม่ทัพ ยึดเมืองกำแพงเพรชอยู่ สมเด็จพระนเรศวรจึงเกณฑ์กองทัพ หัวเมืองฝ่ายเหนือเข้าขับไล่พม่าจนแตกพ่ายไป แต่ตอนรวบกำลังที่หัวเมืองฝ่ายเหนือ พระยาสวรรคโลก&พระชาพิชัยไม่ส่งกองทัพเข้าร่วม เพราะเห็นว่าสมเด็จพระนเรศวร มีกำลังน้อยกว่าพระเจ้านันทบุเรง
หลังขับไล่กองทัพพม่าไปแล้ว พระยาทั้ง2คนกลัวมีความผิดฐานกบฏ จึงรวมตัวกันที่สวรรคโลก กรมเมืองคนใดไม่เข้าร่วมก็จับขัง สมเด็จพระนเรศวรทรงยกกองทัพล้อมเมือง สวรรคโลกเอาไว้ แล้วแจ้งว่าถ้า2พระยาออกมาสารภาพผิด จะยกโทษให้ แต่พระยาทั้ง2ตัดหัวกรมเมือง ที่ไม่เห็นด้วยโยนข้ามกำแพงมาแทนคำตอบ สมเด็จพระนเรศวรไม่สามารถตีหักได้เพราะกำแพงศิลาแลงแข็งแกร่ง แต่ยุคศรีสัชนาลัย จึงปลูกหอรบสูงเท่ากำแพง แล้วระดมยิง เผาประตูเมือง แล้วจับ2พระยาประหารชีวิต
หลังจากปราบกบฎเสร็จแล้ว พระองค์ได้เผชิญปาฎิหาริย์พระบรมธาตุเป็นครั้งที่3
"ถึง ณ วันพฤหัสบดี แรม6ค่ำ เดือน8 เพลา11ทุ่ม8บาท ได้เรียกช้างพระที่นั่งประทับเกย เห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ ปาฎิหาริย์มาแต่ตะวันตก ผ่านช้างพระที่นั่งไปทางตะวันออก เท่ามะพร้าวปอก ก็ยกทัพหลวงกลับผ่านทางน้ำเข้าสู่เมืองพิษณุโลก
1
พระบรมธาตุที่แสดงปาฎิหารย์ ครั้งนั้นเป็นส่วนที่อยู่ในพระปรางวัด พระศรีรัตมหาธาตุ (เมืองสวรรคโลก ) ตำนานสวรรคโลกกล่าวว่า
"พระนเรศวรเสด็จปราบกบฎ เมืองสรรคโลกเสร็จสิ้น ก็อฐิษฐานว่าถ้าพระบรมสารีริกธาตุมีจริง&พระองค์คือผู้กู้ชาติแล้ว ขอให้แสดงปาฎิหารย์ให้ทราบโดยทั่วกัน
พลันนั้นเกิดแสงสว่างเจิดจ้าทั่วองค์มหาเจดีย์ สีประหลาด ลอยจากองค์มหาเจดีย์เท่าผลมะพร้าวปอก แล้วทำทักษิณาวัตร ลอยขึ้นเหนือยอดมหาเจดีย์ "
1
ในพระราชพงศวดาร กรุงเก่าฉบับหลวงประเสริฐได้บันทึกถึงการเผชิญปาฎิหารย์ ของพระบรมสารีริกธาตุ ของพระนเรศครั้งที่4ไว้ว่า
"ณ วันพุธ ขึ้น12ค่ำ เดือนยี่ 2นาฬิกา 9บาท เสด็จพระยุหยาตราทางชลมารค ใกล้รุ่งวันที่12ค่ำนั้น เห็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จ ถคงวันจันทร์ แรม2ค่ำ เดือนยี่ 5นาฬิกา3บาท เสด็จทรงช้างต้นพระยาไชยนุภาพ เข้ารบกับพระมหาอุปราชที่หนองสาหร่าย
2
พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันนุมาศ (เจิม)กล่าวว่า
"เพลา10ทุ่ม สมเด็จพระนเรศวรทรงสุบินนิมิตร ว่าน้ำป่าท่วมมาทาง ประจิมทิศ พบพญากุมภีร์จึงเข้าโรมรัน&ฆ่าตาย โหรทำนายว่า จะมีชัยเพราะยุทธหัตถี และมีชัยเหนือข้าศึกศัตรู"
1
"สมเด็จพระนเรศวรทรงปิติยิ่ง ทรงเครื่องราชรณยุทธเสร็จ ทรงทอดพระเนตรเห็น พระบรมสารีริกธาตุแสดงปาฎิหารย์ขนาดเท่าผลส้มเกลี้ยง ลอยมาแต่ทักษิณาทิศ เวียนทักษิณาวัฎแล้วสู่อุดรทิศ จึงยกพระหัตถ์ ตั้งจิตอฐิษฐานให้มีชัยเหนือข้าศึก โหรจึงให้ประโคมแตรสังข์ ดุริยางค์พร้อมกัน"
หลังจากนั้นก็ทรงทำยุทธหัตถีมีชัยต่อพระมหาอุปราชา ทำให้พระเกียรติเลื่องลือไกล พม่าจึงหยุดรุกรานไทยไป150ปี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา