3 ม.ค. 2020 เวลา 07:55 • บันเทิง
🎦 เมื่อหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวสมัคร Youtube Premium แบบ Family Package ผมเลยได้ใช้แบบฟรีๆ
เราได้ยินเรื่อง Youtube Premium มาพอสมควรก่อนหน้านี้ มาวันนี้ผมมีโอกาสได้ใช้ก็เอามาแบ่งปันเท่าที่คิดว่ามีความแตกต่างกับ Version ปกติก็แล้วกันนะครับ
สำหรับค่าบริการรายเดือนระบบ Android ตามนี้ครับ
ค่าบริการ Android
ส่วน iphone ไม่เท่ากันตามนี้ครับ
ค่าบริการ iphone
ค่าบริการ iphone
บริการ Premium ที่เราจะได้รับก็ตามนี้ครับ สามารถเข้าไปดูตรง "ตั้งค่า" ใน Youtube app ปกติได้เลย
มี Q&A เยอะพอสมควร ลองเลื่อนๆกดๆดูนะครับ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
บริการระดับ Premium
ผมก็แค่ส่ง Email ที่ใช้ Log in Google ให้ผู้สมัคร (คนจ่ายเงิน) เพิ่มรายชื่อ Email ไปได้อีก 5 คน รวมเป็น 6 คน ทาง Youtube ก็จะส่ง Email ให้เรากดยืนยัน พอกดแล้วก็เข้าสู่บริการระดับ Premium กันเลยครับ
😸 งานนี้ผมไม่ต้องแชร์เงิน ใช้ฟรีสบายไปครับ อิๆ
1
Youtube
💡 หน้า Home ของ Youtube ต่างไปจากเดิม ด้านบนมีคำว่า Premium และถัดมาจะมี 2 Tap คือ
- Music app และ
- Originals
Youtube
🔆 ขอเริ่มที่ Originals กันก่อน กดเข้าไปเจอแบบนี้
Youtube
เลื่อนลงมาจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ตามนี้
หมวดหมู่
แต่ละหมวดเลื่อนซ้ายขวาดูรายการได้ ผมลองเลื่อนดูนิดหน่อยก็ไม่เยอะมาก ความเห็นผมหนังกับซีรีส์ใน Netflix จำนวนและความหลากหลายดีกว่าเยอะ และที่สำคัญใน Youtube Premium ที่ผมลองเปิดดู 2 เรื่อง ไม่พบว่ามี Sub หรือเสียงไทย เช่น
The age of A.I. ที่มี Robert Downey Jr. เป็น Host ของ Series มีแต่อังกฤษ
Youtube Premium
หรือเรื่องนี้ Origin มี Sub หลายภาษาแต่ไม่มีไทย
ไม่มี Sub ไทย
🔆 ไปต่อกันที่ Music app ดีกว่าครับ เมื่อกดเข้าไปแล้วก็จะพบกับสิ่งนี้
ต้องลง app ของเค้าก่อนครับ.. จัดไป
Youtube Music
เสร็จเรียบร้อย เข้าไปดูต่อกันเลย
ลงชื่อเข้าใช้.. แล้วไปต่อครับ
Youtube Music
ลองเปิดฟังเสียงใช้ได้ เดี๋ยวค่อยไปดูเรื่องตั้งค่า ผมลองเปิดทั้งแบบฟังแต่เสียง "เพลง" อย่างเดียว และดู "วีดีโอ" ด้วย ก็ทำงานได้ดีตามที่ควรจะเป็น ปิดล้อคหน้าจอก็ยังสามารถฟังเพลงได้ ไม่เหมือน Version ฟรี หากปิดหน้าจอเสียงกับภาพก็หายไปด้วย
แต่ Version ฟรีก็มีวิธีฟังอยู่ดีหากต้องการดับหน้าจอ คือเข้า Youtube ทาง Browser ไม่ว่าจะเป็น Chrome หรือ Safari
ส่วน Version Premium เปิดปิดที่ app ได้เลย หากฟังเพลงอย่างเดียวก็ประหยัด Net มือถือ แต่ถ้าใช้ Wifi ก็ตามสะดวกเลยครับ
ชีวิตเลือกได้
หรือหากต้องการประหยัด Net สามารถ Load กับ Wifi ตั้ง Playlist ที่ชอบได้เลย โดยจะกำหนดเป็นสาธารณะหรือส่วนตัวก็ได้ สะดวกมากๆ เท่านี้ก็สามารถเปิดฟังที่ไหนก็ได้ไม่ต้องใช้ Net
หากฟังแบบ Streaming สดๆ ต้องมี Net เท่านั้น หากฟังซ้ำๆก็เปลือง Net เรื่องนี้ต้องดู Package เราด้วยนะครับ ผมมี Net ให้ใช้ 32gb ต่อเดือนก็ไม่จำเป็นต้อง Load ลงเครื่อง อีกอย่างฟังเพลงน้อยกว่าดูรีวิวรถหรือกล้องด้วยครับ
ผมทดลองเข้าไปตั้งค่าคุณภาพเสียง แล้วลอง Load ลงเครื่อง 2 เพลง โดยใช้เพลงเดียวกันขนาดไฟล์ไม่เท่ากัน โดยคุณภาพระดับ "ปกติ" ไฟล์จะมีขนาดประมาณ 3mb
ส่วนคุณภาพ "สูง" ไฟล์จะมีขนาดประมาณ 5mb
ทั้ง 2 เพลงเลือก Load มาเฉพาะเสียงเท่านั้น ตัวอย่างเพลง "Texas Sun" กดตรงแถวจอ Vdo จะมี "เพลง" กับ "วีดีโอ" ขึ้นมาเราก็เลือกเพลง เสร็จแล้วกดตรงจุดสามจุด เลือก "ดาวน์โหลด"
Load เพลงลงมือถือดู Offline
ขนาดไฟล์ทั้ง 2 เพลง โดยเลือกคุณภาพเสียงต่างกัน มีความแตกต่างกัน
ขนาดไฟล์ตามคุณภาพเสียง
การเข้าไปตั้งค่าต่างๆ ที่หน้า "Home" กดตรง "Logo" ของเราตรงมุมขวาบน จากนั้นเลือกตั้งค่า
้เราก็เลือกตั้งค่าให้เหมาะกับที่เราชอบได้เลย
การตั้งค่า
มี Equalizer ให้ด้วย เลือก Preset หรือ Custom เองก็ได้
ผมเลือก Jazz
🔆 สรุปการใช้งานตามทัศนะของ @45
1.ชอบตรงไม่มีโฆษณามากวนให้รำคาญใจ
2.ผมเฉยๆกับ Content ใน Originals
3.การฟังทั้งเพลงและวีดีโอแบบปิดหน้าจอได้ดีงามมากๆ
ใครที่ยังลังเลสามารถทดลองใช้บริการฟรีดูก่อนได้ เลือก Package ที่เหมาะกับเราแล้วใช้ให้คุ้มค่าเงินนะครับ หากไม่ชอบอย่าลืมยกเลิกการใช้บริการ ทำตามคำแนะนำใน "Help" ได้เลยไม่น่ายากครับ
วันนี้ลาไปเท่านี้ก่อน
สวัสดีครับ 🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา