3 ม.ค. 2020 เวลา 09:57
#เล่ารื่องผี103
"เสือสิ้นลาย"...
เรื่องเล่าจากคำบอกเล่าของชายชราคนหนึ่ง
คุณตาของเพื่อนผมสมัยเรียนเองครับ
ผมไปเยี่ยมเยือนมันเพราะภรรยาคลอดลูกชาย
คนที่สอง ความจริงมันก็ชวนไปเที่ยวเล่นบ้านมัน
หลายครั้งแล้วแต่ผมกับภรรยาไม่มีเวลาว่างสักที
พอดีมีวันว่างเลยไปหามัน ลูกชายกำลังน่ารักน่าชังทีเดียว ชื่อว่าน้องภูมิ ผูกแขนให้หลานเสร็จมันบอกผมว่า ไปคุยเล่นกับคุณตามันหน่อยสิ ท่านอยู่หลังบ้านน่าจะตรงศาลาใกล้ๆบ่อน้ำ...
เผื่อมีเรื่องไปเขียนลงในเฟส ผมก็ยิ้มให้มัน แต่มาสะดุดตรงที่มันตบประโยคสุดท้ายว่า ท่านเป็นเสือเก่านะ อย่าไปพูดเล่นหยอกอะไรเดี๋ยวโดนดุเอา....
ผมเดินลัดเลาะออกไปทางหลังบ้านเล็กน้อย
เจอกับศาลาไม้ย่อมๆหลังคาคลุมด้วยดอกไม้สวยดูงามตา พบชายชราผมสีดอกเลานั่งเอนหลังมองไป
ทางบ่อน้ำ มือข้างหนึ่งเอาถือไม้เท้าค้ำอยู่...
"นั่นใครล่ะ?..ไม่ใช่คนบ้านนี้ใช่ไหม?"
ผมชะงักเล็กน้อยแต่ก็ตอบท่านไปว่า
"ผมเป็นเพื่อนศรครับคุณตา..มาเยี่ยมหลานครับ"
"แล้วมาที่นี่ทำไม?"
"พอดีศรบอกว่าให้มาคุยเล่นกับคุณตาครับ"
ท่านลุกขึ้นมาหันมองหน้าผมแล้วเอาไม้เท้าชี้
ให้มานั่งตรงข้ามท่าน ผมยกมือไหว้พร้อมยิ้มให้
ท่านพยักหน้าบอกถึงจะซนแต่ก็ยังมีสัมมาคาราวะนะเจ้าลิงน้อย..
เหมือนท่านรู้ว่าผมอยากคุยเรื่องอะไร
คุณตาบอกคนสมัยนี้ไม่เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ
คาถาอาคมก็คิดว่าเป็นเรื่องเล่าเป็นแค่นิทาน
ถ้าไม่เบื่อก็ไม่ต้องฟังกลัวสิ่งที่อยู่ในตัวเอ็งมันรำคาญ ผมได้แต่ยิ้มเขินๆท่านรู้ด้วยในตัวผมมีอะไรอยู่ในนั้น ฟังเรื่องราวของท่านทั้งสนุกและได้ข้อคิดมากมาย แต่ผมจะแยกออกเป็นทีละบทไปนะครับ..
"บทที่๑..เส้นทางสายโจร"
พ.ศ.2480
เริ่มแรกเดิมทีคุณตา *มั่น* พื้นเพเป็นคนอีสานจังหวัดหนองคาย แต่คุณพ่อคุณแม่เด็กชายมั่น
เสียตอนออกไปทำนาเพราะถูกงูกัดทั้งสองคน
เด็กชายมั่นจึงเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุเพียงสามขวบเท่านั้น..
เด็กน้อยมีความสนใจในธรรมะบทสวดมนต์ต่างๆเป็นพิเศษ สามารถอ่านภาษาบาลีได้ทั้งที่ไม่มีใครสอน แล้วช่วงนั้นคุณยายเด็กชายมั่นก็ป่วยออดแอดบ่อยๆ ท่านจึงไปขอร้องให้ *คำคอน*
ซึ่งเป็นนายฮ้อยหัวหน้าคณะคุมควายไปขายต่างถิ่นไกลๆ รับเขาไว้เป็นเหมือนลูกบุญธรรมสักคน
ตอนแรกนายฮ้อยคำคอนไม่รับปากยายอ่อนทันที
เพราะติดว่ามีลูกสาววัยเดียวกับมั่นชื่อว่า
*แพงตา* เลยเข้ามาคุยกับเด็กชายมั่นว่า
จะรับเป็นลูกบุญธรรมหากไม่ไปยุ่งเกี่ยวใดๆ
กับแพงตา เด็กน้อยรับปากเขาทันที...
หลังจากได้เข้ามาอยู่ร่วมคาราวานขายควายไม่นาน ยายอ่อนก็เสียชีวิตลง ผ่านไปสิบหกปีด้วยความที่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีจึงมีแต่สาวมาติดพันมากมาย แต่หนุ่มมั่นซึ่งขณะนั้นอายุได้สิบเก้าปี
ได้รับการถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมจากนายฮ้อยคำคอนก็ไม่ได้สนใจสาวคนใด แถมยังเป็นคนดีมีเมตตาไม่เคยระรานใคร...
เหมือนดังละคร หญิงเดียวที่มั่นมีใจคือแพงตา
ลูกสาวของนายฮ้อยคำคอนนั่นเอง
เธอสวยสะพรั่งงดงามดังดอกไม้กลางป่า
ซึ่งเขาเองก็รู้ว่านายฮ้อยคำคอนรู้ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเสมอมา แต่จะทำอย่างไรในเมื่อคำสัญญาที่ได้รับปากเมื่อตอนเยาว์วัยยังคงติดอยู่ในใจอย่างนั้นเรื่อยมา...
หนุ่มมั่นได้รับคำสั่งจากนายฮ้อยคำคอนว่า
อีกไม่นานจะออกเดินทางไปขายควายอีกครั้ง
คราวนี้คงต้องเดินทางไกลไปเกือบถึงพระนคร
(น่าจะหมายถึงกรุงเทพ)ให้บอกแพงตาเตรียมเสบียงให้เพียงพอด้วย จนถึงวันออกเดินทาง
มีชายหนุ่มร่วมทางไปหกคนกับผู้หญิงสองคน
คือแพงตากับรัมภาลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่นเอง..
ทั้งหมดออกเดินทางไปตามเส้นทางภูเขาต่างๆ
ลัดเลาะไปเรื่อย ค่ำไหนก็หยุดค้างแรมที่นั่น
จนวันหนึ่ง *ทิดจัน* ลูกน้องคนสนิทอีกคนของนาย
ฮ้อยคำคอนมาบอกว่า ไปอาบน้ำในลำธารกลางป่า
เจอกับตัวอะไรบางอย่างสีดำสูงสักสองวา
ตาสีแดงก่ำ ยืนอยู่อีกฝั่งนึง ครั้นมันรู้ว่าเขาเห็น
มันแลบลิ้นออกมาเกือบถึงพื้น ทำให้เขาต้องรีบวิ่งกลับมาที่พักของคาราวาน..
เมื่อนายฮ้อยได้ยินดังนั้นก็หันไปมองหน้ามั่น
ซึ่งเขารู้ว่านายฮ้อนคำคอนจะบอกสิ่งใด
"ข้าว่ามันไม่น่าใช่ผีป่าว่ะไอ้มั่น!"
"แต่เท่าที่ฟังจากพี่ทิดจันบอกมา ฉันว่ามัน
ไม่น่าจะเป็นผีคนมีวิชาส่งมานะ"
"ลางสังหรณ์ของข้าไม่เคยพลาด
ยังไงคืนนี้เตรียมรับมือไว้แล้วกัน"
เวลาล่วงเลยมาจนถึงสองยาม
ได้ยินเพียงเสียงลมพัดต้องใบไมสั่นไหว
ปนกับเสียงจิ้งหรีดเรไรมาเป็นระยะ
มั่นยังคงไม่หลับ เขายังคงนั่งมองไปรอบๆ
คล้ายกับไม่วางใจในสิ่งรอบตัว..
"ฮื่ออออ.......ฮื่อออออออ.."
เสียงลมหายใจแรงดังขึ้นมาบนกิ่งไม้ข้างบนหัว
เขาเงยหน้าดู สิ่งที่พบคือร่างดำใหญ่สูงสามวา
กรงเล็บยาวผมสยายแลบลิ้นออกมา
เท่าทันความคิดมันกระโจนใส่ทันที
เขากระโดดหลบได้พอดี
มันคลานสี่ขาตาเหลือกโปนมาประจันหน้า
"เอ็งเป็นใคร?..อสูรกายหรือผีป่าที่นี่"
ไม่มีการตอบใดมีแค่เสียงคำรามอ้าปากกว้าง
เผยให้เห็นเขี้ยวที่เต็มปาก นี่มันตัวอะไรกันแน่?
"ไอ้มั่น..หลบไป!!"
ไม่ต้องหันไปดูเสียงคนพูด
มั่นกระโดดหลบพร้อมกับเสียงปืนดังสนั่น
"เปรี้ยง!!!"..
กระสุนอาคมพุ่งเข้ากลางลำตัวของมัน
เสียงกรีดร้องดังก้องป่า
มันหันหลังลอยหายไปในป่าอย่างรวดเร็ว
คำคอนเดินไปหามั่นบอกว่ามันน่าจะมีใครสักคนส่งมา ไม่รู้อาจจะมีหมู่บ้านอยู่ใกล้ที่นี่ เป้าหมายของคนที่ส่งมาอาจต้องการอะไรบางอย่างจากคาราวานเราก็เป็นได้...
นายฮ้อยหันมองดูควายที่ยังอยู่ครบทุกตัว
แล้วหันไปมองหน้าแพงตาที่มีสีหน้าตกใจ
มั่นรู้ทันทีว่าคำคอนเป็นห่วงและคิดภาวนาว่า
เธอคงไม่ใช่สิ่งที่ใครคนนั้นหมายปองอยู่..
รุ่งเช้าวันต่อมาคำคอนได้บอกกับมั่นว่าไปเดิน
สำรวจรอบๆที่พักกัน เผื่อมีอะไรผิดสังเกต
บอกทิดจันให้ดูควายและคนในคาราวานด้วย
หลังจากทั้งสองคนไปลาดตระเวณสักพัก
กลับมาเจอทิดจันที่ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก
"มึงเป็นอะไร?..ทิดจัน"
"นายฮ้อย..เมื่อครู่มีตำรวจมาสองคน"
"ตำรวจรึ?...มันมาทำอะไรกัน
คาราวานข้าไม่มีของผิดกฏหมาย!"
"มาขอตรวจค้น..แล้วให้แพงตากับรัมภา
เป็นคนพาเดินดู"
"ห๊ะ!!.เดี๋ยวก่อน...
เอ็งว่ามันให้แพงตากับรัมภาพาเดินดูงั้นรึ?"
"แต่ฉันเห็นมันเดินลัดเกวียนทางนั้นไปแล้ว..."
"แล้วอะไร?"
"มันหายไป..เอาตัวแพงตากับรัมภาไปด้วย!!"
"ฉันคิดว่าไม่น่าใช่คนของทางการแล้วนายฮ้อย?"
"ข้าก็คิดว่าไม่ใช่แน่นอนไอ้มั่น..
มันคงใช้คาถาแปลงรูปเป็นตำรวจมาหลอกทิดจัน"
"มีจริงหรือนายฮ้อย..คาถาแบบนี้"
คำคอนหันมองหน้ามั่นกับทิดจัน
แล้วเดินไปข้างหลังเกวียน
สักครู่ออกมาภาพที่เห็นคือ
แพงตาที่เดินมาหายิ้มหวานให้เขา
มั่นบอกไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
พอแพงตาเดินมาใกล้ชี้ให้มองไปต้นไม้ที่อยู่
ด้านหลังหันกลับมาอีกทีคราวนี้เธอกลายเป็นรัมภา
ไปเสียแล้ว...
นายฮ้อยจึงปรึกษากันและคิดว่า
คงมีหมู่บ้านใดสักแห่งอยู่บริเวณนี้แน่นอน
วันนี้จะไปสืบเรื่องราวดู..
บ่ายแก่ๆ
มั่นเดินคิดเรื่องที่แพงตาโดนลักพาตัวไป
ใจก็เป็นห่วงมาก เขาเดินมาจนถึงสุดภู
พบกับชายชราคนหนึ่งกำลังตัดฟืนอยู่
"ลุง..ผมช่วยเอาไหมครับ?"
ชายแก่หันมองเขาแล้วยิ้มบอกก็ดีเหมือนกัน
เอาแค่เต็มกระสอบนี้นะ
หลังจากตัดฟืนเสร็จลุงก็ตบไหล่ขอบคุณเขา
"ไม่เป็นไรจ้ะลุง..
ว่าแต่ลุงมาจากไหนกัน?"
แกชี้ไปเขาอีกลูกเห็นควันพวยพุ่งขึ้นมา
"นั่นหมู่บ้านของข้า มีกันไม่กี่สิบหลัง
เมื่อตอนสายผู้ใหญ่ทองดีบอกว่าให้มา
ที่บ้านด้วยพรุ่งนี้แกจะจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกชาย"
"อืม...ครับลุง"
"ว่าแต่ไอ้ก้อนลูกชายแกไปหาอีนางเมียมาจากไหน
ไม่รู้เหมือนกัน?"
"ทำไมล่ะลุง..ไม่ใช่คนที่หมู่บ้านหรอกรึ?"
"ไม่สิ...คนที่มันบอกจะเป็นเมียผิวขาวสวยงาม
หน้าตาหวานสวยราวนางฟ้า
ส่วนอีกคนก็งามแต่ไม่เท่ากัน"
มั่นเริ่มคิดว่าจะใช่แพงตากับรัมภาหรือเปล่า?
"ผู้หญิงคนนั้นมวยผมแล้วมีดอกไม้สีขาวปักไว้
ใช่ไหมลุง?"
"ไอ้หนุ่มเอ็งรู้ได้ยังไงกัน?..ใช่เลย"
"ผู้ใหญ่ทองดีนี่เขาเป็นคนยังไงจ้ะ?"
"ก็กดขี่ข่มเหงลูกบ้าน ใครหาของป่าอะไร
ก็ต้องไปแบ่งให้มัน มีที่นาหรือปลูกอะไรได้ผล
งอกงามถ้ามันถูกใจมันจะมาเอาไปเลย"
"แล้วทำไมไปยอมมันล่ะลุง!!"
"ไม่ยอมได้ยังไงกันไอ้หนุ่ม!
มันมีหมอผีเป็นคนสนิท
เลี้ยงผีตายโหงผีพรายคาถาอาคมมากมาย
ใครขัดคำสั่งมันสั่งผีไปฆ่าหมดล่ะ"
"อืม..แค่นี้ก่อนจ้ะลุง
ฉันกลับก่อนนะ"..
มั่นกลับมาบอกนายฮ้อยคำคอนว่าไปเจอ
ชายชราแล้วเล่าเรื่องราวให้ฟัง
ได้ยินเพียงเท่านั้น คำคอนแววตาแข็งกร้าว
กัดฟันมองไปยังเขาเบื้องหน้า
แล้วหันไปบอกทุกคน..
"ในเมื่อข้าเป็นนายฮ้อยคุมคนคุมควายเดินทาง
มานานไม่เคยระรานใครสักครั้ง
หากคราวนี้ข้าจะต้องเป็นเสือออกปล้น
ชิงเอาลูกสาวกลับมา
ข้าก็จะทำ!!"..
 
หัวค่ำคำคอนวางแผนเพื่อออกเดินทางไปที่หมู่บ้าน
แห่งนั้นจุดมุ่งหมายคือการพาตัวแพงตากับรัมภา
กลับมาให้ได้....
"บทที่๒..ความในใจและคำสั่งเสีย"
หลังจากวางแผนเสร็จแล้ว
ราวเที่ยงคืนทั้งคาราวานก็ออกเดินทาง
ไปที่หมู่บ้านแห่งนั้น กำลังจะก้าวขึ้นไปยัง
เขาลูกนั้น คำคอนผายมือว่าให้หยุดก่อน
มั่นเห็นสีหน้าแกเรียบเฉยแต่มองไปข้างหน้า
"มึงออกมาเดี๋ยวนี้!!..ข้ารู้มีคนสั่งให้มึงเฝ้าอยู่ที่นี่"
สิ้นเสียงนายฮ้อย
ร่างสีดำใหญ่เดินออกมาจากความมืดของทิวไม้
มันคือผีพรายที่มาที่คาราวานเมื่อวันก่อนนั่นเอง
 
"คงต้องกำจัดก่อนที่มันจะกลับไปฟ้องเจ้านายมัน"
อสูรกายก้มลงคลานมาอย่างรวดเร็ว
แต่คำคอนยื่นมือขวาออกยืดตรงทำท่า
คล้ายดังจับคันธนู มือซ้ายทำท่าดึงสาย
มาสุดแขน ปากก็บริกรรมคาถา
เสร็จแล้วปล่อยมือออก
 
ทั้งหมดมองเห็นดังลูกธนูแต่หัวมีไฟลุกโชน
ทะยานแหวกอากาศพุ่งตรงเข้ากลางหัวผีร้าย
เลือดสีดำทะลักออกเป็นลิ่มๆ
ก่อนสลายกลายเป็นกลุ่มควันดำขึ้นไปบนอากาศ
..........................................................................
เมื่อผีเฝ้ายามได้หายไป
นายฮ้อยคำคอนจึงรีบรุดไปที่หมู่บ้านนั้นพร้อมมั่น
ทางเดินดินแดงไม่มีแม้แต่เสียงใดๆ
บ้านแต่ละหลังห่างกันพอสมควร
 
มั่นคิดว่าบ้านหลังใดคือบ้านผู้ใหญ่ทองดี
เหมือนนายฮ้อยจะรู้ความคิดเขา
หันมาบอกว่าถึงแล้ว.....
ทางเลี้ยวตรงหน้าปรากฏให้เห็นบ้านหลังหนึ่ง
สองชั้นดูดีกว่าหลังอื่นใด พอทั้งสองมาหยุด
ตรงหน้าบ้าน มีเสียงปรบมือพร้อมกับหัวเราะ
เย็นยะเยือกเปิดประตูออกมา...
"มาหาใครกัน..คนแปลกหน้า?"
ภาพที่เห็นคือ
ผู้ชายวัยกลางคนมีผ้าโพกหัวลูกประคำคล้องคอ
ในปากเคี้ยวหมากสีแดงฉาน แววตามองตาที่
คำคอนและมั่นอย่างดูแคลน.
"ข้าจะมาเอาตัวลูกสาวกลับ!!"
"อ้อ..อีนังหนูคนสวยนั่นหรือ?
พรุ่งนี้หัวรุ่งมันจะกลายเป็นเมียของหลานชาย
ของข้าเอง"
"ส่งคืนกลับมาดีกว่า..ข้าไม่อยากมีเรื่อง!!"
"นายฮ้อย..ฉันว่ามันคงมีวิชาแก่กล้าน่าดู"
คำคอนหันไปมองหน้ามั่นแล้วตบไหล่เขาเบาๆ
"ไอ้มั่น..ครั้งนี้ข้าคิดว่าคงหนักมาก
หากมีอะไรเกิดขึ้นร้ายแรง
ข้ามีบางอย่างจะสั่งเสียเอ็ง!"
นายฮ้อยคำคอนและมั่นหันหน้ากลับมา
พบกับผีพรายตายโหงยืนสลอนกันหน้า
ชายคนนั้น...
"ไปสนุกกับมันทีสิไอ้พวกผีร้าย!"
เหล่าอมนุษย์เดินสามขุมเข้ามาหา
พลันคำคอนบอกมั่นว่า
"คาถานาคาพันเขาพระสุเมรุ"
ทั้งสองท่องคาถาพร้อมกัน
ฉับพลันมีลมหมุนขึ้นมาเป็นพายุลูกย่อมๆ
ก่อตัวเป็นร่างพญานาคสูงใหญ่
พุ่งเข้าพันอสูรกายทั้งหมดไว้..
"ฝีมือไม่เบาจริงๆ...
เห็นทีต้องจัดการด้วยวิชาขั้นสูง"
เขาเอามือมาปิดไว้ที่ปาก
ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเลือด
อ้าปากแล้วมีตะขาบคลานออกมามากมาย
นับได้หลายร้อยตัว...
นายฮ้อยคำคอนกระชากเขี้ยวเสือโคร่ง
มาไว้ในมือ บริกรรมคาถาโยนไปข้างหน้า
กลายเป็นเสือโคร่งตัวมหึมา
วิ่งเหยียบตะขาบตายไปหมด....
ชายผู้นั้นหันหลังหายกลับเข้าไปในบ้าน
คำคอนและมั่นวิ่งตามไป
แต่ภาพที่เห็นคือ
แพงตาในชุดนอนกำลังนั่งบนตักชายหนุ่มคนหนึ่ง
ยิ้มหวานเคลิบเคลิ้มซบลงบนแผ่นอกเขา
ส่วนรัมภาก็กอดชายสูงอายุมีไม้ตะพดถืออยู่..
มั่นเจ็บปวดใจมากกับภาพที่เห็นต่อหน้า
แต่คำคอนบอกว่ามันใช้คาถาอาคมสะกดแพงตา
ต้องรีบช่วยก่อนจะสาย..
"แพงตา!!..เอ็งมาหาพ่อเดี๋ยวนี้!!"
"ไม่ไป..ฉันจะอยู่กับพี่ก้อน
ฉันรักพี่ก้อนมากจะไม่จากไปไหน!!"
คำพูดนั่นถึงมั่นรู้ว่าเกิดจากมนต์เสน่ห์
แต่ก็อดเคียดแค้นไม่ได้ กำหมัดแน่น
แต่ไม่พ้นสายตาของไอ้ก้อน..
"หึๆ..มึงจะทำอะไรกูได้..
อีนังนี่มันสวยที่สุดตั้งแต่ข้าเคยเจอมา
ข้าจะเอามันทำเมีย!!"
แล้วชายคนที่เป็นหมอผีแทรกมาตรงกลาง
"กลับไปเสีย..
ถ้าไม่อย่างนั้นจะไม่มีชีวิตกลับไป!!"
"ข้าคือนายฮ้อยคำคอน
ผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใคร
สิ่งเดียวที่ข้ายอมคือความดีงามในใจคน
ถ้าพวกเอ็งยืนยันว่าจะไม่คืนตัวนางทั้งสอง
ข้าก็จะไม่กลับไป!!"
จังหวะนั้นเอง
หมอผีพุ่งเข้าเอามือมา
จับหน้าผากคำคอน
เป่าควันดำออกมาจากปาก
แต่สิ่งที่มั่นเห็นคือแขนซ้ายของนายฮ้อย
มีลูกอะไรบางอย่างเท่าผลมะนาววิ่งขึ้นมา
จนมาออกที่ปากพุ่งเข้าใส่หน้าหมอผีคนนั้น
มันกระเด็นไปจนติดกำแพง
แต่นายฮ้อยก็บอบช้ำพอสมควร
คำคอนกระอักเลือดออกมา..
มั่นรีบเข้าพยุงตัวแก..
ผู้ใหญ่ทองดีกับก้อนเห็นท่าไม่ดีรีบพา
แพงตากับรัมภาหนีไปทางหลังบ้าน
คำคอนหันมาบอกมั่นว่า
"ข้าคิดว่าคราวนี้คงไม่รอดแล้ว
รู้นะว่าเอ็งคิดยังไงกับแพงตา
สัญญาได้ไหมว่าจะดูแลรักและซื่อสัตย์กับนาง"
"นายฮ้อยอย่าพึ่งพูดเลย..
ฉันสัญญาว่าจะดูแลแพงตาเอง"
หมอผีลุกขึ้นมาพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาจาก
ปากและจมูก มันทำท่าจะหนี
คำคอนกระโจนเข้าใส่กดหัวมันลงพื้น
"มึงจะทำอะไรกู?..
ปล่อยกู!!"
"กูจะถอนอาคมมึงที่มีให้หมด
มึงจะได้ไม่ต้องไปทำร้ายหรือรังแกใครอีก!"
"มึงคิดว่ามึงจะรอดรึ..
เมื่อกี้โดนยาสั่งผีตายเจ็ดชั่วโคตรเข้าไปทั้งร่าง
ไม่นานมึงจะต้องตาย!!"
คำคอนหันมามองหน้ามั่นครั้งสุดท้ายแล้วพูดว่า
"ข้ารักเอ็งเหมือนลูกคนหนึ่ง
เมื่อข้าจากไปฝากแพงตารัมภา
และภาระนายฮ้อยสานต่อด้วยนะไอ้มั่น!!"
แล้วนายฮ้อยก็เอามือจับที่หัวหมอผีร้าย
ก่อนท่องคาถาแล้วเอาอีกมือตบที่มือที่จับหัวมันไว้
มั่นเห็นว่าหมอผีสะดุ้งตาเหลือกโปนออกมา
อ้าปากแล้วดิ้นพล่านก่อนหลับไป..
ส่วนคำคอนทรุดลงตรงหน้ามัน
เลือดกระอักออกมาทั้งปาก,จมูกและหู..
มั่นรีบเข้าไปประครองไว้
"ไอ้มั่น..
ข้าฝากแพงตาด้วย
ไปช่วยกลับมาให้ได้"
แล้วคำคอนก็สิ้นใจลง
มั่นรีบตามไปจนทัน
ผู้ใหญ่บอกว่ากูมีปืนมึงเข้ามากูยิงแน่
แต่ว่าพอหมอผีหมดเวทย์มนตร์ที่มี
อาคมที่ทำกับแพงตากับรัมภาก็หายไป..
"พี่มั่น..ช่วยฉันกับรัมภาด้วย!!"
มั่นเดินสามขุมเข้ามาหาผู้ใหญ่ทองดีกับก้อน
มันเห็นว่าท่าไมดีแล้วจึงหันกระบอกปืนไปที่
หัวของแพงตา..
"มึงเข้ามาอีกก้าวเดียว
หัวอีนี่ระเบิดแน่!!"
มั่นหยุดชะงักแต่ในใจกำลังภาวนาคาถาบางอย่าง
เขาแอบเป่าลมออกไปเบาๆ..
แล้วอยู่ๆปืนก็หลุดจากมือผู้ใหญ่
ทั้งสองคนขยับตัวไม่ได้มีเพียงสายตาที่มองหน้ามั่น
มันคือคาถาหนุมานสะกดทัพนั่นเอง..
เมื่อเห็นแบบนั้นมั่นเลยเดินไปหาแพงตา..
เธอเผลอกอดเขาด้วยความดีใจ
รัมภาที่เดินมาใกล้ๆจึงถามหานายฮ้อยคำคอน
มั่นหันไปมองแพงตาที่รอคอยคำตอบเช่นกัน
แล้วเขาก็จับตัวเธอไว้บอกว่า..
"ทำใจให้ดีๆนะแพงตา..
นายฮ้อยมากับพี่เพื่อช่วยเธอกับรัมภา
แต่ตอนนี้เขาตายแล้ว!!"
แพงตายืนร้องไห้จนเขาเข้ามากอดปลอบใจ
คราวนี้มั่นเดินไปที่สองพ่อลูกนั่น
 
"ถ้าปล่อยเอ็งสองคนไป
ชาวบ้านที่นี่คงเดือดร้อนไม่จบสิ้น!"
แล้วเขาก็หันไปบอกให้แพงตากับรัมภาหันหลัง
กลับไปอีกทาง..
สองสาวได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสองนัด
มั่นยิงสองคนนั้นตายนั่นเอง..
หลังจากกลับมาที่คาราวานและจัดการกับ
ศพของคำคอนแล้ว มั่นเรียกทุกคนมาประชุม
บอกว่าคำคอนจะให้เขาเป็นนายฮ้อยคุมคาราวาน
แต่ทุกคนดูเหมือนจะไม่ค่อยยอมรับ
จนทิดเขียวพูดขึ้นมาว่า..
"นายฮ้อยคำคอนเคยบอกว่า
หากใครจะมารับตำแหน่งก็ต้องเป็นคนที่เขาเชื่อใจ
หรือง่ายๆอาจเป็นผัวของแพงตา"
มั่นหันไปมองแพงตาที่เขินจนหน้าแดง
ดังลูกตำลึงสุกแล้วก็พูดขึ้นว่า..
"งั้นคืนนี้ฉันคงต้องได้แพงตาเป็นเมียแล้วสิ?"
ทุกคนพากันปรบมือ
แต่สาวเจ้าอายจนเดินกลับเข้าที่พัก
มั่นเห็นเช่นนั้นจึงรีบตามไป
พอไปถึงก็เปิดกระโจมออก
 
"เธอรังเกียจพี่หรอกหรือ?..แพงตา"
"ฉันรู้ในคำสัญญาที่พ่อเคยขอไว้กับพี่ว่า.."
"พี่รักษาสัญญานั้น
แต่ใจของพี่ต่างหากที่มันทำไม่ได้เลย"
แพงตาหันมองหน้าเขา
มั่นรุกเข้ามาใกล้จับมือเธอมาแนบตรงหัวใจเบาๆ
"แพงตาไม่ต้องมีคาถาอาคมใดๆก็ได้
แค่จับดูก็พอจะรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา
พี่รักแต่เธอคนเดียว"
เธอยิ้มกัดปากแล้วเอามือตีอกเขา
"พี่มั่นน่ะ..พูดอะไรแบบนี้"
"เธอคิดยังไงกับพี่บ้าง?"
ไม่มีคำตอบแต่มีเพียงริมฝีปากของหญิงสาว
เข้าประกบอย่างแผ่วเบา
มั่นจับเธอมากอดไว้พูดพร้อมรอยยิ้มว่า
"จากนี้ไป..ไม่ว่าจะยากดีมีจน
มีสิ่งใดๆเข้ามา..พี่จะไม่ทอดทิ้งเธอ
ไม่มีวันทำให้เธอเสียใจ
จะรักและซื่อสัตย์ต่อแพงตาเพียงคนเดียว"
"ฉันก็รักพี่มั่นจ้ะ"
แล้วเขาเอื้อมมือไปดับตะเกียงในกระโจม
พร้อมโน้มตัวแพงตาลงไป
เพื่อการเป็นนายฮ้อยที่สมบูรณ์..
"บทที่๓..อเวจีในหัวใจ"
คืนแห่งการเป็นของกันและกันผ่านพ้นไป
ในตอนเช้ามั่นกอดแพงตาไว้ในอ้อมแขน
บรรจงจูบที่หน้าผากของเธอ
แพงตายิ้มหวานอย่างเป็นสุขใจ
เขาให้คำมั่นสัญญาต่อเธอแล้วก็เดินออกมา
บอกทุกคนในคาราวานว่าเขากับแพงตาได้เป็น
ผัวเมียกันแล้ว..
ทุกคนต่างยินดีที่มั่นมาเป็นนายฮ้อยคนใหม่
แต่มั่นบอกว่าต่อไปหากผ่านไปยังหมู่บ้านใด
ก็ตามแล้วพบว่ามีใครตั้งตัวเป็นใหญ่ข่มเหง
คนที่ด้อยกว่าด้วยอิทธิพลมืดใดๆก็ตาม
เขาจะไปช่วยเหลือทันที..
หลังจากวันนั้นมั่นก็คุมคาราวานควายไปขาย
ด้วยดีเสมอมา ต้องเจอทั้งชุมโจรด้วยกัน
ผีป่าผีพรายก็ฝ่าฟันมาได้ทุกคราว
อาจเป็นเพราะคาถาอาคมที่คำคอนถ่ายทอดให้
จนหมดและจิตใจที่ดีงามของเขา
เคยไปช่วยคนในหมู่บ้านสามครั้ง
ปล้นคนที่ใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นเอามาแจกจ่าย
ให้คนจนอยู่บ่อยครั้ง..
จนครั้งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุด
ขณะนั้นแพงตาได้ตั้งท้องอ่อนๆได้สองเดือนพอดี
มั่นบอกให้เธออยู่ที่บ้านไปเพียงไม่นาน
ก็จะกลับมา เธอเชื่อใจเขามากจึงตกลงไม่ตาม
คาราวานไปกับเขา รออยู่ที่บ้านพร้อมกับญาติ
และรัมภาที่ดูแลเธอ..
หลังจากที่มั่นออกเดินทางไปได้ไม่นาน
รูปถ่ายคู่กันของมั่นและเธอหล่นลงมาแตกกระจาย
ใจคอเธอไม่สู้ดีขอให้ไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นอย่างที่คิดเลย...
การเดินทางไปขายควายครั้งนี้
คาราวานของมั่นต้องเดินทางผ่านเทือกเขา
ดงพญาไฟ
ในค่ำคืนที่มืดมิดกลางป่าใหญ่นั้น
มั่นได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
"ช่วยด้วย..ช่วยฉันด้วย!!"
ทุกคนต่างพากันออกมาดู
ภาพที่เห็นคือหญิงสาววัยรุ่นใส่ชุดชาวบ้าน
รูปร่างหน้าตาสวยงามเกินบรรยาย
เธอวิ่งหน้าตาตื่นตรงมาที่คาราวานพักอยู่
พอถึงก็ไปจับแขนมั่นไว้เขย่าด้วยความ
หวาดกลัวพร้อมบอกว่า
"พี่ชาย..ช่วยฉันด้วยมันจะพาฉันไปขายให้คนรวย"
"ใครกันน้องสาว..
ใจเย็นๆ..ค่อยๆพูดนะ!!"
สิ้นเสียงของมั่นมีร่างของชายฉกรรจ์สี่ถึงห้าคน
วิ่งตามมาติดๆ หญิงสาวเดินแอบไปอยู่ด้านหลังเขา
"น้องชาย..
เอ็งส่งนางผู้หญิงคนนั้นมาเสียดีกว่า
ถ้าไม่อยากมีปัญหา!"
"อืม..
ฉันคิดว่าคงไม่ได้หรอก
ปล่อยเธอไปเถอะ"
มันหยิบปืนขึ้นมายิงขู่ขึ้นฟ้าไปสามนัด
แล้วเอามาจ่อไปที่ร่างของมั่น
"ถ้าเอ็งไม่อยากให้คนที่นี่ตายทั้งหมด
ก็หลีกทางไป!!"
"ถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?"
ถ้อยคำของมั่นทำให้พวกมันโมโหมาก
ลั่นไกปืนออกมาทันที
แต่ทว่ากระสุนพุ่งไปชนร่างของมั่นแล้วกระเด็นลงสู่พื้นดินทันที...
"เฮ้ย..
มันยิงไม่เข้า"
แล้วมั่นก็เดินเข้ามาเป่าอาคมจนพวกมันสลบไปพร้อมกับให้ทิดจันมัดติดไว้กับต้นไม้..
แล้วในการเดินทางครั้งนี้ไม่มีผู้หญิงมาแม้แต่คนเดียวเลย มั่นบอกว่านี่มันก็ดึกแล้วหากให้เธอกลับไปเดี๋ยวคงต้องเจอสัตว์ร้ายหรือสิ่งใดอีก..
เขาตัดสินใจให้ทิดจันกับพันวามานอนอยู่กระโจมเดียวกันเอากระโจมนั้นให้เธอนอนคืนนี้..
ทิดจันไม่ได้ขัดข้องสิ่งใดแต่หางตามองเห็น
เธอมองดูหน้ามั่นด้วยสายตาเสน่หามากเหลือเกิน
เขาเดินมาบอกมั่นว่าอีนางคนงามนี่ไม่น่าไว้ใจ
เลยนายฮ้อย มั่นบอกไม่มีอะไรหรอกคิดมากน่า
หลังจากทุกคนเข้ากระโจมไปแล้ว
แต่พันวาเกิดปวดท้องเบา
เขาเดินอ้อมมาทางกระโจมหญิงสาวคนงามนั้น
พลันได้ยินเสียงพึมพำเบาของเธอ..
"ถึงจะมีคาถาอาคมสักเพียงใด
สุดท้ายผู้ชายมันก็ต้องพ่ายแพ้แก่ตัณหาราคะ
กิเลสในใจอยู่ดี"
"ขอเพียงกามกำหนัดเกิดขึ้นในใจ
ชายผู้นี้จะต้องเป็นของข้าใช่ไหมแม่เป๋อ!!"
ได้ยินดังนั้นพันวาจึงจะรีบเดินไปบอกมั่นที่กระโจม
เคราะห์ร้ายสะดุดรากไม้ล้มลงเสียงดัง
เขารีบกลิ้งหลบเข้าไปในพงหญ้า
เธอรีบเปิดกระโจมออกมาทันที
เช่นเดียวกับมั่นที่เดินมาหาเธอเช่นกัน
"มีอะไรรึน้องสาว?"
"ไม่รู้มีเสียงอะไรดังข้างกระโจมฉันจ้ะพี่ชาย
ฉันกลัวจังคืนนี้ขอฉันไปนอนกับพี่ได้ไหม?"
"พี่มีเมียแล้ว..และพี่ก็รักเมียพี่มาก
เกรงว่าจะไม่ดีถ้าหากน้องสาวไปนอนด้วย"
"ฉันขอแค่หลบนอนพักคืนนี้แค่นั้นเอง"
ในขณะเดียวกันที่บ้านของแพงตา
เธอได้นอนหลับไปแล้วสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียง
คนเดินอยู่บนบ้าน แม่ของเธอหรือรัมภากันนะ
ดึกขนาดนี้ทำไมยังไม่ยอมนอน..
เปิดประตูห้องออกมาดูไม่พบเจอใคร
เธอคงคิดมากไปเอง ล้มตัวลงนอนกำลังจะเคลิ้ม
หลับตามองเห็นคำคอนพ่อของเธอยืนอยู่มุมห้อง
ร่างนั้นเดินมาหยุดข้างเธอ
ก้มลงลูบหัวแผ่วเบาแล้วพูดว่า
"แพงตา..มั่นกำลังตกอยู่ในอันตราย
อันตรายของผู้ที่มีศีลอาคมจะเสื่อมลงเพราะสิ่งนั้น"
เธอถามในจิตว่าคืออะไรจ้ะพ่อฉันไม่เข้าใจ
"ผัวของเจ้ากำลังจะตกไปในอเวจีของหัวใจ
สิ่งที่จะพาเขากลับมาคือรักที่บริสุทธิ์และแท้จริง
ของเจ้าเพียงเท่านั้น"
 
"เจ้าต้องหนักแน่นให้มากๆนะแพงตา!!"
แล้วร่างของคำคอนก็หายไป
แพงตาลุกขึ้นมามองผ่านหน้าต่างไปยังพระจันทร์
ที่อยู่บนฟ้า ใจของเธอห่วงหามั่นสามีอย่างสุดหัวใจ
"ก็ได้...พี่จะยอมให้เธอไปนอนที่กระโจมพี่คืนนี้"
"ขอบคุณนะจ้ะ..
พี่นี่นอกจากหน้าตาจะดีแล้วยังใจดีอีก
เสียดายไม่น่ารีบมีเมียเลย.."
หญิงสาวเดินเข้าไปที่กระโจม
แต่มั่นคิดว่าเขานอนอยู่ใต้ต้นไม้หน้ากระโจมก็ได้
แต่แล้วเธอก็เดินออกมาหาเขา
เอาน้ำใส่กระบอกไม้ไผ่มาให้บอกว่าเห็นพี่เหนื่อยๆ
ดื่มน้ำก่อนสิจ้ะ..
ด้วยความที่เขาไม่คิดอะไรยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้ว
นั่งคิดถึงแพงตากับลูก ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไร?
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้มั่นแล้วพูดว่า..
"ฉันชื่อวิไลพรนะจ้ะพี่..จำชื่อฉันไว้ให้ดี!"
เธอเปิดกระโจมกลับเข้าไป
สักพักความคิดของมั่นก็เปลี่ยนไป
น้องวิไลพรคนนี้ก็สวยมากทีเดียว
รูปร่างสะโอดสะอง ผิวขาวเนียน
หน้าตาจิ้มลิ้มกลิ่นกายหอมกรุ่น
ที่สำคัญยังเป็นสาวรุ่นมากกว่าแพงตาเสียอีก..
พลันคิดได้
ทำไมถึงไปคิดเช่นนั้นกับน้องเขา
สักพักได้ยินเสียง
"พี่จ๋า..ตัวอะไรไม่รู้กัดฉันมาดูหน่อยสิจ้ะ!"
มั่นเดินไปเปิดกระโจมมุดเข้าไป
ภาพที่เห็นคือวิไลพรเอาผ้าห่มคลุมกายไว้เหลือ
เพียงหน้าและคอ
"ไหนล่ะ..พี่ไม่เห็นมีตัวอะไรเลย"
"พี่ก็มาดูใกล้ๆฉันสิ..
แผลที่มันกัดอยู่ตรงนี้!"
ดังต้องมนต์มั่นขยับไปจนถึงเธอ
พลันเธอเปิดผ้าห่มออก
มองเห็นร่างของเธออยู่
กลิ่นกายเข้ามาที่ประสาทสัมผัสของมั่นไปหมด
โดยไม่รู้ตัวหรือเพราะเหตุอันใด
ชายที่รักเมียซื่อสัตย์ต่อภรรยาอย่างเขา
กามกิเลสราคะเข้าครอบงำ
พุ่งเข้ากอดรัดเล้าโลมวิไลพรอย่างเสน่หา
พร้อมกับถอดเสื้อออกจากร่างกายอย่างฉับพลัน
ในขณะที่ทิดจันกับพันวา
ซึ่งมองเห็นว่าทั้งคู่อยู่ในกระโจมเดียวกัน
มองหน้ากันแล้วคิดว่าอย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย
พลันทั้งสองคนรู้สึกว่ามีใครสักคนยืนอยู่ข้างหลัง
หันกลับไปคือยืนตาค้างพูดไม่ออก..
ร่างนั้นคือคำคอนอดีตนายฮ้อยคนเก่าของพวกเขา
นั่นเอง สายตาของคำคอนมองไปที่กระโจมของมั่น
ก่อนหันมามองหน้าพวกเขาแล้วพูดว่า..
"หญิงสาวคนนี้ร้ายกาจมาก
นางเอาว่านดอกทองกับนางหลงมาใส่ในน้ำ
ให้เจ้ามั่นดื่มพร้อมกับเอาอีเป๋อไปวนในน้ำ
เป็นการทำเสน่ห์ขั้นสูง!!"
"จากนี้ไปอาคมของมั่นมันจะเสื่อม
เพราะการผิดศีลข้อสามนั้น
จงรีบพามันกลับไปหาแพงตา"
สิ้นคำพูดแล้วก็หันหลังเดินหายกลับเข้าป่าไป.
ทั้งคู่หลุดจากภวังค์มองหน้ากันหรือว่า...
ตะวันทอแสงขึ้นมาในตอนเช้า
ทุกคนได้ยินเสียงตบมืออยู่บนลาน
มันคือเสียงที่เรียกทุกคนในคาราวาน
ให้ออกมาประชุมกัน..
แต่ภาพที่ทุกคนเห็นทำให้ต้องตกใจ
คือมั่นยืนกอดวิไลพรไว้ข้างกาย
พร้อมกับจุมพุตที่แก้มที่ปากและหน้าผากอย่างรักใคร่ตลอดเวลา..
"นี่มันคืออะไรนายฮ้อย?.."
"ทำไมเป็นแบบนี้..แล้วแพงตาล่ะนายฮ้อยมั่น!"
มั่นหันมายิ้มมุมปากเบาๆ
"ฉันคิดว่าวิไลพรสวยกว่า
สาวกว่าแพงตา...เลยคิดว่าจะเอาเธอ
เป็นเมียอีกสักคน!"
"อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนนี้.."
วิไลพรกอดแขนมั่นหันมองหน้ายิ้มพูดว่า
"พี่มั่นน่ะ..ทำฉันเพลียทั้งคืนเลยเชียว
เรี่ยวแรงดีจริงๆ!!"..
ทิดจันกับพันวาเลยคิดถึงคำคอน
สิ่งที่เขามาบอกเป็นจริงแล้ว..
คนที่มีคาถาอาคมแก่กล้าขนาดนั้นยังพลาดท่า
ต่อกามราคะตัณหาอย่างนั้นหรือ?..
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น
มั่นก็พูดขึ้นมาว่า
"เดี๋ยวขายควายเสร็จแล้ว
ฉันจะเอาวิไลพรไปเป็นเมียอีกคน
ส่วนแพงตาก็ให้เป็นคนเก่าไป"
ทุกคนในคาราวานแทบไม่เชื่อสิ่งที่มั่นพูดออกมา
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมั่นคือนายฮ้อยหัวหน้า
ขณะนั้น ตลอดเวลาเขาไม่เคยห่างจากวิไลพร
แม้สักวินาที คลอเคลียกันอย่างดูดดื่มจนแอบคิดไม่ได้ว่ามั่นโดนทำเสน่ห์ใส่จริงๆ...
เมื่อกลับถึงหมู่บ้านแล้วเขาพาวิไลพรไปที่ตลาด
แพงตาซึ่งขณะนั้นอยู่ที่บ้านได้ยินเสียงป้าคนข้างบ้านนินทากันพร้อมกับมองที่เธอ ด้วยความสงสัย
จึงถามว่ามีอะไรหรือเปล่าจ้ะป้า..
แกก็ทำหน้าตาเลิ่กลั่กอึกอักในคอ
แต่ด้วยความสงสารจึงบอกว่า
"ไอ้มั่นมันกลับมาแล้วนะแพงตา..แต่ว่า.."
"ทำไมจ้ะป้า?..พี่มั่นเป็นอะไร?"
"ผัวเอ็งมันพาผู้หญิงกลับมาด้วยคนหนึ่ง
ทั้งสาวทั้งสวยเชียว..
ที่สำคัญกอดกันกลมอย่างกับเป็นผัวเมีย"
"ฉันไม่เชื่อหรอกป้า..
พี่มั่นไม่ใช่คนแบบนั้น!!"
"แต่คนเขาเห็นกันทั้งตลาดนะแพงตา"
ท่ามกลางความสับสนในใจของแพงตา
มีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา
"นี่หรือจ้ะบ้านพี่มั่น..
น่าอยู่มากเลยจ้ะ"
แพงตาหันไปมอง ภาพที่เห็นคือผู้หญิงสาวรุ่น
หน้าตาสวยงามยืนคล้องแขนมั่นที่ยิ้มให้กัน
แล้วก้มไปหอมแก้มเธอเบาๆ..
"นี่มันคืออะไรพี่มั่น?..
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร
ทำไมต้องกอดหอมกันขนาดนี้"
"นี่คือเมียใหม่พี่เองชื่อวิไลพร!!"
"แล้วฉันกับลูกล่ะพี่?"
"เธอก็อยู่ในส่วนของเธอในฐานะเมียรอง
ส่วนลูกก็ดูแลให้ดีแล้วกัน"
พูดจบก็ก้มลงไปโอบเอววิไลพรพร้อมทั้งเดินขึ้น
บันไดบ้านไป ปล่อยให้แพงตาทรุดลงตรงนั้น
ร้องไห้อย่างน่าเวทนา..
โชคดีที่ทิดจันกับพันวาตามมาห่างๆ
เลยเดินมาหาเธอพร้อมทั้งบอกว่าวิญญาณนายฮ้อยคำคอนมาบอกว่ามั่นโดนทำเสน่ห์ใส่โดยผู้หญิงคนนั้น อย่าพึ่งคิดไปไกล รีบหาทางช่วยเขาดีกว่า
ทำให้แพงตาคิดถึงเรื่องคืนนั้น
ในภวังค์กึ่งหลับกึ่งตื่นที่พ่อเธอมาหามาบอก
เธอต้องช่วยเขาออกมาจากอเวจีในหัวใจนั้นให้ได้
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป
คนที่ต้องตกอยู่ในอเวจีหัวใจกลับกลายเป็นแพงตา
เสียเอง มั่นไม่เคยมาดูแลเธอ ไม่มองหน้าไม่แม้แต่จะมาใกล้ เอาเวลาไปพะเน้าพะนอกับวิไลพรเมียใหม่ตลอดเวลา เธอร้องไห้ทุกคืนวัน
จนวันหนึ่งแพงตาไปไหว้พระที่วัดป่าใกล้หมู่บ้าน
เธอสังเกตเห็นว่ามีพระธุดงค์ชรารูปหนึ่งปักกลดอยู่ในป่า เมื่อท่านเห็นเธอก็ยิ้มให้ แพงตามองดูแล้ว
เห็นว่ายังพอมีอาหารเหลือเอาไปถวายท่านก็คงดี
"หลวงปู่เจ้าขา..
หนูเอาอาหารมาใส่บาตรจ้ะ"
"สาธุนะสีกา..
ขอให้มีความสุขนะ"
เธอจึงทำหน้าเศร้า..
"มีเรื่องทุกข์ใจใช่ไหมสีกา"
แพงตาพนมมือเงยหน้ามองท่านทั้งน้ำตาแทนคำตอบ..
"ถ้าเดาไม่ผิด อายุประมาณสีกาคงเป็นทุกข์ในเรื่อง
ของความรักแน่นอน?"
"ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นบังเอิญ
ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว"
"หนูต้องทำอย่างไรดีหลวงปู่เจ้าขา"
"ไม่มีความชั่วร้ายใดในโลกที่จะชนะความดี
หรอกนะสีกา"
แล้วภิกษุชราก็เอื้อมมือไปในย่ามพร้อมกับหยิบยื่นวัตถุบางอย่างออกมาวางต่อหน้าเธอ
"นี่คือเล็บครุฑ..
หลวงปู่ได้มาจากป่าดงดิบฝั่งลาว"
"ใช้ทำอะไรเจ้าคะหลวงปู่?"
"มันแก้อาถรรพ์ที่คนถูกทำของใส่
จงเอามันไปใส่คอคนที่สีกาจะช่วยนะ"
แพงตาหยิบมาใจเริ่มมีความหวัง
ก้มลงกราบท่าน
แต่พอเงยหน้ามาทั้งหลวงปู่ทั้งกลดหายไปหมด
เหมือนกับไม่เคยมีสิ่งใดอยู่ตรงนั้นเลย..
เธอกลับมาถึงบ้าน
ไปหาหยิบสายสิญจน์เอาเล็บครุฑมาร้อยไว้
แต่หาได้พ้นสายตาของวิไลพร..
"นั่นเธอจะทำอะไร?.."
"เปล่า..แค่พระที่วัดให้มาของธรรมดาเท่านั้น"
"งั้นก็แล้วไป..
ว่าแต่พี่มั่นไปไหนแล้ว"
"พี่มั่นจ๋า..
เมียหิวข้าวแล้วนะ!"
มั่นเดินออกมาจากในบ้าน
"แพงตา..เธอทำอะไรให้พวกฉันกินวันนี้?"
"พี่มั่นก็ไปดูเองสิ..
มีแต่ของโปรดพี่ทั้งนั้น"
มั่นเดินไปเปิดสำรับดู
แล้วเอามือกวาดทิ้งกับพื้นทันที
"โธ่เว้ย..ทำไมมีแต่ของเก่าๆ
เบื่อจริง!!"..
แพงตาเดินไปเก็บถ้วยชามที่แตกสลายคล้ายกับใจ
ของเธอตอนนี้ แปลกที่คราวนี้น้ำตาของเธอทำให้
มั่นสะอึก เขาเดินมาจับมือเธอไว้ สายตาห่วงหา
อาทรคืนกลับมา..
เหมือนวิไลพรจะรู้ทัน
เธอเดินมากอดมั่นพร้อมเป่าลมเบาๆเข้าที่หูเขา
มั่นลุกขึ้นสะบัดมือแพงตาออกทันที..
จังหวะนั่นเองตอนที่วิไลพรเดินนำหน้าจูงมือมั่น
เพื่อจะเข้าห้องนอนไป แพงตาเอาสร้อยเล็บครุฑ
ที่เตรียมไว้คล้องคอใส่ให้มั่นทันที
มั่นหยุดเดินทันทีพร้อมกับหันมามองแพงตา
เหมือนดังจะรู้ใจทั้งสองคนสบตาบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน...
เมื่อวิไลพรหลับไป
มั่นซึ่งตอนนี้มนต์เสน่ห์ได้ถูกเล็บครุฑแก้ไป
ลงมาหาแพงตาพร้อมกับทิดจันพันวาที่มารอก่อนแล้ว ทั้งหมดเล่าเรื่องราวให้มั่นฟัง
เขาคุกเข่าลงกอดเอาหน้าซบกับท้องของแพงตา
แล้วร้องไห้ ขอโทษเธอกับลูก แพงตายิ้มแล้วบอก
ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยโกรธพี่เลย
คนอยู่ด้วยกันมานานย่อมรู้ดีว่าเขาเป็นเช่นไร
พี่รักฉันมากเท่าชีวิตฉันยังจำได้ดี..
แล้วทิดจันกับพันวาบอกว่าคงเป็นเพราะน้ำในกระบอกไม้ไผ่คืนนั้นที่นางให้เขากิน..
ว่านดอกทองกับนางหลงมีอานุภาพมากอยู่แล้ว
ยังมีแม่เป๋อมาเพิ่มพลังอีกเลยพลาดทันที
แล้วจะทำอย่างไรกับวิไลพรดี?..
มั่นพาทิดจันกับพันวาขึ้นมาข้างบน
เขาเป่ามนต์ให้เธอหลับไหลข้ามวัน
ให้ทิดจันพันวาห่อเสื้อผ้าแล้วเอาเธอออกไปไว้ในป่าห่างจากหมู่บ้านข้ามภูเขาไปหลายลูก
หากเจอหมู่บ้านคนจงเอาเธอไปไว้
และมั่นสั่งทั้งคู่ว่าห้ามไปยุ่งกับเธอเพราะมิฉะนั้น
อาจตามมาทำร้ายครอบครัวคนอื่นอีก..
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป
มั่นก็กลับมาเป็นคนเดิม
สามีที่รักแพงตาอย่างสุดหัวใจ...
เพียงเพราะดื่มน้ำที่ผู้หญิงแปลกหน้าเอามาให้
แล้วไม่คิดอะไรทำให้ต้องเกือบเสียเมียและลูกไป
อย่าเชื่อใจตัวเองว่าไม่คิดอะไร
เพราะไม่ว่าบุรุษจะแข็งแรงแค่ไหน
แต่ความงามของสตรีนั้นน่ากลัวมากหากไม่ยับยั้งใจตนเอง...
พอแพงตาท้องเริ่มใหญ่ขึ้น
มั่นก็เริ่มจะหาตัวแทนเพื่อเป็นนายฮ้อยคนต่อไป
แต่จะเป็นใครดีที่คู่ควร...
"บทที่๔..สุดท้ายก็พ่ายเมีย"
หลังจากที่มั่นถูกทำเสน่ห์ใส่แล้วถูกแก้โดย
งามตาผู้เป็นภรรยาแล้ว ด้วยความที่ว่า
เธอท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที
เขาจึงคิดจะวางมือแล้วหาคนมาสืบต่อ
ตำแหน่งนายฮ้อยคนต่อไปแทน..
มองหาดูคนในคาราวานด้วยกัน
มันไม่มีใครพอจะเป็นได้เลย
วันเวลาผ่านไปจนงามตาท้องได้แปดเดือน
มั่นยิ่งร้อนใจเข้าไปทุกที..
ในวันหนึ่งเขาพางามตาไปไหว้พระที่วัดป่า
หลวงตาบอกกับเขาว่า
ได้ข่าวจากญาติโยมว่ามีหมอผีมาอยู่ท้ายหมู่บ้าน
เราไม่รู้มันมาได้อย่างไร เห็นบอกวันโกนวันพระ
จะปล่อยปอบที่มันเลี้ยงออกมากินวัวควายในหมู่บ้าน
นี่ถ้ามันหมดเมื่อไหร่เกรงว่ามันจะกินคนน่ะสิ!
แล้วท่านก็หันมองไปทางงามตา
"โดยเฉพาะคนท้องนี่ล่ะของชอบมันเลย!"
มั่นเอามือมากุมเธอไว้มองอย่างห่วงใย
พร้อมบอกหลวงตาว่า
"ผมจะไม่ให้มันมาทำอะไรคนในหมู่บ้านได้ครับ"
หลังจากวันนั้นไม่นาน
เริ่มมีวัวควายทยอยตายลง
แรกๆก็ตัวสองตัว หลังๆเริ่มคืนละสามสี่ตัว
ชาวบ้านเดือดร้อนมาก
มั่นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะมันไม่มีหลักฐาน
ไปกล่าวหาใคร แต่ที่สำคัญวัวควายที่ตาย
พอผ่าท้องออกมาเครื่องในไส้พุงหายไปจนหมด
จนคืนหนึ่งราวสามสี่ทุ่ม
มีเสียงคนวิ่งมาหาเขาที่บ้าน
"นายฮ้อยๆ..ช่วยเมียฉันที!"
มั่นเดินออกมาเป็นไอ้บุญ
ชาวบ้านหนุ่มพึ่งสึกออกมาไม่นาน
"มีอะไรรึไอ้บุญ..หน้าตาตื่นเชียว"
"ก็อีนางจำปีเมียฉันมันกินเลือดเครื่องในวัวสดๆ
น่ะสิ!!..ตาก็ขวางไม่สบตาฉันเลย"
"เมียเอ็งท้องอยู่ไม่ใช่หรือ..
ผิดสำแดงอะไรหรือเปล่า?"
"ฉันว่าน่าจะเป็นปอบแฝงมัน!"
"ทำไมเอ็งคิดแบบนั้น?"
"ก็เมื่อเย็นเห็นจำปีมันบอกเห็นผู้หญิงแก่ๆ
หลังค่อมมากวักมือเรียกมันแล้วมันเดินออกไปหา
ก็ไม่เจอ ไม่ถึงชั่วโมงมันก็เป็นแบบนี้เลย"
มั่นบอกว่างามตาปิดบ้านดีๆนะจะรีบไปรีบมา
เธอพยักหน้าให้บอกให้เขารีบไปบ้านนายบุญเถอะ
พอไปถึงบ้านนายบุญ
ภาพที่มั่นเห็นคือ จำปีในชุดผ้าซิ่นใส่เสื้อม่อฮ่อมสีดำกำลังนั่งเอามือหยิบไส้เครื่องในวัวใส่ปากอย่าง
เอร็ดอร่อย มืออีกข้างก็เอาเลือดสดๆในถ้วยยกซด
สลับกันไป..
ชาวบ้านมุงดูด้วยอาการขนลุก
มั่นเดินไปหยุดตรงหน้าจำปี
"มึงเป็นใคร?
มาแฝงร่างนังจำปีทำไมมันยิ่งท้องอ่อนอยู่"
มันหยุดค่อยๆเงยหน้ามองเขาแสยะยิ้มให้
"กูสิงมันเพราะจะกินเด็กในท้องมัน
เด็กอ่อนนี่มันหวานนักกูชอบ!"
"ออกจากร่างเขาไปเดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากมีเรื่อง!"
"ให้กูกินอีนี่ก่อน..
และคนต่อไปก็คือเมียของมึง!"
มั่นเดินไปหวังจะเป่ามนต์คาถาใส่หน้า
แต่ทว่ามันปัดถ้วยเลือดใส่หน้าเขา
มั่นยกมือกันไว้
พลันได้ยินเสียงคนกรีดร้อง
พอเอามือลงภาพที่เห็นคือ
จำปีไปนั่งห้อยขาอยู่บนขื่อกลางบ้าน
หัวเราะเสียงเล็กแหลมน่ากลัวจับขั้วหัวใจ
"แน่จริงก็มาจับกูสิ"
มั่นถอดตะกรุดเหล็กไหลที่คาดเอวออกมา
บริกรรมคาถาแล้วขว้างใส่
ปรากฏว่ามีดวงไฟสีดำพุ่งออกจากร่างจำปี
ลอยหายไปทางหน้าต่าง จำปีจะร่วงลงสู่พื้น
มั่นกระโจนไปรับไว้ได้ทัน บุญรีบเข้ามารับตัวไป
พร้อมกับบอกว่ามันไปแล้วนายฮ้อย
มั่นคิดถึงคำพูดผีปอบแล้วก็นึกขึ้นได้..
"งามตา!!"
เขารีบวิ่งกลับมาที่บ้านทันที
สิ่งที่เขาเห็นคือชายร่างกำยำหัวโล้น
ใส่สร้อยประคำทั้งข้อมือและคอ
ยืนบีบคองามตาอยู่กลางบ้าน
ทิดจันและนายบุญที่ตามมาบอกใครกันนายฮ้อย
"ปล่อยเมียกู!!"
"ได้ข่าวว่ามึงเป็นนายฮ้อยใช่ไหม?
เก่งแค่ไหนวะกูอยากรู้?"
"กูเอาคาถาอาคมที่มีป้องกันตัวและไม่เคยทำร้าย
ใครเหมือนมึง"
"ถุย!!..
มึงยังเคยถูกเสน่ห์ทำใส่เลย
กูมองเห็นจากอดีตของมึง!!"
แล้วหมอผีนั้นก็โยนร่างของงามตาไปกระแทกกับ
ฝาบ้าน ทำให้มั่นโมโหมาก เขาพุ่งเข้าไปหาหมอผี
แต่กับถูกมันจับหัวไว้เป่าคาถาใส่
ร่างของมั่นขยับไม่ได้หน้าแดงดังไฟเส้นเลือดขึ้นปูดโปน ทิดจันกับบุญมองหน้ากัน
ท่าท่างนายฮ้อยจะเสียท่ามันแล้ว..
ทันใดนั้น
มีบางอย่างมากระทบตัวหมอผีนั้นทำให้มันกระเด็นออกไป มั่นหันดูสิ่งนั้นคือเล็บครุฑนั่นเอง
ระหว่างนั้นมีเสียงเข้ามาในจิตว่า..
"คาถาอาคมย่อมเสื่อมเมื่อเจอกับสตรี!"
เขาจำได้ทันทีว่าคือเสียงของคำคอน..
"ถอดจิตเอ็งไปในร่างงามตาแล้วไปจัดการมัน"
มั่นหันมองงามตาที่สลบอยู่
ภาวนาแล้วถอดจิตไปแฝงในร่างเธอ
ลืมตาเดินมาหาหมอผีที่กำลังจะลุกขึ้นมา
"อีนี่มึงฤทธิ์เยอะนักนะ!"
แต่ไม่ทันแล้ว
งามตาต่อยเข้าที่หน้ามันอย่างแรง
สร้อยประคำแตกกระจายเต็มพื้น
มันเลยมองจ้องเข้าไปในร่างของงามตา
จึงเห็นว่ามั่นถอดจิตเข้าไปอยู่..
"มึงต้องอาศัยร่างเมียเลยเหรอวะ!"
สิ้นคำงามตาโยนผ้านุ่งมาครอบหัวมันไว้
บริกรรมคาถาแล้วตบหัวไปสองทีจนมันแน่นิ่งไป
งามตาหันกลับมามองทิดจันและบุญพร้อมพยักหน้าว่าเรียบร้อยแล้ว มั่นจึงถอดจิตออกกลับมาเข้าร่างเดิม พอเขาไปดูงามตาปรากฏว่าหัวแตกเล็กน้อย
ลูกในท้องไม่เป็นอะไร.....
ทิดจันมาเปิดผ้านุ่งดู
หมอผีสลบอยู่ในนั้น มั่นบอกมันโดนผ้านุ่งครอบหัวแล้วอาคมเสื่อมสลายหมด เอามันมัดแล้วไปทิ้งที่บ้านมัน...
แล้วมั่นก็มาคิดได้
ทำไมต้องไปหาใครคนไกล
ก็ทิดจันนี่ไงที่น่าจะเป็นนายฮ้อยที่ดีได้
เขาจึงถ่ายทอดวิชาคาถาอาคมที่มีให้ทิดจัน
เพื่อสืบทอดต่อไป ส่วนงามตาพอครบกำหนดคลอดก็ได้ลูกสาว เธอถามเขาว่าตอนนั้นเขาจัดการหมอผีร้ายได้อย่างไร..
มั่นกอดเธอไว้แน่น
เพราะว่างามตาไงเอาเล็บครุฑขว้างใส่มันก่อนสลบไปและพี่ก็เอาร่างเธอไปปราบมัน..
"สุดท้ายแม้ว่าผู้ชายจะแข็งแกร่งเพียงใด
ก็ต้องอาศัยเมียที่ดีเป็นคนดูแลเคียงข้างสู้ไปด้วย
กันเสมอ"..
 
หลังจากเหตุการณ์นั้นก็ไม่มีเรื่องราวร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลย มั่นก็ใม่ได้ใช้คาถาอาคมอีกตั้งแต่นั้นมา..
จนสร้างครอบครัวเรื่อยมาและมาตั้งรกรากมีเพื่อนผมเป็นหลานนี่ล่ะครับ...
เรื่องราวทั้งหมดมีเท่านี้ครับ...
ปล.พรุ่งนี้จะลงเรื่องเกี่ยวกับความรักที่ผ่านการบอกเล่าของดารินญาตอนไปเที่ยวที่เมืองจีนครับ..
"แซ่ซี้อ้ายลื้อเจ๊กนั้ง
(ชาตินี้รักเธอคนเดียว)"..
โฆษณา