หากเราย้อนกลับไปดูประวัตศาสตร์ เราจะพบว่าบรรดาศอหาบียะห์(บรรดาสาวกของท่านนบีที่เป็นผู้หญิง)บ้างคนแต่งงานกับศอหาบะห์ถึงสี่คน(เป็นการแต่งที่ละคนแบบเรียงลำดับ)
👉เรามาดูตัวอย่างของพระนางอาตีกะห์ รอดิยั้ลลอฮุอันหา
👉นางเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการแต่งงานกับลูกชายของท่านอบูบักร(รอดิยัลลอหุอันฮุมา)
👉เขารักนางมาก และนางก็รักเขามาก และเป็นความรักที่แสนบริสุทธิ์
👉ต่อมาเขาไปเขาร่วมสงครามและพลีชีพในสงคราม(ตายชะฮีด)
👉หลังจากนั้นท่านอุมัร(รอดิยัลลอหุอันหุ)ได้เสนอตัวของท่านเอง และแต่งงานกับนาง
👉หลังจากนั้นท่านก็ได้ตายชะฮีด
👉ต่อมาท่านซุเบร บุตรเอ้าวาม ได้ให้เกรียตินางด้วยกับการแต่งงานกับนาง
👉หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็ตายชะฮีด
👉ต่อมาท่านซุเบร บุตรเอ้าวาม ได้ให้เกรียตินางด้วยกับการแต่งงานกับนาง
👉หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็ตายชะฮีด
🌟เรากลับไม่พบเลย ว่าผู้คนเรียกนางว่า”ผู้หญิงกินสามี” 🌟
🌟แต่เรากลับพบผู้คนโจษขานกันว่า “ใครอยากได้ชะฮีด ให้แต่งงานกับนาง” 🌟
✍️เรามักไม่พบว่า บรรดาสามีของนางรังเกียติอดีตของนาง
✍️ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามักละเล่นกับลูกๆของนางที่เกิดจากสามีคนก่อน สั่งสอนพวกเขา ให้ความอบอุ่นแก่พวกเขา👶👶👶
💞#เพราะนี้คือความสวยงามของอิสลาม💞
💞#เพราะนี้คือการให้เกียรติแก่ผู้หญิงในทัศนะของอิสลาม💞