5 ม.ค. 2020 เวลา 03:30 • ไลฟ์สไตล์
#เรื่องสั้น
เรื่องเล่าจากตะนาวศรีเทรล
ตะนาวศรีเทรล ความทรงจำของฉันมีมากมายเหลือเกินสำหรับที่แห่งนี้ โดยเฉพาะเขาแหลม ที่ที่ฉันต้องกลับไปเผชิญกับมันอีกครั้ง ยอดเขาที่สร้างความปวดช้ำจนเกิดเป็นบาดแผลภายในจิตใจ แล้วทำไมฉันถึงอยากจะกลับมายังที่แห่งนี้อีกครั้ง
เมื่อปีที่แล้วฉันกับคนรักเก่าได้สมัครลงแข่งขันวิ่ง ตะนาวศรีเทรล ระยะ 30 กิโลเมตร ซึ่งมีจุดไฮไลท์ที่ยอดเขาแหลม นักวิ่งทุกคนในระยะนี้ต้องการผ่านมันไปให้ได้ ถึงแม้เส้นทางจะยากลำบาก เราก็เป็นเช่นเดียวกันกับนักวิ่งคนอื่น เราประสบความสำเร็จในการขึ้นถึงยอดเขา และประคับประคองกันเพื่อลงมาจากเขาลูกนั้น
แต่แล้วก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อเราไม่สามารถที่จะลงมาถึงจุดตัดตัวนักวิ่งได้ภายในเวลาที่กำหนด ความฝันที่จะกลายเป็น Finisher Tanaosri Khao Leam Peak ต้องจบลง และอีกไม่กี่เดือนต่อมา ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ก็ค่อย ๆ จืดจางลง จนกระทั้งถึงจุดที่ไม่สามารถไปต่อกันได้อีกแล้ว
ขอบคุณภาพจาก : Tanaosri Trail
ความผิดหวังในครั้งนั้นฉันได้แต่โทษตัวเอง สารพัดเรื่องราวที่สามารถจะนึกขึ้นได้ ถูกกระหน่ำซ้ำเติมมาที่จิตใจของฉันอย่างไม่หยุดยั้ง และไม่มีความปราณีใด ๆ ทั้งสิ้น จิตใจของฉันยิ่งจมดิ่งลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั้งอีเมลแจ้งเตือน ดังขึ้นมาผ่านทางหน้าจอมือถือ เพื่อเตือนถึงข้อมูลการรับสมัครแข่งขันรายการวิ่ง และก็ได้พบว่าตะนาวศรีเทรล ประจำปี 2019 กำลังจะเปิดรับสมัครในอีกไม่กี่วันแล้ว
ฉันไม่อยากที่จะกลับไปที่แห่งนี้ ทำไมฉันจะต้องกลับไปวิ่งในสถานที่ ที่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการจบความสัมพันธ์ ฉันโทษทุกอย่างแม้กระทั้งสนามวิ่งเทรล ซึ่งเป็นสถานที่ฉันผ่อนคลายกับมันได้มากที่สุด แต่ข้างในเบื้องลึกในจิตใจของฉัน ก็เรียกร้องอยากที่จะกลับไป ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงมีความรู้สึกนี้ อาจเป็นเพราะเพื่อต้องการพิสูจน์ว่าฉันก็สามารถทำได้ หรืออาจจะแค่อยากให้คนรักเก่าของฉันได้เห็น เผื่อจะมีความหวังในการกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
ขอบคุณภาพจาก : Tanaosri Trail
ฉันเรียนรู้จากความผิดหวังเมื่อครั้งก่อน ประสบการณ์สอนฉันว่า ถ้าอยากจะก้าวผ่านสนามแห่งนี้ จะต้องทำการบ้านให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ฉันก้มหน้าฝึกซ้อมวันแล้ววันเล่าด้วยตัวเองเพียงลำพัง
ฉันพอใจกับการฝึกซ้อมของฉัน และคิดว่าคงจะเพียงพอสำหรับการเอาตัวรอดจากตะนาวศรีเทรลไปได้ แต่แล้วความผิดพลาดก็เกิดขึ้นกับฉันอีกครั้ง อุณหภูมิในเวลาตีห้าครึ่งของวันแข่งขัน ลดลงต่ำถึง 11 องศา แต่ฉันกลับไม่ได้เตรียมสิ่งใด เพื่อที่จะมาปิดบังร่างกายจากความหนาวได้อย่างเพียงพอ มีเพียงเสื้อยืดชั้นใน และเสื้อแขนกุดของงานที่แจกเป็นที่ละลึกเท่านั้น ความคิดลบกับตัวเองถูกจุดติดขึ้นมาอีกครั้ง ในใจคิดถึงการอยากกลับไปที่พัก และทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยฝึกซ้อมมา
แต่แล้วก็มีเสียงเรียกชื่อฉัน เป็นเสียงของรุ่นพี่ที่เคยอยู่คณะเดียวกัน ฉันกับรุ่นพี่ไม่ได้สนิทสนมกันเลย ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน ก็คือตอนรุ่นพี่จบการศึกษา การปฏิสัมพันธ์อย่างเดียวของเรา คือการกดถูกใจให้กัน และกันทาง Social Media เท่านั้น เราไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบตามมารยาทคนรู้จัก ฉันคิดว่าพอเริ่มวิ่งคงจะแยกย้ายกัน และไปเจอกันใน Social Media เหมือนเดิม แต่แล้วรุ่นพี่ก็พูดขึ้นมา "พี่วางแผนวิ่งจบ 7 ชั่วโมง ไปด้วยกันไหม"
ฉันรีบปฎิเสธไปอย่างรวดเร็ว เพราะคิดว่ามันเกินกำลังของฉันมาก เอาแค่ให้จบทันเวลา 12 ชั่วโมง ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้ไหม แต่รุ่นพี่จะดูเหมือนจะเชื่อเหลือเกินว่าฉันก็สามารถทำได้ จากจุดเริ่มจนมาถึงสำนักสงฆ์หัวสาม ซึ่งเป็นจุด Check point แรก ไม่รู้ว่าฉันเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ฉันทำมันได้ดีเกินคาด อาจเป็นเพราะการฝึกซ้อม หรืออาจเป็นเพราะกำลังใจที่มีคนเชื่อมั่นในตัวฉันก็ได้
ขอบคุณภาพจาก : Tanaosri Trail
แต่ฉันก็ไม่ชะล่าใจ เพราะรู้ว่าเส้นทางข้างหน้ายังยากกว่านี้ และก็เป็นอย่างที่ฉันคิด หลังจากออกจากสำนักสงฆ์หัวสาม จะต้องไต่ระดับความชันผ่านผาปกไป แต่ฉันก็แปลกใจไม่น้อยที่ Check point ต่อไปคือบ้านห้วยน้ำขาว ซึ่งจะแตกต่างกับปีที่แล้ว ที่นักวิ่งจะต้องลงมาจากเขาแหลมก่อนแล้วมาเจอบ้านห้วยน้ำขาว กลับกันในปีนี้ผู้จัดเลือกที่จะให้เราเจอบ้านห้วยน้ำขาวก่อนขึ้นเขาแหลม
บ้านห้วยน้ำขาวเปรียบเสมือนที่ที่ปลอดภัย มีอาหาร มีที่พักผ่อนร่างกาย รวมถึงเป็นจุดกลับ ไปยังจุดเริ่มต้นได้สะดวกสำหรับนักวิ่งที่ไม่ต้องการไปต่อ หรือลงมาจากเขาแหลมไม่ทันเวลา ครั้งนี้ฉันคิดว่าผู้จัดต้องการที่จะเล่นกับจิตใจของนักวิ่ง ว่าจะยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเขาแหลม หรือถ้าเลือกที่จะไปต่อก็ไม่สามารถย้อนกลับมาได้โดยสะดวกสบายอีกแล้ว
ถ้าเปรียบเทียบกับความสัมพันธ์ของฉัน ฉันคงอยากจบความสัมพันธ์ในขณะที่ยังไม่ได้ผูกพันธ์ลึกซึ้งอะไรมากมาย มากกว่าความสัมพันธ์ที่เผชิญกับสิ่งต่าง ๆ กันมามากมาย ถ้าในครั้งนั้นมีสิทธิ์เลือกอย่างวันนี้ ฉันคงเลือกที่จะไม่ขึ้นเขาแหลมกับเขา
ขอบคุณภาพจาก : Tanaosri Trail
ฉันเลือกที่จะเผชิญหน้ากับเขาแหลมอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ฉันกลับมีความรู้สึกว่า เขาแหลมที่มีแต่ความยากลำบากในครั้งก่อน ในวันนี้ฉันกับผ่านมันได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และไม่ต้องทรมานกับมัน อาจเป็นเพราะความลำบากทั้งหมดมันทำให้ฉันแกร่งขึ้น ฉันก็เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง ที่สามารถทำผิดพลาดได้ เสียใจได้ ร้องไห้ได้ ถึงแม้จะให้ความรักกลับคืนมาไม่ได้ แต่แค่อยากจะขอบคุณที่ผ่านช่วงเวลายากลำบากมาด้วยกัน ขอบคุณประสบการณ์จากเขาแหลม
เทือกเขาแหลมก็ตั้งอยู่ที่เดิม งานตะนาวศรีเทรลก็ยังจัดทุกปี แต่ความรู้สึกแต่ละครั้งที่ได้สัมผัส มันไม่มีทางเหมือนกันได้เลย หลังจากลงจากเขาแหลม ฉันคงไม่มีสิ่งใดติดค้างคาใจกับเขาแหลมอีกแล้ว รวมถึงคนรักเก่าของฉันด้วย
ขอบคุณภาพจาก : Tanaosri Trail
ฉันมองไปยังข้างหน้า ที่ยังต้องมีอะไรให้เจออีกมากมาย ฉันจะไม่หยุดแค่ตรงนี้ งานตะนาวศรีเทรลไม่ได้มีแค่เขาแหลม ยังมีเขากระโจม มีจุดชมวิวห้วยคอกหมูที่สวยงามที่ฉันยังไม่ได้ไปสัมผัส เส้นทางข้างหน้าแน่นอนว่ามีแต่จะยากขึ้น แต่คงไม่ยากเกินกำลังกาย และกำลังใจ ฉันขอเวลาไปซ้อมร่างกายให้มีความพร้อมมากยิ่งขึ้น แล้วปีหน้าฉันจะกลับมาใหม่ ตะนาวศรีเทรล
โฆษณา