#แขนหัก รถเข็น และ.... เม็ดเลือด
คนไข้ที่มากันอย่างล้นหลามในวันศุกร์แห่งชาติหลังปีใหม่มาหาหมออย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือเคสชายคนนี้
ญาติเข็นรถนั่งเข้ามาห้องตรวจ มีหญิงสูงวัยอีกท่านเดินตามเข้ามาด้วย ตอนนี้เรามีกันอยู่ 4 คนในห้องรวมหมอและผู้ช่วยด้วย คนไข้บนรถนั่งเป็นชายค่อนข้างผอม แขนซ้ายบวมมีรอยฟกช้ำม่วงแถบใหญ่
ได้ใจความว่า เมื่อ 5 วันก่อน ล้มแขนซ้ายกระแทกกับประตูเหล็กที่บ้าน ปวดมา 5 วันแล้ว และรอยช้ำนี้ก็ไม่ได้มีทีท่าจะยุบลงเลย ศีรษะไม่ฟาดอะไร โชคดี มีสติและจำเหตุการณ์ได้ทั้งหมด
ตรวจร่างกายดูแล้ว แขนอันช้ำนี้ วงกว้างจัง และการเคลื่อนตัวของแขนทำได้ไม่ดีนัก ไม่ชาแขน และคลำชีพจรที่แขนแล้วยังดีอยู่ ถึงแม้จะผ่านมา 5 วันแล้ว แต่ก็ยังคงต้องสงสัยว่ามันจะหักอยู่ดี
หมอแนะนำเค้าไปเอกซเรย์ดูหน่อย สงสัยว่าอาจจะหักได้ คนไข้ก็ปฏิเสธ บอกขอแค่ยาก็พอ ไม่หักหรอก ยังขยับได้อยู่เลย อยากกลับบ้านแล้ว
ท่าทีที่รีบร้อนทำให้หมอคิดว่าเค้าไม่ค่อยอยากคุยกับหมอเลย ...
หันไปมองหน้าญาติ แววตาของพวกเขาขัดกับความรีบร้อนของคนในรถนั่งจัง บรรยากาศคุขึ้นมาในห้องตรวจ
"เอกซเรย์หน่อยเถอะค่ะ เพราะรอยช้ำมันกว้างขนาดนี้ ยกแขนยังไม่ค่อยขึ้นเลย ถ้าไม่หักจะได้สบายใจค่ะ"
คนไข้นั่งนิ่ง พยักหน้าเบา ๆ
หลังจากดูผลฟิล์มแล้ว เอกซเรย์ไม่สู้ดี มีรอยหักที่กระดูกต้นแขนจริง รอยหักเคลื่อนเล็กน้อย นี่คงเป็นหตุที่ทำให้เค้ายกแขนไม่ค่อยไหว และรอยช้ำยังไม่ยุบ ก็กระดูกหักนี่นา เลือดยังคงออกภายในชั้นเนื้อเยื่อ แขนที่ยังขยับตลอด 5 วัน ไม่ได้ดาม จะยุบได้อย่างไร
ภาพยืนมาจาก https://www.shoulder-pain-explained.com/humerus-fracture.html
เลยแนะนำแนวทางการรักษให้ และแจ้งว่าต้องนัดพบคุณหมอเฉพาะทางกระดูกต่อด้วย สีหน้าของคนไข้บนรถนั่งเศร้าทันที อือ... คนกระดูกหักใครเค้าจะดีใจกันหล่ะ
หมอกำลังคีย์ยาไปในคอมพ์ คิดไปด้วย
' เอ๊ะ ทำไมปวดแค่แขน ต้องนั่งรถนั่งหล่ะ !?? '
ชะงักมือจากคีย์บอร์ดแล้วเขยิบหันหน้าตรงหาคนไข้
"คนไข้อยู่บ้านเดินเป็นยังไงบ้างคะ"
เหมือน dead air ประมาณ 5 วินาที เหมือนไม่มีใครอยากตอบ
ญาติชายที่เป็นคนเข็นรถนั่งหันหน้าสบตามองคุณป้าที่ยืนฟังอยู่ด้วย แล้วพูดออกมาว่า "เค้ามีโรคประจำตัวอยู่ครับ"
.."โรคเส้นเลือดสมองอะไรรึเปล่าคะ"
คนไข้ที่นั่งเงียบมากนานก็ตอบสวนมาว่า "ไม่ครับ ผมมีโรคเลือดแต่มันรักษาไม่ได้แล้ว ผมเลยไม่ได้มารักษา 15 ปีแล้ว"
ถามไปมากันอยู่นานพักใหญ่จึงได้ใจความว่า คนไข้เค้าป่วยด้วยโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ เคยเจาะไขกระดูกเมื่อ 15 ปีที่แล้วที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อทราบว่าโรคที่เป็นอยู่นี่ไม่มีทางหายขาด คนไข้ไม่มีใจมารักษาต่อแล้ว เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อันใดที่จะไปรักษา อยู่บ้านไปเท่านั้น รอวันนับถอยหลัง ตอนนั้นคิดว่าคงอยู่ได้ไม่เกิน 5 ปี แต่ก็อยู่ได้นานกว่าที่คิด ไม่อยากหาหมอเพราะรู้ว่า ไม่ว่าหมอคนไหนรู้ว่ามีโรคเลือดนี้แฝงอยู่ก็ต้องส่งนัดต่อประจำ จนไม่อยากมาหาหมอ หาหมอมันน่าเบื่อ เบื่อที่ต้องคอยตอกย้ำตัวเองเสมอว่ามันไม่หาย คุยกันกับญาติแล้วว่า จะไม่ไปหาหมอ
โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ หรือ Aplastic anemia จนปัจจุบันยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ตัวโรคทำให้เม็ดเลือด 3 ชนิดสำคัญลดลง ทั้งเม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ต่อสู้เชื้อโรค เม็ดเลือดแดงที่โอบอุ้มออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และเกร็ดเลือดที่เป็นทหารเม็ดเลือดที่ช่วยการแข็งตัวของเลือด
เมื่อสามทหารเสือนี้มีปริมาณลดลง ผลที่ตามมา คือ ติดเชื้อง่าย เหนื่อย ซีด และเลือดออกง่ายหยุดยาก !!!
เอารูปเม็ดเลือดขาวกินแบคทีเรียมาฝากค่ะ ดูเพลิน ๆ
ดังนั้นในเคสนี้ กระดูกแขนหักรอยช้ำวงกว้างมากก็มีปัจจัยสนับสนุนจากตัวโรคด้วยเหมือนกัน เมื่อคนไข้ยอมบอกทุกอย่าง ทำให้หมอรู้สึกต้องให้คำแนะนำและให้กำลังใจอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้คนไข้ทิ้งไป
" โรคเลือดชนิดนี้รักษาไม่หายขาดก็จริง แต่ก็ยังมีการรักษาประคับประคอง คนไข้ที่ป่วยด้วยโรคเลือดนี้เค้าสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างยาวนานหากมีการดูแลที่ดี และมีครอบครัวที่สนับสนุนการรักษา โดยตัวโรคแล้วไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด 15 ปีที่ผ่านมาคือของขวัญที่ให้คนไข้มีเวลาคิดได้สู้ต่อนะคะ อย่าท้อแท้ พอขาดการรักษาไปแล้วลำบากกว่าอีก อย่างวันนี้มาเจอเรื่องกระดูกหัก สมมติถ้าถึงเวลาต้องผ่าตัดจริงก็จะแก้ไขยากเพราะไม่มี Baseline การรักษามานานเลย อย่าทิ้งไปนะคะ มีญาติที่เป็นห่วงคุณมาให้กำลังใจคุณถึง 2 คนแหน่ะค่ะ "
เหมือนในละครเลยอ่ะ คุณป้าเดินมาจับมือคนไข้ ส่วนญาติอีกคนตบไหล่เบา ๆ เป็นภาพที่ดีมากเลยค่ะ ก็ต้องใส่สลิงแขนและนัดคุณหมอกระดูกให้ค่ะ :)
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องแย่ ๆ ใดใด ที่ผ่านเข้ามา ขอให้ให้โอกาสตัวเองได้ไปต่อนะคะทุกคน <3 <3
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
